“ประภัสร์”แจงทุกเรื่องในแอร์พอร์ตลิ้งค์ ยันเลิกจ้าง"พีรกันต์"ใช้เอกสารเท็จ
"ประภัสร์"แจงทุกเรื่องในแอร์พอร์ตลิ้งค์ ทั้งปมเลิกจ้าง "พีรกันต์" หนังสือ สตง.ชี้บิ๊กขาดคุณสมบัติ เซ็นสัญญาจ้างเอกชนตรวจสอบราง ขอความเป็นธรรมผู้ถูกกล่าวหา
กรณีบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (แอร์พอร์ต เรล ลิงค์) มีมติเลิกจ้างนายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา จากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ขณะที่นายพีรกันต์ ได้ออกมาเปิดเผยสาเหตุที่ถูกกปลดจากตำแหน่ง เนื่องมาจากได้ตรวจสอบพบการทุจริตในหน่วยงาน ตามข่าวที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการร้องเรียนผู้บริหารรายหนึ่งเกี่ยวพันกับการว่าจ้างบริษัทรับตรวจสอบรางว่าได้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวแล้ว และ มีการตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว พบว่าเป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วน ไม่เกี่ยวกับบุคคลที่ถูกร้องเรียน
“คณะกรรมการเล่าให้ผมฟังว่า วันนั้น มีปัญหาจริงๆ แต่ไม่ใช่เรื่องของบุคคลดังกล่าว (ขอปิดบังชื่อ) เป็นเรื่องของ คณะกรรมการทั้งหมดที่เห็นด้วยกัน เท่าที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรรมการเห็นตรงกันทั้งหมดว่าต้องรีบทำเพื่อความปลอดภัย ”
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่มีการร้องเรียนกรณีแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดมาดำรงตำแหน่งสำคัญในบริษัท นายประภัสร์กล่าวว่า
"เขาเป็นหลานผู้ถูกกล่าวหา ที่สอบเข้ามาตามขั้นตอนและเข้ามาก่อนผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่ง เอกสารก็ตรวจสอบได้ ถ้ามีการร้องเรียนเรื่องนี้ ถ้างั้นผมมีคนนามสกุลเดียวกันไปสอบองค์กรเดียวกันไม่ได้หรือ ถ้าเขาสอบผ่าน ถือเป็นความผิดหรือถ้าเขาจะนามสกุลเดียวกัน ในความคิดคุณ วงการสื่อฯ ก็ห้ามมีคนนามสกุลเดียวกันมาทำงานหรือเปล่า"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นสำคัญที่ทำให้มีผู้ร้องเรียนเรื่องนี้ มิใช่อยู่ที่การมีนามสกุลเดียวกัน แต่เป็นเรื่องกระบวนการของการเข้ามาดำรงตำแหน่ง
นายประภัสร์ กล่าวว่า
"รายงานที่ผมอ่าน เขาชี้แจงมาว่ากระบวนการเข้ามาถูกต้อง รายงานราชการถ้ารายงานเท็จ จะมีความผิดตามกระบวนการทางกฎหมาย มีความผิดทางอาญา เขาคงไม่รายงานมามั่วๆ ใช่ไหม"
ส่วนกรณีการสั่งปลดเอ็มดี แอร์พอร์ตลิงค์ที่กำลังมีการกล่าวหากันอยู่ในขณะนี้ นายประภัสร์กล่าวว่า
“ผมขอเรียนในฐานะของผู้ถือหุ้น แอร์พอร์ต ลิงค์ บริหารในลักษณะ เป็นบริษัทจำกัด การรถไฟอยู่ในฐานะผู้ถือหุ้นเท่านั้น แอร์พอร์ตลิงค์ เขาก็มีคณะกรรมการของเขาเอง มีผู้บริหารของเขาเอง เราในฐานะผู้ถือหุ้น ก็ตามดูห่างๆ แต่เท่าที่คณะกรรมการรายงานเรื่องนี้มา ผมก็เสนอคณะกรรมการของการรถไฟ เพื่อให้รับทราบ กรณีนี้ก็มีการกล่าวหากันว่าคุณพีรกันต์ ใช้เอกสารที่ไม่ถูกต้องในการสมัครงาน จึงมีการตั้งคณะ กรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คณะกรรมการตรวจสอบก็มีทั้งรอง ผอ. สำนัก กระทรวงการคลัง มีอัยการ ที่ร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบด้วย จากการตรวจสอบ ก็พบว่าเอกสารที่คุณพีรกันต์เอามาใช้สมัคร ไม่ถูกต้องจริงๆ บริษัทที่เขาเคยทำงานอยู่ด้วย มีตัวเลขของผลประกอบการไม่ตรงกับ TOR ของแอร์พอร์ตลิงค์ ที่ระบุว่า บริษัทเดียวต้องมีมูลค่ารายได้ไม่น้อยกว่า พันล้าน แต่ปรากฏว่าในเอกสารเขาเอาตัวเลขบริษัทสาขามารวมกัน มันผิดจากที่กำหนดไว้และในเงื่อนไขในใบสมัครก็ระบุไว้ชัดเจน ว่าถ้ามีเอกสารเป็นเท็จก็สามารถเลิกจ้างได้ทันที”
นายประภัสร์กล่าวว่าแม้จะดำรงตำแหน่งแล้วแต่หากตรวจสอบพบว่าใช้เอกสารเท็จ คณะกรรมการบริษัทก็มีมติเลิกจ้างได้
“แม้ผู้สมัครที่ใช้เอกสารเท็จ จะกลายเป็นผู้ดำรงตำแหน่งแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายทั้งทางแพ่ง และอาญา เรื่องนี้เป็นความผิดร้ายแรง คณะกรรมการก็มีมติให้เลิกจ้าง โดยมีผลทันที จริงๆ แล้วเรื่องนี้ เกิดขึ้นก่อนสงกรานต์ เมื่อเปิดมาหลังสงกรานต์ ก็ทราบว่ามีการให้ข่าวโจมตีกันไป กันมา”
นายประภัสร์กล่าวด้วยว่า กรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบพบว่านายพีรกันต์ ใช้เอกสารเท็จสมัครงาน บริษัท แอร์พอร์ตลิงค์ สามารถเลิกจ้างได้ทันที
“เอกสารสัญญาระบุไว้ว่า เลิกจ้างทันทีได้เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง การใช้เอกสารเท็จ มีความผิดทางอาญา กรณีนี้ เลิกจ้างทันที ขณะที่ ถ้าเป็นกรณีเลิกจ้างปกติ ต้องให้เวลาอย่างน้อย 30 วัน แต่นี่เป็นความผิดร้ายแรง”
นายประภัสร์ระบุด้วยว่า การตรวจสอบเอกสารการสมัครของนายพีรกันต์ กรรมการผู้ตรวจสอบล้วนเชื่อถือได้
“กรรมการที่ตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่ใช่ข้าราชการระดับเล็ก เป็นข้าราชการระดับสูง ผมไม่เชื่อว่าใครจะไปสามารถสั่งการ ให้คณะกรรมการตรวจสอบเหล่านี้ไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ผมว่าต้องเชื่อเครดิตกันหน่อย ว่าคนระดับนี้ใครไปสั่งอะไรไม่ได้”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ สตง. มีหนังสือท้วงติงการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารรายหนึ่ง นายประภัสร์กล่าวว่า
“ที่คุณพีรกันต์พูดเรื่องผู้ถูกร้องเรียน (ขอปิดบังชื่อ) นี่คุณพีรกันต์พูดหลายครั้ง ผมก็อธิบายเขาไปหลายครั้งแล้วว่า คือผู้ถูกร้องเรียน ตอนที่เป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม เขาได้รับมอบหมายงานให้เป็นตัวแทนของหน่วยงานคือกระทรวงคมนาคม ให้มาเป็นกรรมการบอร์ดแอร์พอร์ต ลิงค์ ก็เป็นมาตลอด แล้วในฐานะกรรมการเมื่อผู้ถือหุ้นไม่เปลี่ยนแปลงมติ ผู้ถูกร้องก็ยังเป็นกรรมการได้ และมี 2 สถานะ คือในฐานะผู้แทน กระทรวงคมนาคม ซึ่งเมื่อหมดวาระก็เป็นสถานะผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผู้ถูกร้อง เป็นได้อยู่แล้ว เพราะเขาเคยอยู่ สจร. ( สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ) มาตั้งแต่ครั้งที่คุณยงยุทธ สาระสมบัติ ดำรงตำแหน่งที่ สจร. เขาทำงานด้านระบบราง ขนส่งมวลชนมาตลอด 30-40 ปี ผมถามว่า ตรงไหน ที่แสดงว่าเขาไม่มีคุณสมบัติ”
นายประภัสร์ กล่าวว่า ในที่นี้ผู้ถูกร้องมี 2 สถานะ คือสถานะเดิม เป็นผู้แทนกระทรวงการคลัง และในฐานะผู้เชี่ยวชาญ
