เปิดผลสอบ สตง.ชำแหละระบบบริหารทรัพย์สิน รฟท.ฉบับเต็ม!
"..มีผู้เช่าบางส่วนปฏิบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญา โดยผู้เช่าใช้พื้นที่ล่วงล้ำออกไปนอกเขตเช่าและต่อเติมอาคารนอกเหนือจากแบบที่กำหนด มีการบุกรุกเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ว่างระหว่างอาคารที่ รฟท. กันไว้ ผู้เช่าโอนสิทธิการเช่าหรือให้เช่าช่วงโดยไม่แจ้งให้ รฟท. ทราบ และผู้เช่าใช้พื้นที่เช่าต่างไปจากความจำนงเดิมที่ระบุไว้ในสัญญา.."
หมายเหตุ "สำนักข่าวอิศรา" : เป็นรายงานการตรวจสอบการดำเนินงานการบริหารจัดการประโยชน์ในทรัพย์สินการรถไฟแห่งประเทศไทย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ฉบับเต็ม โดยระบุสาระสำคัญว่าฝ่ายบริหารทรัพย์สินเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบด้านการวางแผนและบริหารทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ผลการดาเนินงานที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของ รฟท. นั้น เป็นไปในลักษณะของการขาดทุนและก่อภาระแก่รัฐบาลมาโดยตลอด
.......................
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการและนำมาซึ่งความเจริญของกิจการรถไฟ ให้ก่อเกิดประโยชน์ต่อรัฐและประชาชน นอกจากธุรกิจหลักที่เกี่ยวกับการให้บริการด้านขนส่งแล้ว รฟท. ยังมีทรัพย์สินที่สามารถนำมาบริหารเพื่อจัดประโยชน์ให้เกิดขึ้นในทรัพย์สิน โดยมีฝ่ายบริหารทรัพย์สินเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบด้านการวางแผนและบริหารทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
หากแต่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของ รฟท. นั้น เป็นไปในลักษณะของการขาดทุนและก่อภาระแก่รัฐบาลมาโดยตลอด
รฟท. มีทรัพย์สินประเภทที่ดินจำนวนประมาณ 234,652.18 ไร่ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ใช้เพื่อกิจกรรมด้านการเดินรถและขนส่ง สำหรับพื้นที่ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 36,037.43 ไร่ จะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการนาไปใช้ในการจัดประโยชน์ โดย รฟท. ได้แบ่งความรับผิดชอบให้กับฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ฝ่ายการเดินรถ และสำนักงานจัดการทรัพย์สิน ดำเนินการจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินและบริหารสัญญาเช่า
ในปีงบประมาณ 2549 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รายงานผลการตรวจสอบ การบริหารการจัดประโยชน์ในทรัพย์สินการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งผลจากการตรวจสอบพบว่า การพิจารณาจัดทำสัญญาเช่าที่เริ่มต้นใหม่มีความล่าช้า มีสัญญาเช่าที่ครบกำหนดแต่ยังไม่ได้ต่ออายุสัญญาจำนวนมาก มีสัญญาเช่าจำนวนมากที่มีหนี้ค้างชำระ ผู้เช่าบางส่วนปฏิบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญา และได้เสนอแนะให้ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งพบว่า การดำเนินการของ รฟท. ยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และกลายเป็นปัญหาสะสมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบติดตามความคืบหน้าของการบริหารการจัดประโยชน์ในทรัพย์สินของ รฟท. เพื่อทราบปัญหา อุปสรรคหรือข้อจำกัดในการดำเนินงาน และเพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไขการบริหารการจัดประโยชน์ในทรัพย์สินให้มีประสิทธิภาพต่อไป
