ป.ป.ช.ยันสอบธุรกรรมนักการเมืองช่วยป้องทุจริต- เล็งสรุปผล 30 ก.ย.
ป.ป.ช.เตรียมประกาศตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง-ขรก. เร่งหารือกับสถาบันการเงินให้แล้วเสร็จ คาดสรุปผลได้ 30 ก.ย.นี้ ชงให้คณะกรรมการฯชุดใหญ่ ยันทำให้สอบทรัพย์สินฯได้เร็วและมีประสิทธิภาพ ป้องกันการทุจริตดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้าการประชุมระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้บริหารสถาบันทางการเงิน ในเรื่องประกาศของ ป.ป.ช. กำหนดจำนวนเงินและมูลค่าทรัพย์สินในการทำธุรกรรมที่ต้องรายงานต่อ ป.ป.ช. พ.ศ. …. โดยตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และข้าราชการ ทั้งธุรกรรมเงินสด และธุรกรรมที่ดิน
นายวรวิทย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเฉพาะในส่วนของสถาบันการเงิน ประกอบด้วย ผู้บริหารสายกำกับ ผู้บริหารสายตรวจสอบ และผู้บริหารสายเทคโนโลยี และคณะทำงานย่อยของ ป.ป.ช. เมื่อลงไปดูในรายละเอียด ก็ได้ข้อสรุปว่า สถาบันการเงินเห็นด้วยกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะประกาศกำหนดเกณฑ์การตรวจสอบธุรกรรมเงินสด และธุรกรรมที่กำหนดให้สถาบันทางการเงิน สำนักงานที่ดิน และผู้ประกอบอาชีพ ต้องรายงานต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในประเด็นเรื่องธุรกรรมเงินสด 5 แสนบาท และธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ 1 ล้านบาท
“เพียงแต่ว่ามีประเด็นรายละเอียดที่เกี่ยวกับเทคนิคทางเทคโนโลยี และที่ดินยังมีข้อสงสัย และมีประเด็นต้องพูดคุยกันในรายละเอียดอีก 32 ประเด็น โดยผู้แทนธนาคารได้ตั้งตัวแทนขึ้นมา 5 คน และจะมาประชุมย่อยกับคณะทำงาน ป.ป.ช. อีกครั้งหนึ่ง” นายวรวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รายละเอียดในอีก 32 ประเด็นมีอะไรบ้าง นายวรวิทย์ กล่าวว่า เป็นประเด็นในเรื่องของความเข้าใจในประกาศของ ป.ป.ช. ประเด็นแบบฟอร์มของ ป.ป.ช. และเทคโนโลยีที่จัดส่งข้อมูลกัน คือเป็นเรื่อของเทคนิคกับการปฏิบัติ
นายวรวิทย์ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะเป็นคนกำหนดเองว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะต้องอยู่ระดับใดที่อยู่ในขอบข่ายดังกล่าว เพราะประกาศดังกล่าว ระบุว่า กรณีที่มีความจำเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจส่งข้อมูลให้สถาบันทางการเงิน และสำนักงานที่ดิน หลังจากนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะพิจารณาว่ากรณีไหนบ้างที่มีความจำเป็น
“ส่วนเรื่องจะกำกับเฉพาะนักการเมืองระดับชาติหรือไม่ เป็นรายละเอียดที่อยู่ในเงื่อนไขของ ป.ป.ช. แต่ประกาศฉบับนี้เป็นการเพิ่มวิธีการทำงานของ ป.ป.ช. จะได้เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบทรัพย์สิน และการปราบปรามการทุจริต” นายวรวิทย์ กล่าว
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ประกาศฉบับนี้จะทำให้การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินฯนักการเมืองทำได้เร็วขึ้น เพราะไม่ต้องรอให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยื่นพ้นตำแหน่ง หรือมีคนร้องเรียนเข้ามาก็ตรวจสอบได้เลย หากปรากฏมีธุรกรรมตามที่กำหนด ทางสถาบันการเงิน สำนักงานที่ดิน หรือผู้ประกอบอาชีพรายงานเข้ามา และ ป.ป.ช. ประมวลเหตุแล้วว่าต้องตรวจสอบเชิงลึก ก็สามารถทำงานได้เป็นปัจจุบัน ใช้วิธีการตามบทบัญญัติตามมาตรา 68 ได้ทันท่วงที
“แต่ถ้าต้องรอจนกว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยื่นบัญชีทรัพย์สินฯเข้ามาแล้ว มันจะเป็นการค้นหาข้อมูลย้อนหลังในอดีต ซึ่งค่อนข้างที่จะทำได้ลำบาก และเป็นภาระกับสถาบันการเงิน ที่ดิน และผู้ประกอบอาชีพมากกว่า และการทำงานอาจไม่ได้ผล ถ้าเข้ายักย้ายถ่ายเทแล้วอาจติดตามได้ยาก” นายวรวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประกาศฉบับนี้ครอบคลุมไปถึงครอบครัวและก็บุตรด้วยหรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า อยู่หมดทั้งผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชี คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ รวมทั้งบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประกาศดังกล่าวจะบังคับใช้เมื่อไหร่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า ต้องหารือให้แล้วเสร็จภายใน 30 กันยายน 2557 หลังจากนั้นจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา และถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบด้วยก็จะประกาศใช้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งอนุกรรมการฯสอบเชิงลึก 5 รัฐมนตรีจำนำข้าว ความคืบหน้าเป็นอย่างไรบ้าง นายวรวิทย์ กล่าวว่า สถาบันการเงินและส่วนราชการต่าง ๆ กำลังทยอยส่งข้อมูลเข้ามา ตอนนี้ก็ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์