- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ในหลวงทรงห่วงบ้านเมือง ‘สุเมธ’แนะแยกแยะข่าวลือ
ในหลวงทรงห่วงบ้านเมือง ‘สุเมธ’แนะแยกแยะข่าวลือ
ดร.สุเมธ เริ่มต้นการสนทนาด้วยการเล่าถึงพระราชกระแสรับสั่ง ที่ท่านจดจำได้เป็นอย่างดี และเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2524 ตั้งแต่ได้มีโอกาสเข้าถวายงานเป็นครั้งแรก ในขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ หรือ กปร.
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาได้เปิดใจให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ทีมข่าวการเมืองเดลินิวส์”เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และเรื่องราวอันน่าประทับใจ รวมถึงพระราชดำรัสอันทรงคุณค่าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ในหลวง” ของปวงชนชาวไทยเพื่อถ่ายทอดสู่คนรุ่นหลัง ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา จากที่ได้ถวายงานและติดตามโครงการในพระราชดำริ เพื่อมุ่งพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา
’ขอบใจนะมาช่วยกันทำงาน ฉันขอบอกก่อนว่า มาช่วยทำงานมาอยู่กับฉันนั้น ฉันไม่มีอะไรจะให้ นอกจากความสุขที่จะมีร่วมกันในการทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น“
ดร.สุเมธเริ่มต้นการสนทนาด้วยการเล่าถึงพระราชกระแสรับสั่ง ที่ท่านจดจำได้เป็นอย่างดี และเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2524 ตั้งแต่ได้มีโอกาสเข้าถวายงานเป็นครั้งแรก ในขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ หรือ กปร.
“เป็นประโยคง่าย ๆ ที่ผมรับมาตามลำพัง ได้รับโดยตรง และมีความหมายลึกซึ้ง ซึ่งคนไทยทุกคนก็ควรได้รับ ผมจึงอยากนำมาถ่ายทอด ทรงรับสั่งเงื่อนไขในการทำงาน มีสองประเด็นใหญ่ที่ต้องระวังการได้มาถวายพระเจ้าอยู่หัว จะได้ลาภยศสรรเสริญ หาโอกาส หาเงินทอง อาจไม่ผิดกฎหมาย เหมือนลูกศิษย์พระดัง ๆ หรือทนายหน้าหอ ใครจะเข้าเฝ้าฯ ก็หาประโยชน์ หรือไล่ซื้อที่ซื้อทางบอกคนนั้นคนนี้ให้หาประโยชน์ นี่ไม่ได้เลย แต่ละโครงการจะหาประโยชน์ไม่ได้คำว่าพอเพียงมาก่อน ประการที่สองให้มองทะลุเหนือสิ่งอื่นใด คือคำว่าความสุขความสุขที่ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เกิดขึ้นจากการเข้าไปช่วยเหลือคนอื่นการถวายงานอยู่กับพระเจ้าอยู่หัว อย่าไปทำเรื่องอื่น ต้องทำด้วยใจบริสุทธิ์เวลานี้เกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้นกับบ้านเมืองเพราะมองแต่เรื่องเงิน มองแต่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นสำคัญ”
