"บวรศักดิ์"ย้ำเป้าหมาย รธน.ใหม่ ขจัดซื้อเสียง-คนทุจริต ไร้หุ่นเชิดการเมือง
"บวรศักดิ์" เปิดบัญญัติ 10 ประการ ในมาตรา 35 เป้าหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ใครซื้อเสียง-ทุจริต ออกจากการเมืองตลอดชีวิต หมดยุคหุ่นเชิด องค์กรตามรธน.มีต่อได้แต่ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราม มาตรา 32 จำนวน 36 คนเท่าจำนวน ครม. ที่สำคัญ รัฐมนตรีจะมาเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้ ขณะที่สมาชิกสนช. สมาชิกสภาปฏิรูป หรือแม้แต่คนนอก ก็เป็นได้
“ครั้งนี้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดไว้ชัดเจนว่า มีกรอบให้คณะกรรมาธิการยกร่างฯ ไปดู ซึ่งเป็นบัญญัติ 10 ประการ ในมาตรา 35 ที่ต้องขีดเส้นใต้ มีดังนี้
(1) การรับรองความเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้
(2) การให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่เหมาะสมกับสภาพสังคมของไทย
“รัฐธรรมนูญนี้ไม่ต้องการเห็นไปลอกฝรั่งมาทั้งดุ้น อะไรเหมาะให้สมกับสังคมไทยต้องทำ”
(3) กลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งกลไกในการกำกับและควบคุมให้การใช้อำนาจรัฐเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน
“เมื่อก่อนปราบแต่ภาครัฐแต่ภาคเอกชนไม่คิด วันนี้ให้คิดด้วย”
(4) กลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและตรวจสอบมิให้ผู้เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเคยกระทำการอันทำให้การเลือกตั้ง ไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรม เข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างเด็ดขาด
“แปลว่า รัฐธรรมนูญชั่วคราวบอกว่า ต่อไปนี้คนซื้อเสียง หากพิสูจน์ได้ว่าซื้อจริง ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ 5 ปี อย่างที่เขียนในรัฐธรรมนูญ 2550 แล้ว ดังนั้นใครคิดจะซื้อเสียงให้อ่านมาตรา 35 (4) ให้ดี เสี่ยงมากที่จะถูกตัดออกจากระบบการเมืองไปตลอดชีวิต รวมถึงคนทุจริตด้วย”
(5) กลไกที่มีประสิทธิภาพที่ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและพรรคการเมือง สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินกิจกรรมได้โดยอิสระ ปราศจากการครอบงำหรือชี้นำ โดยบุคคลหรือคณะบุคคลใด ๆ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
“แปลว่า หุ่นเชิดทางการเมืองจะมีไม่ได้อีกแล้วต่อไปนี้”
(6) กลไกที่มีประสิทธิภาพในการสร้างเสริมความเข้มแข็งของหลักนิติธรรม และการสร้างเสริม คุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในทุกภาคส่วนและทุกระดับ
(7) กลไกที่มีประสิทธิภาพในการปรับโครงสร้างและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมเพื่อให้ เกิดความเป็นธรรมอย่างยั่งยืน และป้องกันการบริหารราชการแผ่นดินที่มุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว
“พูดง่ายๆ สังคมที่มีความเหลื่อมล้ำอยู่ต้องแก้ แก้ให้เกิดสังคมที่เป็นธรรมเพื่อให้การพัฒนายั่งยืน และแม้รัฐธรรมนูญจะไม่ได้ใช้คำว่า ประชานิยมก็จริง แต่นี่คือประชานิยม ไม่ได้ห้ามประชานิยมทุกประเภท แต่ประชานิยมที่ก่อให้เกิดผลดีไม่ได้ห้าม แต่ ห้าม “การบริหารราชการแผ่นดินที่มุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว” ”
(8) กลไกที่มีประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินของรัฐให้เป็นไปอย่างคุ้มค่าและตอบสนองต่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนโดยสอดคล้องกับสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ และกลไกการตรวจสอบและเปิดเผยการใช้จ่ายเงินของรัฐที่มีประสิทธิภาพ
“เงินนอกงบประมาณต้องถูกดึงเข้ามาตรวจสอบ รวมถึงเงินรัฐวิสาหกิจที่นำไปแจกสิทธิประโยชน์ต่างๆ กันมากมายมหาศาล”
(9) กลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันมิให้มีการทำลายหลักการสำคัญที่รัฐธรรมนูญจะได้วางไว้
“อันนี้สำคัญ หากรัฐธรรมนูญกำหนดหลักการสำคัญไว้แล้ว หากให้ส.ส.หรือ ส.ว.มาแก้ได้ตามใจชอบ แปลว่า ก็ไม่มีความหมาย”
(10) กลไกที่จะผลักดันให้มีการปฏิรูปเรื่องสำคัญต่าง ๆ ให้สมบูรณ์ต่อไปให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาถึงความจำเป็นและความคุ้มค่าที่ต้องมีองค์กรตามรัฐธรรมนูญหรือองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่จำเป็นต้องมี ให้พิจารณามาตรการที่จะให้การดำเนินงานขององค์กรดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลด้วย
“เขารู้ว่า 1 ปีปฏิรูปไม่สำเร็จ จึงกำหนดให้รัฐธรรมนูญใหม่กำหนดกลไกให้มีการปฏิรูปต่อเนื่อง รวมถึงความจำเป็นและความคุ้มค่าที่ต้องมีองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หากจะให้มีต่อก็ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลด้วย” ศ.ดร.บวรศักดิ์ ระบุ
(อ่านประกอบ : ดร.บวรศักดิ์ ขีดเส้นใต้ ใครซื้อเสียง-ทุจริต อ่านม. 35 (4) รธน.ฉบับชั่วคราวให้ดี)
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก chaoprayanews.com