- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- 'กกต.'เปิดลงทะเบียนออกเสียงประชามติ 1 พ.ค.นี้
'กกต.'เปิดลงทะเบียนออกเสียงประชามติ 1 พ.ค.นี้
กกต. เปิดให้ลงทะเบียนออกเสียงประชามตินอกเขตจังหวัด 3 ทาง เริ่ม 1 พ.ค.นี้ ยันไม่มีวิ่งเต้นจัดพิมพ์บัตรออกเสียง
นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.แถลงถึงมติ ที่ประชุมกกต. ว่า ได้เห็นชอบประกาศ กกต.สามฉบับคือ 1.ประกาศเรื่องกำหนดวันเวลายื่นคำขอลงทะเบียนใช้สิทธิลงคะแนนนอกเขตจังหวัด ในกรณีบุคคลไม่ได้อยู่ในพื้นที่ตามภูมิลำเนาของตน สามารถยื่นได้สามวิธีคือ ยื่นด้วยตัวเองหรือมอบอำนาจให้คนอื่นไปยื่นให้ โดยให้ยื่นตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. - 7 ก.ค. 59 ในวันและเวลาราชการ โดยยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นผ่านทางไปรษณีย์ ซึ่งสามารถยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-30มิ.ย. ซึ่งจะปิดก่อนการยื่นด้วยตนเอง เช่นเดียวกับการยื่นผ่านอินเทอร์เน็ตเวปไซต์ http://election.dopa.go.th ซึ่งเป็นวิธีการใหม่ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิลงคะแนนโดยสามารถยื่นได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง จากนั้นระบบจะปิดการรับสมัครในเวลา 24.00 น.ของวันที่ 30 มิ.ย. 59
นอกจากนี้ กกต.ยังจัดให้มีการลงคะแนนนอกเขตจังหวัดผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ในสองจังหวัดคือ ปราจีนบุรี และลพบุรี โดยเหตุผลที่เลือกสองจังหวัดนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเป็นจังหวัดที่มีทหารอยู่มาก แต่พิจารณาจากการลงทะเบียนที่ผ่านมามีผู้ลงทะเบียนไม่มากหรือน้อยเกินไปจึงใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการระบบเครื่องอิเล็คทรอนิกส์ในการอ่านบัตรประชาชนว่ามาลงทะเบียนใช้สิทธิแล้ว แม้เครื่องอ่านบัตรประชาชนจะเกิดขัดข้องก็มีการสำรองเรื่องบัญชีรายชื่อด้วยเช่นเดียวกัน
นายบุณยเกียรติ กล่าวว่า การออกเสียงประชามติครั้งนี้ได้อำนวยความสะดวกให้กับคนพิการและผู้สูงอายุเพิ่มเติมคือ เปิดลงทะเบียนให้กับองค์กรที่เกี่ยวข้องรวบรวมสมาชิกหรือคนที่ไม่ใช่สมาชิกลงทะเบียนที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-7 มิ.ย.59 หากได้ 100 คนขึ้นไป ผอ.การเลือกตั้งฯจะประกาศให้มีหน่วยลงคะแนนพิเศษสำหรับคนพิการ แต่ถ้าไม่ครบ 100 คนก็สามารถไปใช้สิทธิตามภูมิลำเนาของตัวเอง และจะประกาศให้มีการลงทะเบียนรอบที่สอง ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 7ก.ค.59 สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการหรือผู้ทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุที่กกต.จัดไว้ให้ อาทิ รถวีลแชร์ โคมไฟส่องสว่าง แว่นส่องขยาย เป็นต้น และสามารถให้คนอื่นลงคะแนนได้โดยต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิการหรือทุพพลภาพ นอกจากนี้ในหน่วยลงคะแนนของผู้พิการจะมีพนักงานมากกว่าหน่วยปกติและจะมีการสาธิตการลงคะแนนในวันที่ 16 พ.ค.นี้
นายบุณยเกียรติ ยังชี้แจงถึงการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญว่า กกต.ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยใช้วิธีกรณีพิเศษกับโรงพิมพ์ของรัฐ ซึ่งการพิมพ์ร่างและสาระสำคัญเล่มที่ 1 และ 2 รวมทั้งประเด็นคำถามประกอบหลักการและเหตุผล มีโรงพิมพ์รัฐเสนอราคามา 5 โรงพิมพ์ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบศักยภาพของโรงพิมพ์ว่าที่เสนอราคาต่ำสุดมีศักยภาพที่จะจัดพิมพ์ได้ทันระยะเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยมีการแต่งตั้งกรรมการไปตรวจสอบและรายงานกลับมาภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งตามกำหนดการคาดว่าจะเริ่มจัดพิมพ์ประมาณต้นเดือนพ.ค.นี้ และจัดส่งในงวดแรกจำนวนหนึ่งแสนชุดในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ทั้งนี้จะสามารถจัดส่งได้ครบตามจำนวนในวันที่ 30 มิ.ย.ส่วนการจัดพิมพ์สรุปสาระสำคัญจำนวน 17 ล้านเล่มจะดำเนินการหลังจากได้รับเนื้อหาแล้ว
ส่วนที่มีข่าวเกี่ยวกับการวิ่งเต้นเรื่องการจัดพิมพ์บัตรออกเสียงประชามตินั้น นายบุณยเกียรติ กล่าวว่า กกต.ได้มีมติให้จัดพิมพ์จำนวน 54 ล้านฉบับซึ่งพิมพ์เกินกว่าจำนวนผู้มีสิทธิประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ โดยยังอยู่ในระหว่างการกำหนดทีโออาร์ยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างจึงไม่เป็นไปตามข่าวที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ อีกทั้งนโยบาย กกต.ก็ต้องการให้มีการประกวดราคาเป็นหลัก เพราะยังมีเวลาที่สามารถดำเนินการได้เพราะจะใช้ในวันที่ 7 ส.ค.59 โดยจะต้องจัดส่งไปยังเขตที่มีการลงคะแนนก่อนวันลงคะแนน 7 วัน ทั้งนี้คาดว่าต้นเดือนพ.ค.จะสามารถดำเนินการกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างได้ นอกจากนี้จะมีการพิมพ์อักษรเบลล์เพิ่มเติมเพื่ออธิบายเกี่ยวกับวิธีการออกเสียงละคะแนนด้วย
สำหรับการไม่ไปใช้สิทธิลงประชามติในครั้งนี้ นายบุญยเกียรติ กล่าวว่า ไม่มีบทลงโทษเรื่องเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส่วนจะเป็นเหตุทำให้คนไปใช้สิทธิน้อยหรือไม่นั้น คงขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคน รวมถึงการรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลต่อประชาชนอย่างทั่วถึง
ขอบคุณข่าวจาก