- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ตร.สั่งสอบคุกคาม! นักข่าว จ่อแจ้งความ 'หมอเปรม' -สนช.ทบทวนรางวัล
ตร.สั่งสอบคุกคาม! นักข่าว จ่อแจ้งความ 'หมอเปรม' -สนช.ทบทวนรางวัล
ตร.สั่งสอบคุกคาม -สนช.ทบทวนรางวัลจิตอาสา กรณี "หมอเปรม" ละเมิดสิทธิ หลังให้ จนท.ล็อกห้องแถลงข่าว-จับนักข่าวแก้ผ้าถ่ายรูป ฉุนตีข่าวแต่งสาว ม.5 ด้าน
ความคืบหน้ากรณีมีการแชร์ภาพว่อนโซเชียลมีเดีย ที่ปรากฏภาพชายบุคคลหนึ่งใส่เสื้อผ้าไหมสีชมพู ใบหน้าคลับคล้าย นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต ส.ส.ขอนแก่น ปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นั่งคู่กับหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ด้านหน้ามีพานใส่ธนบัตรจำนวนหนึ่ง พระพุทธรูป และสำเนาการครอบครองรถยนต์เล่มสีน้ำเงินวางอยู่ 1 เล่ม และมีผู้เฒ่าคนแก่กำลังผูกข้อมือเหมือนพิธีมงคล โดยมีข้อความแสดงความยินดีคล้ายพิธีหมั้นหรือสมรส โดยมีค่าสินสอดเป็นเงินสด 4 แสนบาท พร้อมรถเก๋งโตโยต้า วีออส อีก 1 คัน ทั้งนี้ ชาวเน็ตต่างตั้งข้อสังเกตว่าเป็นพิธีแต่งงาน อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวทุกสำนักได้พยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงจาก นพ.เปรมศักดิ์ ตลอดทั้งวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 กรกฎาคม น.ส.จิติมา จันพรม ผู้สื่อข่าว นสพ.คม ชัด ลึก และสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี เดินทางไปที่สำนักงานเทศบาลเมืองอำเภอบ้านไผ่ พบ นพ.เปรมศักดิ์ในชุดเสื้อผ้าไหมสีชมพูกำลังเดินเข้าสำนักงาน จึงได้สอบถามข้อเท็จจริงกรณีภาพปริศนา นพ.เปรมศักดิ์ได้เชิญเข้าห้องร้องทุกข์ที่บริเวณชั้นล่างสำนักงาน พร้อมสอบถามว่า จะมีนักข่าวสำนักอื่นมาอีกหรือไม่ เมื่อแจ้งว่ายังมีตามมาอีกหลายสำนัก นพ.เปรมศักดิ์จึงให้รอมาพร้อมกันทั้งหมดก่อนตอบคำถาม
กระทั่งนักข่าวจากไทยทีวีสีช่อง 3 นสพ.ข่าวสด นสพ.เดลินิวส์ และสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเคเคซี เคเบิลทีวี เดินทางมาถึง รวมทั้งหมด 5 คน นพ.เปรมศักดิ์ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่ปิดล็อกห้องประชุม และขอให้เก็บอุปกรณ์สื่อสารและสิ่งของที่นำติดตัวมาทั้งกระดาษ ปากกา ทั้งหมด ให้เจ้าหน้าที่เก็บไว้ก่อนโดยวางไว้ที่โต๊ะด้านหลัง ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่เทศบาล 7 คน ซึ่งมีผู้หญิงด้วย 1 คน อยู่ภายในห้องด้วย
จากนั้น นพ.เปรมศักดิ์ได้ตำหนิต่อว่าสื่อมวลชนที่นำข่าวและภาพส่วนตัวไปนำเสนอโดยไม่ถามก่อน พร้อมซักถามถึงสื่อที่เปิดประเด็นเรื่องข่าวสู่ขอหญิงสาวชั้น ม.5 และระบุว่าไม่ได้หลบหน้าไปไหน นอกจากนั้นยังระบุว่าเป็นการทำข่าวประจานและถ้าเอาภาพนักข่าวไปประจานบ้างจะรู้สึกอย่างไร ข่าวที่ออกไปรู้สึกเจ็บปวดมากต้องนอนร้องไห้มาหลายวัน ด้านกลุ่มนักข่าวชี้แจงว่าไม่ได้นำภาพไปเผยแพร่แต่ในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพดังกล่าวไปทั่วอยู่แล้ว และสื่อมวลชนได้พยายามติดต่อเพื่อขอทราบข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถติดต่อได้จนวันนี้ได้เข้ามาพบ
อย่างไรก็ตาม นพ.เปรมศักดิ์ ยังได้พูดตำหนิว่าทำข่าวบิดเบือน พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างเป็นเรื่องส่วนตัว แค่ต้องการช่วยเหลือคนและทำหน้าที่ให้ดี ส่วนภาพที่เห็นก็เป็นเพียงการให้ความช่วยเหลือครอบครัวหญิงสาวที่เดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือเท่านั้น
ขณะเดียวกัน นพ.เปรมศักดิ์ได้เรียกผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ที่มีอายุ 64 ปี ซึ่งรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี ให้ยืนขึ้นตรวจค้น โดยบอกว่าขอค้นตัวว่าซ่อนอุปกรณ์สื่อสารมาหรือไม่ เมื่อนักข่าวแสดงเจตนาบริสุทธิ์ให้เจ้าหน้าที่ภายในห้อง 4 นายเข้าตรวจค้น แต่ นพ.เปรมศักดิ์กลับสั่งให้ถอดเข็มขัดและกางเกงออกจนเห็นกางเกงชั้นใน และสั่งให้เจ้าหน้าที่บันทึกภาพไว้ด้วย ระหว่างนั้นสื่อมวลชนทั้งหมดต่างตกใจ โดยเฉพาะ น.ส.จิติมา ที่เป็นนักข่าวหญิงในห้อง หลังจากนั้นได้ปล่อยตัวนักข่าวเดลินิวส์ให้ดึงกางเกงขึ้นสวมใส่ ก่อนที่ นพ.เปรมศักดิ์จะกล่าวขึ้นว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูกประจาน
ขณะที่ น.ส.จิติมาเห็นว่าไม่สามารถสัมภาษณ์เกี่ยวกับข้อเท็จจริงได้ และเห็นว่ามีการกระทำไม่เหมาะสมต่อสื่อมวลชน จึงขอโทรศัพท์มือถือ กล้อง และอุปกรณ์สื่อสาร เพื่อออกจากห้อง แต่ นพ.เปรมศักดิ์ยังคงต่อว่า น.ส.จิติมา จนเจ้าตัวทนไม่ไหวร้องไห้และขอออกนอกห้อง ซึ่งตอนแรก นพ.เปรมศักดิ์ไม่ยอม แต่เมื่อเห็นว่าร้องไห้และเป็นผู้หญิงจึงอนุญาตให้ออกจากห้องไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักข่าวที่เหลือยังถูกกักตัวอยู่ในห้อง ตั้งแต่เวลา 10.30-12.00 น. โดยให้เจ้าหน้าที่ล็อกห้องไว้ไม่ให้ออกไปไหน
