ลูกค้าคอนโดฯ “แดน ลิฟวิ่ง” ร้องปปง. คดียึดทรัพย์เครือข่าย “เสี่ยเปี๋ยง”

ผู้เสียหายซื้อคอนโดฯ “แดน ลิฟวิ่ง” ใจกลางกรุง ร้องทุกข์ ปปง. หลังเจ้าของโครงการถูกอายัดทรัพย์ฐานเอี่ยวฟอกเงิน “เสี่ยเปี๋ยง” คดีระบายข้าวจีทูจี ความเสียหายหลายร้อยล้านบาท

วันนี้ (27 ก.ย.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายเกษม ศรีวิริยกุล พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายกว่า 50 รายจากการซื้อคอนโดมิเนียมโครงการแดน ลิฟวิ่ง (Than Living) เดินทางร้องทุกข์ต่อ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการ ปปง. หลังจากซื้อคอนโดมิเนียมแล้วเจ้าของคอนโดมิเนียมถูกอายัดทรัพย์ทำให้ไม่สามารถก่อสร้างได้ตามกำหนด โดยมี ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม เป็นผู้รับเรื่อง

นายเกษมกล่าวว่า บริษัท สิราลัย จำกัด เจ้าของโครงการแดน ลิฟวิ่ง ได้เปิดจองห้องพักหลายโครงการ เช่น สาทร-เจริญราษฎร์, พระราม 9, รัชดา-ประชาอุทิศ ฯลฯ เริ่มเปิดจองเมื่อ พ.ย. 2556 จะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน ก.พ. 2560 แต่ยังไม่ได้ลงมือก่อสร้าง สำหรับราคาห้องของโครงการดังกล่าวแตกต่างกันตามขนาดความกว้างของห้อง และหากยิ่งอยู่ชั้นสูงขึ้นราคาก็แพงตามลำดับ โดยราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3 ล้านบาท จนถึง 15 ล้านบาท

“ต่อมาเมื่อ มิ.ย. 2557 น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร หุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท สิราลัย จำกัด ได้ขายหุ้นให้เจ้าของใหม่พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด กระทั่งเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2559 ที่ผ่านมา ปปง.มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์ของกลุ่มบริษัทและบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ “เสี่ยเปี๋ยง” หรือนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดังผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และจำเลยในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีโดยมิชอบ ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงัก ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียม แดน ลิฟวิ่ง อยู่ในความดูแลของ น.ส.ธันยพร บุตรสาวของนายอภิชาติเป็นหุ้นส่วนหลัก จึงถูก ปปง.ตรวจสอบจึงส่งผลกระทบต่อลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมดังกล่าว” นายเกษมกล่าว

นายเกษมกล่าวอีกว่า กรณีของตนได้จองโครงการที่สาทร-เจริญราษฎร์ 1 ห้องพัก และชำระเงินผ่อนดาวน์ เดือนละ 9,300 บาท รวม 33 งวด เป็นเงินกว่า 4 แสนบาท และเมื่อโครงการเสร็จจะต้องกู้เงินธนาคารเพื่อชำระเงินก้อนทั้งหมดให้แก่โครงการในส่วนที่เหลือ แต่เมื่อตนเดินทางไปดูโครงการดังกล่าวพบว่าขณะนี้สร้างได้เพียง 10 ชั้น จากทั้งหมด 36 ชั้น รวม 500 กว่าห้อง จากการสังเกตก่อสร้างค่อนข้างล่าช้า และเมื่อสอบถามไปยังโครงการได้รับคำตอบบอกจะเลื่อนเปิดไปเป็น ส.ค. 2560 ซึ่งบางคนจ่ายตามกำหนดจนกระทั่งจะครบสัญญาการเปิดโครงการแล้วแต่มาชะงักหยุดสร้างทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก รวมมูลค่าเป็นหลายร้อยล้านบาท

ด้าน ร.ต.อ.ไพรัตน์เปิดเผยว่า เบื้องต้นให้ผู้เสียหายเขียนคำร้องเพื่อขอความเป็นธรรมในการซื้อห้องพักของคอนโดมิเนียมดังกล่าวเพื่อนำทรัพย์สินกลับคืนมาให้เจ้าของตามกฎหมาย อีกทั้ง ปปง.ให้เจ้าของใหม่ บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ทำเอกสารชี้แจงว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท สิราลัย จำกัด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ในระยะเวลา 90 วัน จากนั้นจะตรวจสอบว่าเข้าข่ายหรือไม่ ก่อนดำเนินการพิจารณาขั้นต่อไป

ขอขอบคุณข่าวจาก