“วัชระ”ยื่นป.ป.ช.จี้สอบ“ธาริต”เพิ่มอีก! ปมไม่สั่งฟ้อง-ดองคดี3“แกนนำแดง”

“วัชระ เพชรทอง” ยื่น ป.ป.ช. สอบ “ธาริต” ปฏิบัติหน้าที่ไม่สุจริต-ใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือฝ่ายการเมือง หลังไม่ฟ้อง 2 คดี “แกนนำแดง” ดองคดีเสื้อเกราะ “จ่าประสิทธิ์” จี้ตั้งอนุฯไต่สวนโดยเร็ว จ่อให้หลักฐานปมร่ำรวยผิดปกติเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้สอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับพวก กรณีขณะดำรงตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ไม่เที่ยงธรรม ไม่สุจริต ไม่ให้ความยุติธรรมต่อประชาชนและประเทศชาติ และใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง

นายวัชระ กล่าวว่า ด้วยหลักฐานและข้อเท็จจริงเบื้องต้น เห็นการกระทำของนายธาริตส่อผิดกฎหมาย 3 เรื่อง ได้แก่ กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นผู้ต้องหากรณีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553 โดยพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ทำสำนวนชันสูตรพลิกศพเสร็จได้ส่งเรื่องมาให้ดีเอสไอรวบรวมในสำนวนคดีอาญา และนายธาริตได้รับคดีดังกล่าวไว้ในดีเอสไอเพื่อสอบสวนความผิดต่อนายจตุพร อย่างไรก็ดีไม่มีการเรียกตัวนายจตุพรมารับทราบข้อกล่าวหา ทั้งที่ไปขอออกหมายจับต่อศาลแล้ว ย่อมแสดงว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดได้ แต่กลับสรุปดื้อ ๆ ว่าไม่ผิด และไม่สั่งฟ้อง

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. เป็นผู้ต้องหา กรณีขึ้นพูดบนเวทีปราศรัยของ นปช. เมื่อปี 2553 ยุยงให้คนเสื้อแดงจัดหาขวดแล้วเติมน้ำมันหลังจากนั้นกรุงเทพฯจะเป็นทะเลเพลิงจนมีคนไปแจ้งความดำเนินคดี ต่อมาศาลได้ออกหมายจับนายอริสมันต์ และกองปราบปรามส่งเรื่องให้ดีเอสไอดำเนินการต่อ แต่ดีเอสไอสรุปสำนวนสั่งไม่ฟ้อง นอกจากนี้ยังมีกรณี จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กับพวก เป็นผู้ต้องหา กรณีครอบครองเสื้อเกราะ และหมวกนิรภัยปราบจลาจล ซึ่งกองปราบปรามได้ดำเนินคดีกับ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ และส่งคดีดังกล่าวให้กับดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว แต่ขณะนี้ดีเอสไอยังไม่ดำเนินการอะไรเลย ทำให้คดีนี้ถูกดองไว้

“ทั้ง 3 คดีดังกล่าว เห็นได้ว่านายธาริตปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย อยากให้ ป.ป.ช. เร่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อตรวจสอบกรณีนี้โดยเร็ว” นายธาริต กล่าว

นอกจากนี้ นายวัชระ กล่าวถึงกรณีการต่ออายุการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยว่า อยากให้นายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ใช้มาตรา 44 เพื่อพิจารณาต่ออายุการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดนี้ เนื่องจากมีคดีสำคัญอีกมากที่ค้างอยู่ โดยภายในสัปดาห์หน้าจะนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีที่นายธาริตร่ำรวยผิดปกติมาให้กรรมการ ป.ป.ช. เช่น รถยนต์บีเอ็มดับบลิว ราคาประมาณ 3-4 ล้านบาท และบ้าน ซึ่งคิดว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นข้อมูลให้กับ ป.ป.ช. ได้