โศกนาฏกรรมกรุงปารีส:ความผิดพลาดของหน่วยข่าวกรอง
ในขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนของฝรั่งเศสกำลังทำงานอย่างแข็งขันในการสืบสาวเหตุก่อการร้ายสะเทือนขวัญที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในยุโรป ที่เกิดขึ้นในกรุงปารีสเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) หน่วยข่าวกรองของฝรั่งเศสเองก็ตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงจากหลายฝ่าย
โดยฝ่ายที่วิจารณ์เห็นว่าหน่วยข่าวกรองน่าจะสามารถป้องกันเหตุร้ายได้ เพราะการก่อการร้ายครั้งนี้ต้องใช้เวลาเตรียมการเป็นเดือน แม้ว่าประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสออกมากล่าวว่า มีการวางแผนและเตรียมการนอกประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากคนในประเทศ แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้หน่วยข่าวกรองรอดพ้นคำวิจารณ์ไปได้ เพราะมีคนในให้ความร่วมมือ คำถามคือหน่วยข่าวกรองไม่รู้ระแคระคายเลยหรือ ยิ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่สอบสอนสามารถระบุชื่อผู้ก่อเหตุคนหนึ่งได้ แถมยังบอกด้วยว่า เป็นบุคคลที่มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีแนวคิดสุดโต่งของตำรวจอยู่แล้ว คำถามต่อมาคือทำไมถึงหลุดรอดสายตาของหน่วยข่าวกรองไปได้
มาร์ติน เรียร์ดอน รองประธานบริษัทที่ให้คำปรึกษาเรื่องความมั่นคงและข่าวกรองชี้ว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การโจมตีครั้งนี้สำเร็จตามที่กลุ่มคนร้ายคาดหวัง เป็นเพราะดูเหมือนว่ากลุ่มคนร้ายเลี่ยงการติดต่อสื่อสารด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกลุ่มคนร้ายมีความชำนาญและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
ด้านฝ่ายที่ปกป้องการทำงานของหน่วยข่าวกรองแย้งว่า ขอบข่ายและความซับซ้อนของภัยคุกคามจากกลุ่มคนที่มีแนวคิดสุดโต่งและนิยมความรุนแรงนั้น มีมากเกินกว่าที่หน่วยงานต่าง ๆ จะสามารถรับมือได้ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนในอังกฤษ รายงานอ้างคำพูดของนายอีฟ โทรแตนยอง อดีตเจ้าหน้าที่ด้านปราบปรามการก่อการร้ายของหน่วยข่าวกรองฝรั่งเศสว่า หน่วยความมั่นคงไม่ได้นิ่งนอนใจและเคยวางแบบจำลองสถานการณ์มาแล้วว่า กรุงปารีสอาจถูกโจมตี ทำนองเดียวกับแบบที่เกิดขึ้นจริงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 13 ที่คนร้ายลงมือโจมตีอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องเป็นระลอก หวังผลให้มีคนบาดเจ็บล้มตายมากที่สุด โดยหน่วยความมั่นคงใช้เหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในเมืองมุมไบของอินเดียเมื่อปี 2552 เป็นแบบ แต่ถึงแม้จะมีการเตรียมรับมือขนาดไหนก็ตาม พอคนร้ายลงมือก่อเหตุในจุดที่หนึ่งแล้ว ก็ยากที่จะป้องกันได้ทั้งหมด เพราะจุดที่อาจตกเป็นเป้ามีเต็มไปหมด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กรุงปารีสตกเป็นเป้าการโจมตีจากการก่อการร้ายโดยผู้นิยมความสุดโต่ง เพราะเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็เจอกับเหตุกราดยิงที่สำนักงานนิตยสารชาร์ลี เอ็บโดและในเวลาไล่เลี่ยกันก็เกิดเหตุจับตัวประกันที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชาวยิว ในครั้งนั้นหน่วยข่าวกรองก็ถูกวิจารณ์จนน่วมไปแล้ว แต่หากมองถึงผลงาน ก็ต้องยกนิ้วให้หน่วยข่าวกรองบ้าง เพราะในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ก็สามารถทลายแผนก่อการร้ายได้อย่างน้อยถึง 6 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทางการฝรั่งเศสเป็นห่วงคือเครือข่ายของกลุ่มสุดโต่งที่อยู่ในประเทศ ที่ดูเหมือนว่านับวันจะขยายตัวได้เร็วขึ้น นอกจากนั้นยังมีคนสัญชาติฝรั่งเศสแท้ ๆ หันมาใช้ความรุนแรงทั้งในประเทศและนอกประเทศเพิ่มขึ้นด้วย ฝรั่งเศสเป็นชาติที่มีคนของตนเดินทางไปเข้าร่วมกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและซีเรีย มากกว่าชาติอื่นในยุโรป สิ่งที่ทางการฝรั่งเศสเป็นห่วงมาก ๆ คือ ตอนนี้ฝรั่งเศสกำลังกลายเป็นเป้าหมายหลักที่กลุ่มไอเอสต้องการประลองกำลังด้วย