“ถ้าคุณไปอ่านจดหมาย สตง. จะเห็นว่า คนละอย่าง มันคนละเรื่องกันเลยกับที่คุณพีรกันต์อ้าง เพราะ สตง. ชี้ในเรื่องหลักการ หลักปฏิบัติ ตามมติ ครม. ผู้ถือหุ้นก็ยืนยันว่าให้คุณจำรูญเป็นบอร์ดต่อไป ไม่ใช่ ในฐานะ ตัวแทนกระทรวงการคลังแล้ว แต่ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ สิ่งที่ สตง. พูดถึงคือหลักการ เรื่องนี้ก็กล่าวหากันไปกล่าวหากันมา คุณพีรกันต์เองก็อ้างว่าถูกกล่าวหา ขณะที่ผู้ถือหุ้นก็ยืนยันว่าให้ผู้ถูกร้องเป็น ประธานกรรมการต่อไปในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ ดังนั้น ในฐานะที่คุณเป็นสื่อ ผมก็อยากขอร้องว่าอยากขอความเป็นธรรมให้กับทุกๆ คน ถ้าใครจะกล่าวหาอะไร ขอให้มีเอกสารหลักฐานชัดเจน ถามว่า ถ้าผู้ถูกร้องเป็นอย่างที่คุณพีรกันต์พูด จะอยู่มาได้ขนาดนี้ไหมหนังสือ สตง. พูดถึงเพียงหลักการ หลักปฏิบัติ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าเป็นผู้ถูกร้อง” นายประภัสร์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นล่าสุด คือนายพีรกันต์ ถูก รปภ.สั่งห้ามไม่ให้เข้าไปใน ร.ฟ.ท. ได้ นายประภัสร์กล่าวว่า
“เรื่องคุณพีรกันต์จะมีการแถลงข่าวแล้วเข้าไปในบริษัทไม่ได้นั้น ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่า ร.ป.ภ. ไม่ให้เข้า ผมขอถามกลับว่าการที่คุณพีรกันต์จะเข้าไปขนนั่น ขนนี่ คุณจะเคลื่อนย้ายเอกสารของราชการหรือเปล่า ซึ่งถ้าเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ความจริงแล้ว คุณพีรกันต์ เข้าไปแล้วนะครับ ไม่ใช่ ไม่เข้าไป แต่ที่ ร.ป.ภ. ห้ามคือไม่ให้เข้าไปใช้สถานที่แถลงข่าว ก็คุณพ้นสถานะไปแล้ว คุณจะเข้าไปแถลงข่าวแล้ว เขาไม่ให้เข้าหรอก ต้องถามกลับว่าคุณพีรกันต์มีสิทธิ์อะไรจะเข้าไปแถลงข่าวในแอร์พอร์ตลิงค์ เพราะคุณพ้นสถานะไปแล้ว ยกตัวอย่างถ้าผมพ้นตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟไปแล้ว ผมมีสิทธิ์อะไรจะมานั่งแถลงข่าวที่ห้องนี้ไหม” นายประภัสร์ระบุ ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่า คาดว่า คณะกรรมการแอร์พอร์ตลิงค์ จะแถลงชี้แจง อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในสัปดาห์หน้า เกี่ยวกับ กรณีคุณสมบัติของนายพีรกันต์ แต่ตนไม่ทราบว่าจะมีการเปิดเผยเอกสารการตรวจสอบ จากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในประเด็นนี้หรือไม่ แต่จะเสนอแนะไปยังคณะกรรมการบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (แอร์พอร์ต เรล ลิงค์)ว่าหากเป็นไปได้ ควรเปิดเผยเอกสารผลการตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
“ผมจะเสนอแนะไปว่าถ้ามีการแถลงข่าวในเรื่องนี้ก็ควรเปิดเผยเอกสารการตรวจสอบด้วย แต่ก็ต้องแล้วแต่เขา ผมไม่มีอำนาจอะไร ทำได้เพียงเสนอแนะ” นายประภัสร์ระบุ
( อ่านประกอบ : หนังสือว่อน!ร้องสอบบิ๊ก ร.ฟ.ท.ปมจัดซื้อ-ตั้งญาติในแอร์พอร์ตลิงค์ )
( อ่านประกอบ : ปมปลดเอ็มดีแอร์พอร์ตลิงค์บาน! "พีรกันต์"โร่แจ้งความถูกห้ามเข้า ร.ฟ.ท. )
( อ่านประกอบ : สตง.จี้แอร์พอร์ตลิงค์ สอบปมผู้บริหารนั่งทำงานต่อหลังเกษียณราชการ )