พระเจ้าอยู่หัวไปสอนให้ปลูกป่า ป่าเป็นอ่างน้ำธรรมชาติ ไปปลูกสวนผลไม้ ผัก เพื่อกินที่เหลือนำไปขาย ชีวิตอยู่ได้ ได้ป่า ได้น้ำ ได้ผลผลิต ได้ชีวิตกลับมาเหนือสิ่งอื่นใด ได้ทุกอย่างป่าไม่หาย คนก็อยู่ ไม่ใช่ไล่คนออกไป ไปทำลายที่อื่นต่อพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานไว้ให้ไม่เคยต้องเอากฎระเบียบไปกาง ทำให้เกิดประโยชน์สุขก่อน ทำได้ไหม เพราะประโยชน์สุขถาวรกว่าเงินสร้างประโยชน์ไม่ได้ ตรงนี้คือสติและปัญญา
ประชาชนห่วงพระอาการประชวรของพระเจ้าอยู่หัว
เป็นสัจธรรมของมนุษย์ เมื่อเป็นเรื่องวัยชรา ถึงอายุร่างกายทรงใช้สมบุกสมบันทรงงานหนัก69 ปีเต็ม ๆ ทุ่มเททุกอย่าง พวกเราไม่ลุกมาทำกันบ้างหรือ เอะอะร้องหาพระเจ้าอยู่หัว วันนี้มีตัวอย่างแล้ว ลุกมาทำกันบ้าง มีตั้ง 65 ล้านคน จะมัวแต่นั่งดู ได้ยินได้ฟังกันเท่านั้นหรือ ให้พระองค์ท่านทำงานพระองค์เดียวรักษาประเทศต้องช่วยกันมอง ฟัง เข้าใจ เข้าถึงพัฒนา พอเราเข้าใจ ลงมือปฏิบัติ ประโยชน์สุขก็ตอบแทนเรา แต่วงจรนี้ยังไม่มา
เคยมีรับสั่งห่วงสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร
พระองค์ทรงเป็นห่วงมาตลอดสถานการณ์บ้านเมือง เป็นลักษณะประจำพระองค์ท่านติดตามสภาพดินฟ้าอากาศ ภัยแล้ง น้ำท่วม เพราะไม่หยุดทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ขณะนี้ปัจจัยแห่งธรรมชาติไม่มี จะอยู่อย่างไรไม่มีดิน น้ำ ลม ไฟ มลพิษเต็มบ้านเมือง ผลพวงเป็นโรคมะเร็งกันสูงเกิดขึ้นจากของที่กินเข้าไป จากความเจริญ ความรู้สึกไม่พอเพียงอยากจะมีอะไร จนรถเต็มบ้านเมือง ตอนนี้แค่อยากจะเคลื่อนไปไหนยังลำบากทุกรัฐบาลปฏิบัติตามคำสอนจริง ๆ หรือทำโดยต่อเนื่องหรือไม่และผลเกิดมาอย่างไร ไม่ใช่พูดว่าจะปฏิบัติดี พอหรือเปล่า ซึ่งไม่รู้ว่าทำกันอย่างไรไปดูเอง คุณตอบเองได้ สภาพแวดล้อมดีขึ้นไหม
ขณะนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศ
ต้องปฏิรูปคนก่อน ถ้าจำได้ผมไม่ใช่เพิ่งพูด ผมพูดปี37-38 ผมเป็นคนเขียนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ผมเอาคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ไม่เอาวัตถุหรือเงิน เพราะถ้าคนแย่ไม่รู้จักหน้าที่ ไม่ใช้บทบาทสร้างสรรค์ประเทศ คนไม่มีคุณภาพ แม้จะมีเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ดีแค่ไหน แต่คนใช้ไม่มีคุณภาพมันก็เป็นเครื่องทำลายได้ อยู่ที่คนอย่างเดียว สติปัญญาคนไปใช้ทางแยกสายดำหรือไปสายคุณธรรม
