- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- รัฐฯ เผยลุยปราบทัวร์ 0 เหรียญ ต้นขบวนการในไทย
รัฐฯ เผยลุยปราบทัวร์ 0 เหรียญ ต้นขบวนการในไทย
“โฆษกรัฐบาล” เผย ทางการลุยปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ พบต้นขบวนการในไทย กินรวบหลายกิจการ เตือนสติคนไทย คิดถึงประโยชน์ชาติ หยุดพฤติกรรมสมคบต่างชาติ ทำลายภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นับจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างจริงจัง นั้น ล่าสุดตำรวจท่องเที่ยวได้เข้าจับกุมเจ้าของบริษัท ฝูอัน จำกัด และบริษัท ซินหยวน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญที่ไม่ได้นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย มีแต่ยอดนักท่องเที่ยว และเงินรายได้ทั้งหมดจะถูกส่งกลับจีนผ่านนายหน้า โดยทั้ง 2 บริษัท มีความผิดฐานสวมบัตรประชาชนคนไทยเข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัททัวร์ และความผิดฐานอั้งยี่ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานหลักในการยึดทรัพย์ของ ปปง. และยังได้ขยายผลตรวจพบต้นทางขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ ชื่อบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทคนไทย มีรถทัวร์อยู่ในความครอบครองกว่า 3,000 คัน มีบริษัทจิวเวลรี่ บริษัทเครื่องหนัง บริษัทอาหาร ยาบำรุงสุขภาพ และร้านอาหาร ในเครือ โดยให้บริษัทคนจีนนำลูกทัวร์เข้าไปใช้บริการรถทัวร์ และร้านเหล่านี้ ซึ่งจะเก็บเงินจากลูกทัวร์ที่เข้าใช้บริการเพิ่มอีกประมาณ 35% ของเงินค่าแพคเกจทัวร์ที่เก็บไปแล้วเบื้องต้น ทำให้มีเงินสะพัดหลายพันล้าน และไม่มีการชำระภาษีอย่างถูกต้อง”
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า รัฐบาลยินดีสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวที่ถูกกฎหมาย จึงยอมไม่ได้กับพฤติกรรมที่สร้างความเสียหาย โดยอยากเตือนสติคนไทย ว่า ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง ไม่สมคบคิดกับต่างชาติ แสวงหาประโยชน์เข้าตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าจะร่ำรวยจากการประกอบธุรกิจ แต่รายได้ส่วนใหญ่กลับตกเป็นของต่างชาติ ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และขวัญกำลังใจของผู้ที่ประกอบธุรกิจด้วยความสุจริต ด้วย
“นายกฯ ได้รับทราบข้อมูลแล้ว และฝากชมเชยเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติการในครั้งนี้ รวมทั้งกำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งเดินหน้าปูพรมแก้ไขปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายบริษัทที่ลักลอบกระทำการในลักษณะนี้ และขอให้ผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว หยุดกระทำการโดยทันที และไม่หลงเชื่อคำชักชวนจากผู้ไม่หวังดี หรือหากพบการประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ ให้รีบแจ้งศูนย์ดำรงธรรม หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที โดยรัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ในทุกกรณี” พล.ต.สรรเสริญกล่าว
ทั้งนี้ จนท.ได้สนธิกำลังกัน เข้าจับกุมตัวกรรมการบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต 2 คน ในข้อหาอั้งยี่และกระทำการให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเข้าตรวจค้น บ.โอเอ ทรานสปอร์ต บ.บางกอกแฮนดิคราฟท์ บ.รอยัลพาราไดซ์ บ.รอยัลเจมส์อินเตอร์เนชั่นแนล บ.รอยัลไทยเฮิร์บ สามารถยึดของกลางได้หลายรายการ
