กฎเหล็ก“บิ๊กเต่า”พบกิจการส่อค้ามนุษย์ปิดได้ทันที-จนท.เอี่ยวลงโทษร้ายแรง!
มติ ครม. รับทราบผลการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว-ค้ามนุษย์ของกระทรวงแรงงานยุค “บิ๊กเต่า” หลังออกกฎเหล็ก หากพบสถานประกอบการเข้าข่ายสั่งปิดทันได้ทันที มีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวลงโทษวินัย-อาญาเด็ดขาด จับมือองค์การแรงงานระหว่างประเทศตรวจกิจการกลุ่มเสี่ยง-ประเมินสภาพทำงาน พีอาร์ประชาชนเฝ้าระวัง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) และข้อสั่งการของหัวหน้า คสช. (ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.-2 ก.ย. 2557) ของกระทรวงแรงงาน
โดยเรื่องดังกล่าวมีประเด็นสำคัญคือการดำเนินงานแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ซึ่งกระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินการภายใต้มาตรการต่าง ๆ เพื่อให้มีการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน อย่างเป็นระบบ โดยมีใจความสำคัญคือ การตรวจป้องปรามเพื่อลดความเสี่ยงการค้ามนุษย์ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจในพื้นที่/กิจการกลุ่มเสี่ยง หากพบสถานประกอบกิจการฝ่าฝืนกฎหมายที่เชื่อได้ว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์ให้ใช้มาตรการปิดสถานประกอบกิจการชั่วคราว และถ้าพบเจ้าหน้าที่รัฐประพฤติมิชอบหรือเข้าไปเกี่ยวข้องจะลงโทษทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
รวมไปถึงการเพิ่มความพยายามในการระบุเหยื่อค้ามนุษย์ด้านแรงงาน กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ในการจัดทำแนวทางการตรวจแรงงานในกิจการกลุ่มเสี่ยง และแบบประเมินสภาพการทำงาน เพื่อให้สามารถใช้ประเมินพฤติกรรมข้อบ่งชี้ที่อาจมีการค้ามนุษย์ในกิจการกลุ่มเสี่ยงได้แม่นยำขึ้น นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังและป้องกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
ส่วนข้อสั่งการในการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์อื่น ๆ สรุปใจความได้ ดังนี้
1.การจัดระเบียบบริษัทจัดหางาน สาย/นายหน้า นำมามาตรการบังคับใช้กฎหมายจัดหางานและคุ้มครองคนหางานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดระเบียบบริษัทจัดหางาน และสาย/นายหน้าคนงาน โดยมีกระบวนการคัดกรองบริษัทจัดหางาน ตลอดจนขั้นตอนและเงื่อนไขในการออกใบอนุญาต ตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528
2.การจัดระเบียบแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ โดยจัดให้มีการส่งเสริมการไปทำงานต่างประเทศโดยรัฐเป็นผู้จัดส่ง เพื่อป้องกันปัญหาการถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในกระบวนการจัดส่งคนหางานไปทำงานยังประเทศปลายทาง และการถูกหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศในรูปแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานบริการการไปทำงานต่างประเทศในส่วนภูมิภาค (Thailand Overseas Employment Administration : TOEA) จำนวน 10 ศูนย์ เพื่อเป็นศูนย์รวมของการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จและบูรณาการ ณ จุดเดียวกัน
3.การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ภายหลัง คสช. ได้เข้ามาบริหารประเทศในช่วงเดือน พ.ค. 2557 ได้มีนโยบายเร่งด่วนสั่งการให้กระทรวงแรงงานประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้นายจ้างนำแรงงานต่างด้าวสัญญาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา มาจดทะเบียนจัดทำประวัติ ออกบัตรประจำตัว ตรวจสุขภาพ ซื้อประกันสุขภาพ และออกใบอนุญาตทำงานชั่วคราว
4.การลดค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว กำหนดมาตรการปรับลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเพื่อลดการแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงานและการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน
5.การจัดระเบียบเรือประมงและแรงงานภาคประมง รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์ประสานแรงงานประมง เป็นโครงการนำร่องใน 7 จังหวัด (สมุทรสาคร ระยอง ตราด ชุมพร สงขลา ระนอง และสตูล) โดยมีวัตถุประสงค์ 5 ด้าน คือ 5.1 การจัดระเบียบแรงงาน 5.2 การจัดระเบียบเรือประมง 5.3 การคุ้มครองแรงงาน 5.4 การตรวจ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดี 5.5 การช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในกิจการ โดนกำหนดให้แรงงานต่างด้าวในภาคประมงและเรือประมงมาจดทะเบียนตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2556 และดำเนินการจดทะเบียนแบบ One Stop Service ตามแนวทางของ คสช. ใน 22 จังหวัดพื้นที่ติดทะเล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า กระทรวงแรงงานมีการเบิกจ่ายงบราชการลับตั้งแต่ยุคนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ (เสียชีวิต) และล่าสุดคือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รวมมูลค่ากว่า 24.6 ล้านบาท
ขณะที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงานคนปัจจุบัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราถึงกรณีนี้ว่า มีการตั้งงบส่วนนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ปฏิบัติการพิเศษ ทำงานตรวจสอบข้อมูลแรงงานประมงใน 22 จังหวัดพื้นที่ติดทะเล และปัญหาการค้ามนุษย์
อ่านประกอบ :
เจาะข้อมูลงบลับก.แรงงาน! พบยอดเงิน"เฉลิม"เบิกใช้ช่วงม็อบกปปส. 6.4 ล้าน
ฮือฮา!ก.แรงงานยุค"เฉลิม"ดอดตั้งงบลับใช้จ่ายหลายสิบล้าน-สตง.ลุยสอบแล้ว
หมายเหตุ : ภาพ พล.อ.สุรศักดิ์ จาก tnews