รัฐบาลมุ่งมั่นร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่ดี แก้คอร์รัปชั่น ซื้อเสียง ให้หมดไป
ก็บอกแล้ว เครื่องมือกองไว้เถอะ เครื่องมือดีเยี่ยมอย่างไร คนใช้มันเกิดเรื่องตลอดเวลา ไม่ใช่กฎระเบียบไม่ดี จะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับไหน ผมไม่อยากวิจารณ์ ชีวิตผมหลีกเลี่ยงมาตลอดไม่อยากยุ่งการเมือง แต่มันพันอยู่กับเราอย่างนี้
“มันไม่ใช่รัฐธรรมนูญไม่ดี แต่คนใช้ไปแปลความบิด ๆ เบี้ยว ๆ ทำให้ผลไม่ดีเกิดขึ้นเรื่อง อย่าไปโทษเลยหยิบตรงไหนมาใช้ก็ได้ ไม่ต้องร่างใหม่ ฉบับไหนก็ได้อยู่ที่คน เป็นศรีธนญชัย อย่างที่ทำกันต่อให้ร่างอย่างไร คนใช้เป็นอย่างที่เราเห็นก็จบหมด”
เลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง แก้ซื้อเสียงได้หรือไม่
ขอพูดซ้ำอีกที วางไปเถอะฉบับไหน ตรงไหนอันไหนก็ได้ ผลสุดท้ายคนเอาไปใช้ก็สบช่องบิดเบี้ยวกันอยู่อย่างนั้นแหละ ผมไม่เชื่อ ผมอายุ 76 ปีแล้ว ผ่านอะไรมาสมควร ผมไม่ได้นั่งสบายอย่างนี้ ผ่านท้องไร่ท้องนาไปถึงอินเตอร์ กินนอนในสนามรบ คำตอบชัดเจนอยู่ที่คน กฎหมายดีป้องกันทุจริต คอร์รัปชั่น ก็ยังโกงกันอยู่มีกี่มาตราคนก็ทำผิดอย่างนั้น ยังฆ่าตายกัน ผมไม่เชื่อสุดท้ายก็ไปจบที่คนหมดปัญหาทั้งหมดจากคนไม่สามารถจะละหรือจะควบคุมกิเลสตัณหาได้ ทำให้มีปัญหาตามมาตลอดเวลา จะเขียนร่างอย่างไรขนาดคนข้ามถนนยังบังคับไม่ได้แก้ลอตเตอรี่ได้ไหม ผมพูดความจริงพูดจากสิ่งประจักษ์รอบตัวยกตัวอย่างให้ฟังแค่นี้ ไม่อยากพูดให้เสียกำลังใจผมยังทำประเทศไทยใสสะอาด รู้เท่ารู้ทันมันยากเย็นแสนเข็นเอาชนะยาก ผมไม่เสียกำลังใจ พระพุทธเจ้าสู้กับกิเลสตัณหามากว่า 2,557 ปี สู้ได้ไหม มันเป็นสงครามไม่รู้จบแต่ประเทศที่ทำสำเร็จก็มีในอาเซียน ปีหน้าเป็นเออีซี เช่น สิงคโปร์ ไปไกลแล้ว ไม่รู้ ทำไม เขามีกฎระเบียบเข้มแข็ง เราก็มีเข้มแข็ง แต่คนของเราแปลก คนของเขาฟังเขาปฏิบัติผู้นำเขาพิสูจน์ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่นไปรอด อย่างประเทศเกาหลี ทำไมเขาไปได้
ภายใน 1 ปี เชื่อว่ารัฐบาลทำสำเร็จหรือไม่ และมองการทำงานของนายกรัฐมนตรีอย่างไร