เผย รัฐบาลเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก ช่วยเกษตรกร-ผู้มีรายได้น้อยแล้วกว่า 6 ล้านราย “นายกฯ” กำชับ กษ. เผยแพร่ความรู้ให้เกษตรกรใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรมช่วยเพิ่มรายได้ ก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 พร้อมแนะนำประชาชนน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการดำรงชีวิต
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างเศรษฐกิจระดับฐานรากด้วยการช่วยเหลือภาระค่าครองชีพและสนับสนุนการประกอบอาชีพของเกษตรกรรวมถึงผู้มีรายได้น้อย โดยสำนักงบประมาณได้ประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ ในการดำเนินงานด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2559 ถึงไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2559 คือตั้งแต่ 1 ต.ค. 2558 – 30 มิ.ย. 2559 พบว่ามีผลสัมฤทธิ์ในการทำงานร้อยละ 78.02 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 4.93
“ผลสัมฤทธิ์นั้นวัดจากความสำเร็จของหลายโครงการที่รัฐบาลดำเนินการ อาทิ มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการให้สินเชื่อกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยเบิกจ่ายสินเชื่อไปแล้วร้อยละ 98.76 มีประชาชนได้ประโยชน์กว่า 3 ล้านราย มาตรการเพิ่มรายได้แก่ผู้มีรายได้น้อย เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโดยให้เงินไร่ละ 1,000 บาท ก็ดำเนินการไปแล้วร้อยละ 99.88 ของเป้าหมาย มีเกษตรกรได้ประโยชน์กว่า 3.6 ล้านราย โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตกรเพื่อให้มีเงินคงเหลือในการดำรงชีพมากขึ้น ช่วยเหลือไปแล้วกว่า 6 แสนราย โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2558/59 ช่วยชะลอข้าวเปลือกเข้าสู่ตลาดได้กว่า 5 แสนตัน มีเกษตรกรได้ประโยชน์แล้วกว่า 7 หมื่นราย นอกจากนี้ รัฐบาลยังพัฒนาพื้นที่ชลประทาน 172,196 ไร่ ทำให้สามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้น 153 ล้านลบ.ม. พร้อมสร้างแหล่งน้ำให้กับพื้นที่เกษตรนอกเขตชลประทานอีก 19,073 บ่อ เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำในภาคการเกษตร”
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ช่วยเหลือประชาชนด้านความรู้ให้มากขึ้น พร้อมขยายการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยแก้ปัญหา และพัฒนางานทางด้านเกษตรกรรม เช่น การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์พืช การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูกให้เหมาะกับสภาพดินและสภาพภูมิอากาศของแต่ละท้องที่ การปลูกพืชโดยไม่ใช้สารเคมี การกำจัดศัตรูพืช ระบบจัดเก็บ ขนส่ง รวมถึงการแปรรูปผลผลิตให้ได้มาตรฐานสากลและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อยกระดับสินค้าจากท้องถิ่น ไปเป็นสินค้าระดับตำบล อำเภอ จังหวัด จนถึงส่งออกต่างประเทศได้ ก้าวสู่ความเป็นประเทศไทย 4.0
“นายกฯ แนะนำให้พี่น้องประชาชนน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต ซึ่งไม่ได้หมายความว่าพอเพียงคือไม่ต้องมีการพัฒนา แต่หมายความถึงการประกอบอาชีพโดยอาศัยความรู้ความสามารถบนพื้นฐานของทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อให้เลี้ยงชีพตนและครอบครัวได้อย่างสุขสบายพอตัวไม่ฟุ้งเฟ้อ และหากมีผลผลิตเหลือจากการดำรงชีพแล้วจึงนำออกขาย เป็นรายได้เพื่อเก็บออมและเป็นทุนในการสร้างผลผลิตต่อไป พร้อมทั้งยังต้องปรับตัวให้เข้ากับความเป็นไปของโลก เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหากทุกคนเข้าใจและใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต ปัญหาปากท้องและหนี้สินของพี่น้องประชาชนก็จะหมดไป” พล.ต.สรรเสริญกล่าว
ขอบคุณข่าวจาก