logo isranews

logo small 2

ยอดบริษัท ถูกตรวจสอบคืน VAT พุ่ง 60 ราย – เล็งสั่งย้าย ขรก.ระดับซี 7-8 ครั้งใหญ่

เขียนวันที่
วันอังคาร ที่ 18 มิถุนายน 2556 เวลา 18:11 น.
เขียนโดย
isranews

ไม่ใช่แค่ 30 บริษัทปริศนา!! อธิบดีกรมสรรพากร เผยยอดบริษัทเอกชน ที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 60 ราย กระจายตัวหลายกลุ่มสินค้า-พื้นที่ เล็งย้ายขรก.ระดับซี 7-8 ที่มีหน้าที่ติดต่อกับผู้เสียภาษีโดยตรง ครั้งใหญ่ ป้องกันไม่ให้สนิทสนมกันเกินไป – ยันไม่สั่งย้าย หัวหน้าสำนักงานพื้นที่บางรัก

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556 นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับบริษัทเอกชนจำนวน 30 ราย ว่า ขณะนี้คณะกรรมการกลางของกรมสรรพากร ที่แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ อยู่ระหว่างการติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก เพื่อดูว่าในขั้นตอนการคืนภาษีดังกล่าว มีปัญหาเกิดขึ้นตรงจุดไหนบ้าง ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ระบบหรือ อยู่ที่ผู้ปฏิบัติงาน คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเร็ว ๆ นี้
 

นายสาธิต กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ตัวเลขบริษัทเอกชน ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบในขณะนี้ น่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 60 กว่าราย จาก 30 ราย ที่มีการตรวจสอบพบข้อมูลไปก่อนหน้านี้ กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ แบ่งประเภทสินค้าออกเป็น 4-5 กลุ่ม คือ คอมพิวเตอร์ สินค้าอุปโภค และโลหะ โดยในกลุ่มโลหะสามารถแบ่งกลุ่มย่อยออกได้อีก 3 กลุ่ม ส่วนมูลค่าภาษียังไม่สามารถระบุตัวเลขที่ชัดเจนได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ และผู้ประกอบการในข่ายตรวจสอบบางราย อาจจะไม่ได้กระทำความผิดก็ได้ 

“เกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้ผมยืนยันว่าจะต้องตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ไม่จำกัดแค่ประเภทกลุ่มสินค้าใดสินค้าหนึ่งเท่านั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” 

นายสาธิต กล่าวยืนยันว่า ในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการวางมาตรการป้องกันปัญหาการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในช่วงที่ผ่านมา กรมสรรพากรติดตามตรวจสอบและปราบปรามผู้กระทำความผิดมาตลอด และตนก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนกลางและระดับภาคว่า จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่นำบุคคลที่ปรากฎหน้าตาในบัตรประชาชน รวมถึงที่อยู่ในต่างจังหวัด ที่ดูแล้วไม่น่าจะใช่คนที่ทำธุรกิจได้เข้ามาเป็นกรรมการหรือผู้ืถือหุ้น ซึ่งสังเกตได้ไม่ยาก  

นายสาธิต กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนยังมีนโยบายโยกย้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือ ระดับซี 9 เพื่อป้องกันไม่ให้มีความสนิทสนมกับคนในพื้นที่ รวมถึงเอกชนมากจนเกินไป ซึ่งเริ่มดำเนินการมาแล้ว 2 ปี ขณะนี้ย้ายเกือบครบทุกตำแหน่งแล้ว
 

“หลังจากที่เกิดปัญหาการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาอีก ขณะนี้ผมเริ่มมีแนวคิดว่า อาจจะต้องมีการโยกย้ายหมุนเวียน ข้าราชการระดับรองลงมา หรือ ซี 7-8 ซึ่งเป็นบุคคลที่มีหน้าที่ในการประสานงานโดยตรงกับบริษัทเอกชน ในการติดต่อเรื่องภาษี เพื่อทำให้กระบวนการทำงานของสรรพากรแต่ละพื้นที่มีประสิทธิ และตรงไปตรงมามากที่สุด ”
 

เมื่อถามถึงกรณีของ นายศุภกิจ ริยะการ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 (บางรัก) ที่ปรากฏข้อมูลว่าเป็นผู้สั่งการให้คืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่บริษัทเอกชน 30 บริษัท มูลค่า 3,647.7 ล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 6 เดือน ตามแนวทางปฏิบัติเดิมของกรมสรรพากร นั้น
 

นายสาธิต กล่าวว่า ขณะนี้เป็นหน้าที่ที่คณะกรรมการกลาง จะเป็นผู้พิจารณาว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากพบว่าการดำเนินงานมีปัญหาเกิดขึ้นจริง และเป็นความผิด ผลการสอบสวนที่ออกมา ก็จะนำไปสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยต่อไป แต่ขณะนี้ผลการตรวจสอบยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่สามารถแสดงความเห็นอะไรได้
 

อธิบดีกรมสรรพากร ยังระบุด้วยว่า ในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการคืนภาษีที่ผ่านมา หากกรมสรรพากรใช้กระบวนการตรวจสอบข้อมูลที่นานเกินไป เอกชนบางรายก็อาจไม่พอใจ และนำไปสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อกรมสรรพากรได้

เมื่อถามว่า จะมีคำสั่งย้ายข้าราชการรายนี้ออกจากพื้นที่หรือไม่ อธิบดีกรมสรรพากรระบุว่า "กรมสรรพากร ได้เรียกเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาเก็บไว้ที่ส่วนกลางหมดแล้ว ไม่มีใครสามารถที่จะมาเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรได้ การสั่งย้ายหรือไม่ย้ายก็มีค่าเท่ากัน”