- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- 'นิรันดร์' ฟันธงร่าง รธน.ไม่ผ่านประชามติ
'นิรันดร์' ฟันธงร่าง รธน.ไม่ผ่านประชามติ
“เสรี”ชี้ร่าง รธน.ส่งสัญญาณสร้างความแตกแยกชัด ปลุก สปช.โหวตคว่ำ เชื่อทำประเทศเกิดวิกฤติซ้ำ แม้แต่ คสช.ก็เอาไม่อยู่ ด้าน "นิรันดร์" งัดมาตรา 37 รธน.ชั่วคราวฯ ฟันธงพันเปอร์เซ็นต์ เสียงประชามติไม่ผ่าน
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้เขียนข้อความในเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง “สัญญาณความแตกแยก” โดยมีรายละเอียดถึงเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญที่สร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองดังที่พูดกันอยู่ทุกวัน หาก สปช.เห็นชอบผ่านร่างรัฐธรรมนูญนี้แล้ว จะต้องนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ส่งไปให้ประชาชนออกเสียงทำประชามติต่อไป ขณะนี้มีความชัดเจนว่าผู้นำฝ่าย นปช.ได้ส่งสัญญาณว่าจะรณรงค์ไม่รับร่าง และผู้นำ กปปส.ก็ได้ส่งสัญญาณให้รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ดังนั้นหากร่างรัฐธรรมนูญต้องส่งไปทำประชามติ เชื่อว่าบ้านเมืองและประชาชนจะเกิดความร้าวฉานแตกแยกอีกครั้ง ประชาชนที่แบ่งออกเป็นฝักเป็นฝ่ายอยู่แล้วจำนวนมหาศาล ก็จะออกมาขัดแย้งต่อสู้สนับสนุนฝ่ายของตนกันอีก บ้านเมืองจะกลับมาวิกฤติอีกครั้ง ประชาชนจะใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ยากลำบากเหมือนที่ผ่านมา จะเกิดปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจสังคม ประชาชนจะไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คนต่างชาติก็ไม่กล้าเข้ามาลงทุน และท่องเที่ยวที่ประเทศไทย อันจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาทางเศรษฐกิจหนักเข้าไปอีก
“จึงเห็นได้ว่าหากส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปให้ประชาชนออกเสียงการทำประชามติ ก็จะเกิดความขัดแย้งในหมู่มวลประชาชนกลับมาอีก และจะรุนแรงถึงระดับใดไม่อาจคาดการณ์ได้ รวมทั้งจะต้องเสียเงินในการทำประชามติ จัดพิมพ์และส่งร่างรัฐธรรมนูญเป็นเงิน 4-5 พันล้านบาท สมาชิก สปช.จะต้องรับผิดชอบต่อบ้านเมืองร่วมกัน จึงขอเสนอให้ สปช.ทุกท่านโปรดใช้ดุลยพินิจเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นสำคัญ กรุณาช่วยกันลงมติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นปัญหานี้เสีย เพื่อเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม”นายเสรี กล่าว
นายเสรี ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่าการตัดสินใจของ สปช.ตนเชื่อว่าจะใช้ดุลยพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยไม่ได้เป็นไปตามคำสั่ง หรือแรงสนับสนุนที่ออกมาจากฝ่ายผู้มีอำนาจ มุ่งเน้นอนาคตของบ้านเมืองหลังจากนี้ไป ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นส่วนที่ไม่สร้างดุลยภาพของการจัดสรรอำนาจ ทั้งการบริหาร ตรวจสอบ และฝ่ายการเมือง จึงเชื่อว่าไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งอีกกี่ครั้ง ความขัดแย้งที่มาจากฝ่ายผู้มีอำนาจหรือฝ่ายการเมืองก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ต่อให้คงอำนาจของ คสช.ไว้ แต่ด้วยเงื่อนไขของการใช้อำนาจนั้นไม่สามารถจะใช้ดำเนินการระงับ หรือยับยั้งความขัดแย้งได้
ด้านนายนิรันดร์ พันทรกิจ สมาชิก สปช. กล่าวถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าการที่รัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) ปี 2557 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 37 วรรค 7 ระบุว่า “ถ้าผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ โดยเสียงข้างมากเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีนําร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 30 วันนับแต่วันประกาศผลการออกเสียงประชามติ” หมายความว่าการคำนวณคะแนนประชามติที่ผ่านความเห็นชอบจากประชาชนต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิลงคะแนน ไม่ใช่ผู้มาใช้สิทธิลงคะแนน ขณะนี้มีจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด 47 ล้านคน หากจะให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจากประชาชน จะต้องได้คะแนนเห็นชอบ 23.5 ล้านเสียง หากเทียบกับผลการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 พบว่ามีประชาชนเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญเพียง 14 ล้านเสียงเท่านั้น ดังนั้นหากใช้เงื่อนไขการทำประชามติตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวฯ กำหนดไว้ จะเป็นเรื่องยากที่ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติได้ เนื่องจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่ ออกมารณรงค์ให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เกิดคำถามว่า จะเอา 23 ล้านเสียงมาจากไหน โอกาสที่ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติไม่มีเลยพัน เปอร์เซ็นต์
นายนิรันดร์ กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้อง สปช.ว่า เมื่อเห็นว่าอนาคตรถคันนี้กำลังจะลงเหว คนที่จะขับต่อ คือคนปัญญาอ่อน สติไม่ดี และจะฆ่าตัวตายเท่านั้น ขอให้ สปช.มีมติร่วมกันไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ เพราะถ้า สปช.ลงมติผ่านร่างรัฐธรรมนูญไปก่อน แล้วไปแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวฯ เรื่องการทำประชามติในภายหลัง ถือเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ หรือหากให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ไปแก้ไขข้อความมาตรา 37 วรรค 7 จากคำว่า “ผู้มีสิทธิ” เป็น “ผู้มาใช้สิทธิ”นั้น ก็ไม่ทราบว่า จะทันเวลาที่ สปช.จะลงมติในวันที่ 6 ก.ย.หรือไม่ แม้ที่ผ่านมานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การทำประชามติต้องใช้คะแนนเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธินั้น แต่เมื่อมาตรา 37 วรรค 7 กำหนดไว้เช่นนี้ ก็ต้องตีความตามตัวอักษร จะไปตีความว่า เป็นผู้มาใช้สิทธิไม่ได้คิดว่า อาจเป็นความผิดพลาดของรัฐธรรมนูญชั่วคราวฯ ที่ สนช.น่าจะเผลอในขั้นตอนการพิจารณา หากปล่อยให้ดำเนินการลงมติจะมีผู้คัดค้านว่ากระบวนการไม่ถูกต้องได้.
ขอบคุณข่าวจาก