- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- เซ็นทรัลรุกหนัก ผงาดเอเชีย ฮุบ 'บิ๊กซี-เวียดนาม'
เซ็นทรัลรุกหนัก ผงาดเอเชีย ฮุบ 'บิ๊กซี-เวียดนาม'
แอร์เอเชีย พบ 'บิ๊กตู่' เตรียมตั้งสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคในไทย หอบหุ้นเข้าจดทะเบียนในไทย พร้อมลงทุนในสนามบิน และเป็นพันธมิตรร่วมลงทุนกับ 'การบินไทย' ด้านกลุ่ม 'เซ็นทรัล' จับมือกลุ่ม 'เหงียน คิม' ทุ่ม 36,800 ล. ซื้อกิจการ 'บิ๊กซี' เวียดนาม ได้แล้วอย่างเป็นทางการ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กลุ่มแอร์เอเชีย ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยซีอีโอแอร์เอเชียได้เสนอความเห็นว่า ประเทศไทยจะเป็นประตูหรือเกตเวย์ของอาเซียนอย่างแน่นอน รวมทั้งไทยจะเป็นศูนย์กลางการบินหรือฮับของอาเซียน และอุตสาหกรรมการบินมีโอกาสเติบโตสูงมากตามการเติบโตของอาเซียน เนื่องจากในอนาคตภูมิภาคอาเซียนจะมีการเดินทางติดต่อกันสูง จะเกิดการเชื่อมโยงเส้นทางการบินทั้งในประเทศและในภูมิภาคมากขึ้น ดังนั้นทางแอร์เอเชียจึงตั้งใจที่จะมาตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในประเทศไทย และในอนาคตจะเอาหุ้นมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ควบคู่ไปกับที่มาเลเซียด้วย
“แอร์เอเชียทำธุรกิจด้านการบินมาจากที่เริ่มมีเครื่องบิน 2 ลำ เพิ่มมาเป็น 200 ลำและกำลังขยายไปเรื่อยๆ การที่ต้องการจะมาตั้งฐานสำนักงานใหญ่ในนี้ แสดงให้เห็นว่ามีความเชื่อมั่นในประเทศไทย ซึ่งแอร์เอเชียเน้นตลาดในอาเซียนอยู่แล้ว มีผู้โดยสารใช้บริการมาก โดยเฉพาะการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งเมื่ออาเซียนเติบโต การท่องเที่ยวระหว่างอาเซียนด้วยกันจะสูงมากตามการเชื่อมโยงของการท่องเที่ยวระหว่างเมืองใหญ่กับเมืองใหญ่จะยิ่งมากขึ้น แอร์เอเชียจึงต้องการใช้ไทยเป็นฐานที่ตั้งซึ่งมองว่าเป็นฮับการบินของอาเซียน และต้องการลงทุนในสนามบินภูมิภาคด้วย ซึ่งมีอยู่หลายแห่ง โดยมองว่าประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวมาก หากลงทุนในสนามบินจะสามารถเชื่อมโยงจากเมืองใหญ่ในอาเซียนมาประเทศไทย ขณะเดียวกันก็นำนักท่องเที่ยวในประเทศไทยไปเที่ยวอาเซียนได้ด้วย เช่นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งใกล้สมุย หากลงทุนในสนามบินแห่งนี้จะเชื่อมโยงในภูมิภาคได้”
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตข้างหน้าหากมีความเป็นไปได้ ทางแอร์เอเชียต้องการที่จะร่วมมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยไม่ได้มาแย่งลูกค้ากัน แต่มาทำธุรกิจที่เสริมซึ่งกัน และกันได้ ได้ประโยชน์ร่วมกันหรือวิน-วิน ซึ่งขึ้นอยู่กับการบินไทยว่าจะให้เข้าร่วมลงทุนในส่วนใดได้บ้าง และการลงทุนของแอร์เอเชียไม่เน้นว่าทางแอร์เอเชียต้องถือหุ้นใหญ่ สามารถให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเป็นหลักในการถือหุ้นใหญ่ สิ่งที่เน้นคือต้องการโฟกัสเรื่องการบินของอาเซียน สร้างความถี่ในการบิน และสร้างการเชื่อมโยงเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยว
“ในการพบกันครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีพอใจ เพราะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นในตัวเลขการขอรับส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอที่เพิ่มสูงขึ้นมา และไม่ใช่แค่แอร์เอเชีย หัวเหว่ยก็จะมาตั้งสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคที่ประเทศไทยด้วย และยังมีอีกมากที่กำลังทยอยเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เรื่องการเมืองไทยขอให้นิ่งไปอีกสัก 2-3 ปี การลงทุนจะมาอีกมาก เพราะตอนนี้ต้นทุนการทำธุรกิจในสิงคโปร์แพงมาก และเมื่อเทียบประเทศไทยกับอินโดนีเซียและมาเลเซีย แล้วยังต่างกันเรื่องโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ดังนั้น ขอแค่เราอย่าเหยียบเท้าตัวเองแค่นั้นเป็นพอ”
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มเซ็นทรัล ได้ร่วมกับกลุ่มเหงียน คิม เทรดดิ้ง จอยท์ สต็อค คอมพานี (Nguyen Kim Trading Joint Stock Company) ผู้นําตลาดค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศเวียดนาม ทุ่มงบกว่า 920 ล้านยูโร หรือประมาณ 36,800 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการบิ๊กซี ประเทศเวียดนามอย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อเสริมทัพความยิ่งใหญ่ของกลุ่มเซ็นทรัลในการลงทุนในประเทศแถบเอเชีย หลังเข้าร่วมลงทุนในบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของเวียดนาม เหงียน คิม เทรดดิ้ง จอยท์ สต็อค คอมพานี ในนามบริษัท เพาเวอร์ บาย เมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมี สัดส่วนถือหุ้นสามัญทั้งหมด 49% ของเหงียน คิม และผู้ถือหุ้นเดิมของเหงียน คิม จะถือหุ้นสามัญทั้งหมด 51% ซึ่งการร่วมมือทางธุรกิจกันครั้งนั้นเป็นหนึ่งในแผนการขยายตลาดไปยังต่างประเทศของกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งในภูมิภาคนี้เวียดนามถือเป็นตลาดหลักที่สำคัญ
“บิ๊กซี เวียดนามได้ดำเนินธุรกิจมากว่า 18 ปี มีจำนวน 43 สาขา เป็นไฮเปอร์มาร์เกต 33 สาขา, คอนวีเนี่ยนสโตร์ 10 สาขา และศูนย์การค้า 30 แห่ง มียอดขายในปี 2558 รวมกว่า 586 ล้านยูโรหรือประมาณ 23,440 ล้านบาท”
นายทศกล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัล เวียดนาม ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ เหงียน คิม ด้วยความสัมพันธภาพที่ดีจึงทำให้กลุ่มเซ็นทรัล เวียดนาม และเหงียน คิม ประสบผลสำเร็จร่วมกัน จนทำให้เกิดการขยายตัวทางธุรกิจ จนกระทั่งได้เข้าซื้อกิจการบิ๊กซี เวียดนามในที่สุด ขอยืนยันว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำว่ากลุ่มเซ็นทรัลมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มที่
“การเข้าซื้อกิจการบิ๊กซี เวียดนามในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเสริมทัพให้กลุ่มธุรกิจในแถบเอเชียแข็งแกร่งขึ้นแล้ว คาดว่าจะมียอดขายรวมทั้งกลุ่มเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ คือมากกว่า 337,040 ล้านบาท (รวมทุกกลุ่มธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ)”.
ขอบคุณข่าวจาก