ไม่ทราบ เพราะปัญหาเฉพาะหน้าเยอะแยะไปหมด แก้เรื่องคนนี้ไม่ใช่แค่ปีเดียว สิงคโปร์ เขาทำเรื่องคนตั้งแต่เริ่มตั้งประเทศมา เขาพัฒนาคนจนมีคุณภาพ ตอนนี้เราไม่ขอพูดเรื่องปฏิรูป เพราะการเปลี่ยนแปลงคนไม่ใช่เรื่องวันสองวันหรือปีสองปี ตัวนายกรัฐมนตรี ผมไม่สงสัยเขาจริงจัง มุ่งมั่นมากเพื่อประเทศชาติ แต่คนคนเดียวจะแบกไหวไหม ต้องได้รับความร่วมมือ เพราะผมรู้จักนายกรัฐมนตรีมานาน เป็นคนจริงจังมอบหมายงานเรื่องอะไรกันมาต่อเนื่อง จึงไม่สงสัยตัวนายกฯ แต่ประเทศทั้งประเทศ จะขับเคลื่อนไปเป็นเรื่องขององค์กร องคาพยพ เคลื่อนไปพร้อม ๆ ไปในทิศทางหันทิศทางเดียวกันต้องเกิด เนชั่นแนลมูฟเมนท์ เป็นกระแสการขับเคลื่อนระดับประเทศหรือกระแสชาติขับเคลื่อนอย่างนี้เรายังไม่มี ยังไม่เกิด เอา ๆ ไม่เอา ถ้าเอาให้มันสุดไปด้วยกันจริง ๆ จะทำได้
’เฉพาะคำพูดอย่างเดียวมันไม่พอ ผมยกตัวอย่างถ้าผมพูดนี่ดีนะ ผมเป็นคนบริสุทธิ์มันไม่พิสูจน์อะไรหรอก ต้องข้ามซ็อตไปดูการกระทำ และพิจารณาอะไรที่เป็นรูปธรรมแตะ ต้องได้ถึงจึงพิสูจน์ได้ว่าดีหรือไม่ดี“
เรื่องการเมืองกระชากลากผมไปเวลาเกิดวิกฤติต้องการผม ผมโดนเชิญมาทุกตำแหน่ง ผมไม่ยุ่งเกี่ยว ผมบอกว่าอย่ายุ่งกับผม ที่แล้ว ๆ มา มีเรื่องมีราวชื่อผมผุดขึ้นตลอด แต่ผมมีภารกิจ ผมไม่วอกแวก ในชีวิตตำแหน่งไม่มีความหมายกับผมผมไม่เคยให้ความสำคัญนอกจากหน้าที่ถวายงานพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ยังทรงงานไม่เสร็จสิ้น คนไทยทำอย่างไรให้พระเจ้าอยู่หัว สบายพระทัยสิ่งที่ดีที่สุดคนไทยสร้างความสบายใจพระองค์ท่าน อะไรมีปัญหาอย่าสร้างได้ไหม อยู่อย่างสงบได้ไหม บ้านเมืองเราสมบูรณ์ทุกอย่างโชคดี มีแต่เรื่องของเรามานั่งทะเลาะกันอยู่ได้ นั่งโกงกันอยู่ได้ ทำไมก็ไม่รู้ นั่งกัดกันอยู่ได้ ผมใช้ 5 คำคนไทยต้องขจัดให้หมดคือ หลง โลภ โง่ โกง กัด ละให้ได้จะอยู่บนสวรรค์บนดิน ทะเละกันกัดกันเหมือนอะไรไม่อยากใช้คำรุนแรง กัดกันทุกกลุ่ม อยู่เฉย ๆ ก็กัดแล้ว หุบปากไม่กัดใคร ใจกัดใครไม่เป็นพิษ ใจกัดใครไม่เข้า ไม่อ้าปากงับเขาไม่มีใครเจ็บ ธรรมะง่าย ๆ ตอนนี้เห็นยังอ้าปากค้างกันไว้ใครอย่าผ่านมา
ตอนนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับสถาบันแรงมาก
ก็ไม่รู้ก็นี่แหละเพราะหลง โลภ โง่ โกง กัด บางทีมันก็โง่ ไม่รู้เรื่องอะไรเป็นอะไรใจเชื่อไปแล้ว เลยก็เชื่อเสียงลือเสียงเล่าอ้างเป็นอย่างนี้ ไม่รู้จักแยกแยะอันนั้นเป็นอะไร สุภาษิตโบราณ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว สอนมา 2,557 ปี พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้ไปสนใจพวกบัวใต้น้ำ มีคนแบบนี้ผมไม่สอนไปยุ่งทำไมพวกบัวใต้น้ำผมไม่สอนทำอย่างไรไม่พ้นน้ำ เป็นเหยื่อเต่าปู มีเยอะหรือไม่ไม่เคยสำรวจ ไม่เคยดำไปใต้น้ำ น้ำเน่าไม่ชอบ ขอว่ายผิวน้ำ เหมือนพระมหาชนกถึงไหนไม่รู้ ไม่ว่ายก็จมตาย.