- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- 5 ก.ค.ลงประชามติชี้ชะตาอนาคตกรีซ
5 ก.ค.ลงประชามติชี้ชะตาอนาคตกรีซ
วันที่ 5 ก.ค.2558 ถือเป็นวันชี้ชะตาว่ากรีซจะยังอยู่กับยูโรโซนต่อไปหรือไม่ โดยชาวกรีกจะต้องลงประชามติว่าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับเงื่อนไขการขอกู้เงินงวดใหม่จากกลุ่มเจ้าหนี้ ซึ่งเงื่อนไขนี้จะทำให้มาตรการรัดเข็มขัดของกรีซเข้มงวดมากขึ้น
เงื่อนไขการกู้เงินช่วยเหลืองวดใหม่ของกรีซประกอบไปด้วย การปรับภาษีเป็น 3 ระดับ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐให้ได้ร้อยละ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี การจัดเก็บภาษีที่มีอัตราสูงที่สุดคือร้อยละ 23 จะเป็นสินค้าในหมวดอาหารแปรรูป และร้านอาหารต่างๆ ซึ่งจัดอยู่ในข่ายสินค้าฟุ่มเฟือย
ขณะที่อัตราภาษีขั้นที่ 2 คือจัดเก็บร้อยละ 13 เป็นสินค้าในหมวดอาหารทั่วไป, ไฟฟ้า, น้ำประปาและโรงแรม ส่วนอัตราภาษีขั้นสุดท้ายซึ่งถูกที่สุดคือจัดเก็บร้อยละ 6 จะเป็นสินค้าในหมวดที่มีความจำเป็นเช่น ยาและหนังสือ, เพิ่มอายุเกษียณเป็น 67 ปีในปี 2565 นอกจากนี้ยังยกเลิกการจ่ายเงินสมทบในกองทุนสำหรับผู้เกษียณอายุที่ยากไร้และยกเลิกกองทุนในปี 2563
หากว่าในท้ายที่สุดแล้ว กรีซไม่สามารถหาทางออกจากวิกฤตในครั้งนี้ได้ กรีซอาจจะต้องออกจากยูโรโซนหลังวันที่ 20 ก.ค.2558 เพราะเป็นวันที่กรีซจะต้องจ่ายหนี้มูลค่า 3,460 ล้านยูโรให้ธนาคารกลางของยุโรป หากไม่มีเงินจ่ายก็จะต้องออกจากยูโรโซน ซึ่งขณะนี้มีคำศัพท์ใหม่ที่เรียกว่า "กรีซิท" มาจากคำว่า "กรีซ" กับ "เอ็กซิท" ซึ่งหมายถึงการที่กรีซจะต้องออกจากยูโรโซนและหากเป็นเช่นนั้นจริง รัฐบาลกรีซจะต้องนำเงินสกุล "ดราชม่า" ซึ่งเป็นเงินสกุลเดิมที่กรีซใช้ก่อนจะเข้าร่วมในยูโรโซนกลับมาใช้อีกครั้ง