โดยได้ตรวจสอบการบริหารทรัพย์สินและการบริหารสัญญาเช่าของฝ่ายบริหารทรัพย์สิน รฟท. ซึ่งจากการตรวจสอบพบประเด็นปัญหาในการบริหารจัดการทรัพย์สินดังที่เคยรายงานไว้ในรายงานผลการตรวจสอบที่ผ่านมา ทั้งปัญหาการพิจารณาจัดทำสัญญาเช่าที่เริ่มต้นใหม่มีความล่าช้า สัญญาเช่าที่ครบกำหนดแต่ยังไม่ได้ต่อสัญญาจานวนมาก ปัญหาหนี้ค่าเช่าค้างชาระ ปัญหาผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา ปัญหาความไม่ชัดเจนของข้อมูลทรัพย์สินหรือพื้นที่ที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาด้านระบบฐานข้อมูลทรัพย์สินและสัญญาเช่าที่ยังไม่เป็นปัจจุบัน โดยปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาสะสมต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีต หาก รฟท. ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม เพื่อให้ระบบการบริหารจัดการทรัพย์สินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลอย่างเต็มศักยภาพแล้ว ย่อมส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อการบริหารการจัดประโยชน์ ในทรัพย์สิน รฟท. และเสียโอกาสในการจัดหารายได้จากทรัพย์สินที่ยังไม่ถูกนามาใช้ในการจัดหาประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ ดังนี้
- รฟท. เสียโอกาสในการได้รับเงินค่าเช่าที่ผู้เช่าจะต้องชำระตามกำหนดเวลาในเงื่อนไขสัญญา หรือได้รับเงินค่าเช่าล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น และเสียโอกาสที่จะได้รับเงินค่าเช่าที่จะต้องปรับเพิ่มทุกปีตามเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมจากการต่อสัญญาของสัญญาเช่าที่ครบอายุสัญญาแล้วแต่ยังไม่มี การดำเนินการต่อสัญญาเช่า ซึ่งมีจานวนทั้งหมด 10,847 สัญญา หรือคิดเป็นจำนวนเงินอย่างน้อย ปีละ 21.58 ล้านบาท และมีความเสี่ยงที่หนี้ค่าเช่าบางส่วนอาจจะเกิดเป็นหนี้สูญได้ ซึ่งจากรายงาน งบการเงินของ รฟท. ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 มีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากหนี้ที่ผู้เช่าค้างชาระค่าเช่าที่ดิน อาคาร และสิทธิติดตั้งป้ายโฆษณา เป็นเงิน 50.87 ล้านบาท
- รฟท. จะมีภาระค่าใช้จ่ายจากการบริหารจัดการที่เพิ่มมากขึ้นในการเร่งรัด และติดตามหนี้ค้างชำระ รวมถึงระยะเวลาที่สูญเสียไปกับการดำเนินคดีกับผู้เช่า ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อการบริหารการจัดประโยชน์ในทรัพย์สินของ รฟท. ในระยะยาว
- รฟท. สูญเสียรายได้จากค่าปรับหรือค่าเช่าที่ควรจะได้รับเพิ่มจากการที่ผู้เช่าปฏิบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญา
- อาจเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบในการไม่ชาระค่าเช่า และการปฏิบัติผิดสัญญา
- อาจเป็นช่องว่างให้เจ้าหน้าที่หาประโยชน์โดยมิชอบ เกิดความไม่โปร่งใสจากการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบผู้เช่าเพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาเช่า ด้วยการเอื้อประโยชน์หรือการปล่อยปละละเลยให้ผู้เช่าปฏิบัติผิดเงื่อนไขของสัญญา
- รฟท. ยังไม่สามารถใช้งานระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อการบริหารทรัพย์สิน ขณะที่ฐานข้อมูลการบริหารทรัพย์สินและการบริหารสัญญาเช่าที่ใช้ปฏิบัติงานในปัจจุบันยังไม่สามารถบริหารทรัพย์สินและสัญญาเช่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสัญญาเช่าที่ยังไม่ได้ต่อสัญญาจำนวนมาก
- อาจจะทำให้การใช้จ่ายเงินในการจ้างศึกษาโครงการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาที่ดิน ของ รฟท. จำนวน 25.00 ล้านบาท เกิดความไม่คุ้มค่า
โดยผลการตรวจสอบมีประเด็นข้อตรวจพบ 1 ประเด็น และข้อสังเกต 2 ประการ ดังนี้
ข้อตรวจพบที่ 1 การบริหารจัดการสัญญาเช่าทรัพย์สินของ รฟท. ยังไม่มีประสิทธิภาพ
1.1 การพิจารณาจัดทำสัญญาเช่าที่เริ่มต้นใหม่มีความล่าช้า โดยการดำเนินการไม่เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กาหนดไว้ในระเบียบฯ และคู่มือการปฏิบัติงาน บางสัญญาเช่าใช้ระยะเวลาดำเนินการมากกว่า 3 ปี โดยจากสัญญาที่สุ่มตรวจสอบจำนวน 8 สัญญา พบว่า มีจำนวน 5 สัญญาที่ใช้ระยะเวลาดำเนินการมากกว่าที่กำหนดไว้คือ ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 427 วัน จนถึง 1,151 วัน ซึ่งในจำนวนนี้มี 4 สัญญาที่ใช้ระยะเวลาดำเนินการมากกว่า 600 วัน หรือไม่ต่ากว่า 1 ปี 6 เดือน