จากการติดต่อสอบถามผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ที่ถูกกระทำไม่เหมาะสมในครั้งนี้ ยังอยู่ในอาการหวาดผวา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ได้ไปแจ้งความเอาเรื่อง อยากให้เรื่องจบกันไป หวั่นไม่ปลอดภัย และไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้อีก
@ผู้ว่าฯ-ตร.สั่ง ผบก.สอบสวนด่วน
ด้าน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีสื่อมวลชนไปรอสัมภาษณ์ นพ.เปรมศักดิ์ แต่มีการล็อกประตูห้องและจับนักข่าวแก้ผ้าพร้อมถ่ายรูปไว้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมายต้องให้ความมั่นใจและความเป็นธรรมอย่างที่สุด โดยเฉพาะสื่อมวลชนเพราะถือว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติในการเสนอแง่มุมต่างๆ ให้สาธารณชน ต้องได้รับการคุ้มครองเช่นเดียวกับประชาชนคนอื่นๆ ต้องดูแลอย่างดีที่สุด ตนแนะนำให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบ จะประสานไปยัง พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เพื่อให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
มีรายงานแจ้งว่า นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมสั่งให้นายอำเภอและผู้กำกับตรวจสอบ และรายงานข้อเท็จจริงตามลำดับชั้น
ขณะที่เว็บไซต์เดลินิวส์ เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ต.จิตรจรูญว่า เพิ่งทราบเรื่องขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อย่างไรก็ตามหากมีการกักขังนักข่าวจริง ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแน่นอน เนื่องจากเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยว ทั้งนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบสวนข้อเท็จจริงพร้อมกับรายงานความคืบหน้าเป็นระยะแล้ว
เว็บไซต์เดลินิวส์ ระบุด้วยว่า ในวันพุธที่ 27 กรกฎาคม นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดขอนแก่น ในฐานะผู้เสียหายจะเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านไผ่
@สมาคมสื่อขอนแก่นประณาม
พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ได้ประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการคุกคามและไม่ให้เกียรติสื่อ การที่สื่อไปพบครั้งนี้ เพราะต้องการไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็นับว่าเป็นผลดีต่อคนที่ตกเป็นข่าวที่จะได้ชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง ไม่ควรทำเช่นนี้ เนื่องจากหากไม่พอใจอะไรยังมีอีกหลายวิธีที่จะสามารถดำเนินการได้ ดังนั้นในนามของสมาคมถือว่าการกระทำของ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นบุคคลสาธารณะ มีความรู้ถึงระดับปริญญาเอก แต่กลับไม่ให้เกียรติสื่อ โดยสมาคมออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
@สนช.จ่อถอดรางวัล "หมอเปรม"
ขณะที่ นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพบปะและช่วยเหลือบุคคลด้อยโอกาสที่จะมอบรางวัล "คนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดิน" ในวันที่ 11 สิงหาคมนี้ มีนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสนช. เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ซึ่งกรณีที่มีรายชื่อ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นผู้ได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วยนั้น คงต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน หากพบว่ามีพฤติกรรมขัดหลักการไม่เหมาะสมจริงอาจจะต้องทบทวนการมอบรางวัล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.เปรมศักดิ์ มีรายชื่อได้รับรางวัล "คนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดิน" ในวันที่ 11 สิงหาคม ที่รัฐสภา ซึ่งเป็นรางวัลที่คณะอนุกรรมการพบปะและช่วยเหลือบุคคลด้อยโอกาสของคณะกรรมการดำเนินงานโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชนมอบให้ผู้มีจิตอาสาที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมในด้านต่างๆ จำนวน 7 คน โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานมอบรางวัล และนพ.เปรมศักดิ์เป็นหนึ่ง ในเจ็ดคนที่ได้รับรางวัลครั้งนี้ ในฐานะแพทย์ผู้ให้ความช่วยเหลือในด้านสาธารณสุขแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เนื่องจากได้จัดตั้งกองทุน "คนบ้านไผ่ไม่ทอดทิ้งกัน" เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน และจัดโครงการไอซียู หรือโครงการเยี่ยมบ้านยามบ่าย เพื่อดูแลประชาชน และตามคนไข้ด้วยตัวเองถึงขอบเตียง เป็นการให้กำลังใจผู้ป่วย
ขอขอบคุณข่าวจาก