กกต.เผยยอดผู้ใช้สิทธิอย่างไม่เป็นทางการ 20ล้านคน คิดเป็น ร้อยละ45.84

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวภายหลังการประชุมกกต.ว่า ที่ประชุมกกต.ได้รับทราบผลการรายงาน ภาพรวมตัวเลขผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งทั่วไปอย่างไม่เป็นทางการ โดยมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด44,649,742 คน จาก 68 จังหวัด ไม่รวม 9 จังหวัดที่ไม่สามารถเปิดลงคะแนนได้ ซึ่งมีผู้ออกมาใช้สิทธิจำนวน20,468,646 คน คิดเป็นร้อยละ45.84 เปอเซ็นต์ โดยจังหวัดที่มาใช้สิทธิจำนวนมากที่สุดคือจังหวัดลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิ72.80เปอเซ็นต์ อันสอง จังหวัดหนองบัวลำภู มีผู้มาใช้สิทธิ 72.50เปอเซ็นต์ อันดับสามคือจังหวัดบึงกาฬ มีผู้มาใช้สิทธิ 70.00เปอเซ็นต์ ซึ่งตัวเลขอย่างเป็นทางการ รวมทั้งบัตรดี บัตรเสีย และผลโหวตโน จะทราบผลในวันพรุ่งนี้

นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมกกต.ยังได้รับทราบความประสงค์ของนายสมชัย ที่ขอแสดงความรับผิดชอบไม่สามารถทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งได้สมบูรณ์ โดยขอสลับตำแหน่ง ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าการทำงานของนายสมชัย สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว จึงขอให้ทำหน้าที่ในตำแหน่งด้านบริหารการเลือกตั้งต่อไป เนื่องจากเรื่องดังกล่าวนี้นายสมชัยได้เคยพูดคุยกันเอาไว้แล้วก่อนที่จะมีการโปรดเกล้าเข้ารับตำแหน่ง ว่าหากทำงานไปสักระยะหนึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ก็ได้

ส่วนกรอบเวลาการเลือกตั้งทดแทนล่วงหน้าใหม่ในวันที่ 23 กพ.และเรื่องเขตเลือกตั้ง28เขตในภาคใต้นั้น ที่ประชุมกกต.ได้สอบถามจากตนและรองเลขาธิการแล้ว ซึ่งตนจะมีการพิจารณาในวันพรุ่งนี้โดยจะหารือกับผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศ77จังหวัด ที่พัทยา โดยจะรับฟังข้อมูลรอบด้าน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปและความชัดเจน โดยต้องประเมินจากสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามทุกอย่างต้องมีความชัดเจนโดยเร็ว เพราะขณะนี้ทุกคนรอผลการเลือกตั้งอยู่ ซึ่งกกต.ต้องรีบจัดการให้เสร็จโดยเร็ว เพียงแต่ว่ากกต.ต้องดูสถานการณ์ว่าจะคลี่คลายลงมากน้อยแค่ไหนและจะสามารถดำเนินการจัดเลือกตั้งต่อไปได้หรือไม่ อีกทั้งหากจัดเลือกตั้งไปแล้วจะมีปัญหาเช่นเดียวกับวันที่26มค.และ2กพ.ที่ผ่านมาหรือไม่แล้วจะมีการแก้ไขอย่างไร ตรงนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ เรื่องการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง เรื่องบุคคลากรประจำหน่วยเลือกตั้ง ทุกอย่างมันเหมือนเป็นการจัดเลือกตั้งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งต้องรอฟังข้อมูลจากอำนวยการเขตเลือกตั้งประจำจังหวัดทั้งหมดก่อนว่าในส่วนของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จริงๆนั้นเป็นอย่างไร เพราะกกต.เกรงว่าหากจัดเลือกตั้งไปแล้วสถานการณ์กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกก็จะทำให้ต้องจัดเลือกตั้งแล้วจัดเลือกตั้งอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตามกกต.ทั้ง5ได้มีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ซึ่งการประชุมพรุ่งนี้จะเป็นข้อมูลที่สำคัญโดยเฉพาะข้อมูลภาคใต้และกทม.ที่เป็น ปัญหาที่กกต.หนักใจว่าจะจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อยได้อย่างไร

ขอขอบคุณข่าวจาก