ทั้งนี้ความล่าช้าส่วนใหญ่จะเกิดในขั้นตอนของการตรวจสอบแผนผัง โดยบางสัญญาเช่าใช้ระยะเวลาดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าวถึง 535 วัน หรือประมาณ 1 ปี 6 เดือน
จากการตรวจสอบฐานข้อมูลการบริหารสัญญาเช่าของฝ่ายบริหารทรัพย์สิน เพื่อตรวจสอบกระบวนการและระยะเวลาการทำสัญญาเช่าที่ฝ่ายบริหารทรัพย์สินและฝ่ายการเดินรถเป็นคู่สัญญา พบว่า ข้อมูลการบริหารสัญญาเช่าในฐานข้อมูลที่มีอยู่ไม่สามารถที่จะตรวจสอบเปรียบเทียบระยะเวลาในการพิจารณาจัดทำสัญญาเช่าในภาพรวมและในแต่ละกระบวนการได้ว่าใช้ระยะเวลาเท่าใด เป็นไปตามที่ระเบียบฯ คู่มือการปฏิบัติงาน หรือแนวทางที่กำหนดไว้หรือไม่
ทั้งนี้สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาด้านโครงสร้างการบริหารทรัพย์สินและสัญญาเช่าซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และไม่สามารถที่จะควบคุมระยะเวลาดาเนินการในแต่ละกระบวนการได้
1.2 มีสัญญาเช่าที่ครบกำหนดและยังไม่ได้ต่อสัญญาจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบข้อมูลการบริหารสัญญาเช่าของฝ่ายบริหารทรัพย์สิน เพียงวันที่ 31 มีนาคม 2555 พบว่า มีสัญญาที่ครบกำหนดและยังไม่ได้ต่อสัญญาเป็นจำนวนมากถึง 10,847 สัญญา หรือคิดเป็นร้อยละ 74.71 ของสัญญาเช่าทั้งหมด ในจำนวนนี้มีสัญญาที่ครบกำหนดและยังไม่ได้ต่อสัญญาเกินกว่า 10 ปีขึ้นไป หรือสัญญาครบกำหนดมาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2546 จานวน 1,389 สัญญา
สำหรับสาเหตุของความล่าช้าในการต่อสัญญาเช่า ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบแผนผังพื้นที่เช่า ซึ่งไม่สามารถควบคุมระยะเวลาดำเนินการในแต่ละกระบวนการได้ ขณะที่ รฟท. ยังไม่มีเครื่องมือหรือฐานข้อมูลที่เหมาะสม ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน เพื่อใช้ในการวิเคราะห์วางแผนและเร่งรัดติดตามการบริหารสัญญาเช่า
1.3 มีสัญญาเช่าจำนวนมากที่มีหนี้ค้างชาระ จากการตรวจสอบข้อมูลการบริหารสัญญาเช่า เพียงวันที่ 31 มีนาคม 2555 พบว่า จากจำนวนสัญญาเช่าทั้งหมด 14,518 สัญญา เป็นสัญญาที่ผู้เช่าค้างชาระค่าเช่า จานวน 9,014 สัญญา หรือคิดเป็นร้อยละ 62.09 ของสัญญาเช่าทั้งหมด รวมจำนวนเงินค่าเช่าค้างชาระ 782.57 ล้านบาท
ทั้งนี้มีสัญญาที่สิ้นสุดสัญญาและยังไม่ได้ต่อสัญญาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2545 จำนวน 990 สัญญา จำนวนเงินค้างชาระรวม 95.84 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบฐานข้อมูลการบริหารทรัพย์สินและสัญญาเช่าของฝ่ายบริหารทรัพย์สินพบว่า ยังไม่สามารถนำไปใช้สาหรับการวางแผนเร่งรัดและติดตามหนี้ค้างชาระได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากข้อมูลการบริหารสัญญาเช่าที่มีการจัดเก็บยังไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วน และไม่สามารถสรุปข้อมูลในภาพรวมเกี่ยวกับสถานะของการเช่า การค้างชาระหนี้ รวมถึงสถานภาพของการติดตามหนี้ค้างชำระตามระบบขั้นตอนที่ รฟท. กำหนดได้อย่างชัดเจน
1.4 มีผู้เช่าบางส่วนปฏิบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญา โดยผู้เช่าใช้พื้นที่ล่วงล้ำออกไปนอกเขตเช่าและต่อเติมอาคารนอกเหนือจากแบบที่กำหนด มีการบุกรุกเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ว่างระหว่างอาคารที่ รฟท. กันไว้ ผู้เช่าโอนสิทธิการเช่าหรือให้เช่าช่วงโดยไม่แจ้งให้ รฟท. ทราบ และผู้เช่าใช้พื้นที่เช่าต่างไปจากความจำนงเดิมที่ระบุไว้ในสัญญา ทั้งนี้จากข้อมูลตามรายงานการติดตามผลการดำเนินการของ รฟท. เกี่ยวกับปัญหาผู้เช่าปฏิบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญา ซึ่งฝ่ายบริหารทรัพย์สินได้สำรวจและรายงานข้อมูลไว้ พบว่ามีข้อมูลไม่ครบถ้วนและไม่มีรายละเอียดผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวที่ชัดเจน และฝ่ายบริหารทรัพย์สินยังไม่มีระบบการสำรวจ ตรวจสอบ รวมถึงการติดตาม และรายงานผลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามเงื่อนไข