มาร์ค เทรวิดิก เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ทำงานด้านปราบปรามการก่อการร้ายเชื่อว่า ในอนาคตจะมีเหตุการณ์ที่น่ากลัวกว่าเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ เพราะสงครามขนานแท้ที่กลุ่มไอเอสต้องการให้เกิดขึ้นในฝรั่งเศสนั้น ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง และดูเหมือนว่าประธานาธิบดีออลลองด์ก็ตระหนักในเรื่องนี้ดี โดยหลังจากเหตุโจมตีที่สำนักพิมพ์นิตยสารชาร์ลี เอ็บโดแล้ว รัฐบาลได้มีการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น รับเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกราว 2,000 ตำแหน่ง และให้อำนาจเพิ่มขึ้นในการสอดแนม
เป้าหมายหลักของการปรับกำลังก็เพื่อให้หน่วยข่าวกรองมีเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นในการเฝ้าติดตามบุคคลที่ต้องสงสัยว่า อาจพัวพันกับกิจกรรมก่อการร้าย รวมทั้งเพิ่มศักยภาพในการสอดแนม ให้สามารถทำได้คล่องตัวมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หน่วยข่าวกรองออกมายอมรับว่ามีงานล้นมือแต่ขาดแคลนกำลังคน หนังสือพิมพ์การ์เดียนรายงานว่าในฐานข้อมูลบุคคลต้องสงสัยนั้นมีรายชื่ออยู่กว่า 11,000 ชื่อ และเจ้าหน้าที่ก็ต้องสาละวนกับการเฝ้าระบุตัวตนของคนที่เดินทางไปร่วมรบในซีเรียและกลับเข้ามาในประเทศ จากฐานข้อมูลเชื่อว่ามีคนฝรั่งเศสราว 1,500 ไปเข้าร่วมกับไอเอสในซีเรีย และราว 200 เดินทางกลับมาแล้ว และพอกลับมาก็จะยิ่งมีแนวคิดสุดโต่งมากกว่าในตอนแรกเสียอีก
อย่างไรก็ตาม นายโทรแตนยองชี้ว่า แม้จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และให้อำนาจเพิ่มขึ้นในการสอดแนม แต่ถ้าไม่มีการรื้อระบบหน่วยข่าวกรองเสียใหม่ เพื่อให้มีการประเมินและวิเคราะห์ข้อมูลด้านข่าวกรองอย่างถี่ถ้วนและระบุถึงภัยคุกคามได้ชัดเจน การป้องกันภัยคุกคามจากการก่อการร้ายก็จะยังไม่มีประสิทธิภาพ เพราะเท่าที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีชื่ออยู่ในบัญชีของหน่วยข่าวกรองทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีใครหยุดยั้งพวกเขาได้
หากงานนี้หน่วยข่าวกรองฝรั่งเศสพลาด หน่วยข่าวกรองชาติตะวันตกชาติอื่นก็พลาดด้วยเช่นกัน เพราะไม่ระแคะระคายถึงการเตรียมการใหญ่ขนาดโจมตี 6 จุด ในเวลาไล่เลี่ยกันในเมืองหลวงของชาติที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาอำนาจชาติหนึ่งได้
ในขณะที่ยังไม่มีทางออกให้กับสงครามในซีเรีย คนมุสลิมที่อยู่ในประเทศตะวันตกยังรู้สึกแปลกแยกจากคนส่วนใหญ่ในสังคม ยังมีความไม่เท่าเทียมกันทั้งในทางการเมือง สังคมและเศรษฐกิจ โอกาสที่ฝรั่งเศสหรือชาติอื่น ๆ ในยุโรปตะวันตกจะเจอกับการโจมตีในลักษณะที่คล้ายกับที่เกิดในกรุงปารีสเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 13 ก็เป็นเรื่องที่จะยังคงเกิดขึ้นได้
โอลิเวียร์ ทอดด์ อดีตบรรณาธิการนิตยสาร นูเวล ออฟเซอวาเตอร์ ชี้ว่าคำถามที่น่าสนใจคำถามหนึ่งในตอนนี้คือ การประชุมสุดยอดเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพและมีกำหนดจะมีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านั้น จะมีขึ้นตามแผนหรือไม่ ถ้าผู้นำฝรั่งเศสยกเลิกการประชุม ก็เท่ากับยอมรับว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่สามารถป้องกันเหตุโจมตีได้ แต่ถ้าเดินหน้าจัดประชุม แล้วเกิดเหตุร้ายขึ้นมา สถานการณ์คงจะยิ่งแย่ลงไปใหญ่