
นักเคลื่อนไหวปาเลสไตน์เรียกร้องรัฐบาลไทยจำกัดวีซ่านักท่องเที่ยวอิสราเอล ชี้หลายคนเป็นอดีตทหารมีส่วนในอาชญากรรมสงคราม มีพฤติกรรมก้าวร้าว เผชิญกับภาวะ PTSD
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับผลกระทบนโยบายเปิดฟรีวีซ่าของประเทศไทยว่ากลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นรัฐปาเลสไตน์ได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยจำกัดการออกนโยบายดึงนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาประเทศไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งนโยบายนี้ครอบคลุมไปถึงนักท่องเที่ยวอิสราเอลหลายพันคน เพราะหลายคนที่ว่ามานี้เป็นอดีตทหารที่ต้องสงสัยว่ามีสภาพจิตไม่มั่นคง และอาจมีพฤติกรรมว่าเคยก่ออาชญากรรมสงคราม
นางอดิศรา กาติ๊บ ประธานกลุ่มเพื่อการรณรงค์ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของปาเลสไตน์ ประจำสาขาประเทศไทย (Palestine Solidarity Campaign)กล่าวเนื่องในวันรำลึกถึงเหตุการณ์นัคบะ (การกวาดล้างปาเลสไตน์ในปี ค.ศ.1948) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) โดยตอนหนึ่งเธอกล่าวว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยงาม โดยมีประชาชนที่ดีและเป็นมิตร อาศัยอยู่อย่างกลมกลืนในสังคมพหุนิยม อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยไม่ใช่สถานที่สําหรับซุกซ่อนหรือให้ที่พักพิงแก่อาชญากรสงคราม คุณไม่สามารถก่ออาชญากรรมที่น่าสยดสยองในปาเลสไตน์แล้วมาที่ประเทศไทยเพื่อพักผ่อน
ในงานเสวนาที่สมาคมผู้สื่อข่าวฯ มีการกล่าวตอนหนึ่งว่ามีบริษัทอิสราเอลหลายแห่งมีส่วนร่วมอย่างยิ่งกับกรณีนี้ทั้งในห่วงโซ่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว การรักษาความปลอดภัย ไปจนถึงกลุ่มนักลงทุนสตาร์ตอัพ, เกี่ยวข้องกับการจองสถานที่ท่องเที่ยว,เครื่องมือจองการเดินทาง,การชำระเงิน, การประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร, การจัดการสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์, ทนายความและที่ปรึกษาทางการเงิน, บริการสร้างแบรนด์และการตลาด ซึ่งเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทย โดยบทบาทของบริษัทอิสราเอลที่ให้ความช่วยเหลือการท่องเที่ยวไทยเหล่านี้กำลังถูกตรวจสอบโดยขบวนการที่สนับสนุนปาเลสไตน์
งานเสวนายังได้มีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนนักท่องเที่ยวอิสราเอลที่เดินทางมาประเทศไทยหลังเหตุการณ์เดือน ต.ค.2566 โดยนับช่วงเวลาตั้งแต่เดือน ม.ค.2567-เม.ย.2568 พบว่าในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมามีจำนวนเพิ่มขึ้นไป 36,294 คน
ด้านนายอาบู จาจาห์ ประธานมูลนิธิ Hind Rajab ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ทำงานเพื่อยุติวัฒนธรรมของการไม่รับโทษจากความผิดกรณีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กล่าวถึงประเด็นเรื่องความรับผิดชอบและอาชญากรสงครามอิสราเอลในประเทศไทย โดยตอนหนึ่งกล่าวว่าไทยและบราซิลเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสําหรับทหารอิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มและหญิงสาว
“ทหารเหล่านี้มีบทบาทในการลักพาตัวและเป็นผู้ที่มือเปื้อนเลือด ผมไม่รู้สึกปลอดภัยเมื่อนั่งในร้านอาหารที่หนึ่งในคนเหล่านี้ คนกลุ่มนี้เป็นบุคคลที่ก้าวร้าวและถูกทําลายทางจิตใจ หลายคนต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะ PTSD (ภาวะความเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้าย) และเป็นเหยื่อของกลไกทางภูมิรัฐศาสตร์และอุดมการณ์ของตนเอง” นายอาจาห์กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา