ครม.ไฟเขียว "กม.จัดระเบียบยาม" ห้ามคนจบต่ำกว่า ม.3 เป็น รปภ.

เขียนวันที่
วันพุธ ที่ 08 พฤษภาคม 2556 เวลา 21:07 น.
เขียนโดย
isranews
หมวดหมู่
ข่าว

ครม.ไฟเขียว กม.จัดระเบียบธุรกิจรักษาความปลอดภัย ห้ามคนจบต่ำกว่า ม.3 เป็น "ยาม"

เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2556 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. .... ที่เสนอโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว มีสาระสำคัญคือการกำหนดนิยามคำว่า “ธุรกิจรักษาความปลอดภัย” เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าธุรกิจใดที่อยู่ภายใต้บังคับของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ รวมทั้งให้ผู้ซึ่งประสงค์จะประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยจะต้องขอรับใบอนุญาต และจะต้องจัดตั้งในรูปบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด โดยให้ใช้คำนำหน้าชื่อว่า “บริษัทรักษาความปลอดภัย” นอกจากนี้ ยังกำหนดให้พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) รับอนุญาต ต้องสวมเครื่องแบบและติดเครื่องหมาย รปภ.รับอนุญาตในขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งกำหนดหน้าที่ของ รปภ.รับอนุญาตในการช่วยเหลือพนักงานฝ่ายปกครองและตำรวจ และหน้าที่อื่นๆ

“อีกสาระสำคัญคือ หากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ผู้ที่จะขอรับใบอนุญาตทำงานเป็น รปภ. จะต้องมีสัญชาติไทย และจบการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ส่วนผู้ที่ทำงานเป็น รปภ.ก่อนที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ และจบการศึกษาต่ำกว่าระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จะต้องเข้ารับการอบรมตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง” นายภักดีหาญส์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ผู้ใดประสงค์จะเป็น รปภ.รับอนุญาตให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อนายทะเบียน ซึ่งได้แก่ ผบช.น.ในฐานะนายทะเบียนกลาง หรือ ผบช.ภ.จว.ในฐานะนายทะเบียนจังหวัด โดยต้องมีคุณสมบัติ 4 ข้อ ได้แก่ 1.มีสัญชาติไทย 2.มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ 3.สำเร็จการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3) และ 4.ได้รับหนังสือรับรองว่าได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการรักษาความปลอดภัยจากสถานฝึกอบรมที่นายทะเบียนกลางรับรองตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

และจะต้องไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม อาทิ เป็นโรคพิษสุราเรื้อรังหรือคิดยาเสพติดให้โทษหรือเป็นโรคติดต่อที่คณะกรรมการกำหนด เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดสำหรับความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน ความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดเกี่ยวกับการพนัน หรือความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ฯลฯ