เปิดหลักฐานครบชุด มัด "ยิ่งลักษณ์-ครม."พ้นตำแหน่งทั้งคณะ คดีโยกย้ายตำแหน่ง"ถวิล เปลี่ยนศรี" ขณะที่ "ไพบูลย์"ชี้ต้องรับผิดชอบร่วมกันตามบทบัญญัติรธน.มาตรา 171

จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติขยายเวลาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมส่งคำชี้แจงคดีการโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.โดยมิชอบออกไป 15 วัน โดยให้มีการไต่สวนพยานบุคคลประกอบด้วย นายไพบูลย์ นิติตะวัน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรีทและนายถวิล เปลี่ยนศรี และให้พยานบุคคลดังกล่าวยื่นบันทึกถ้อยคำ ยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นเป็นหนังสือและเอกสารที่เกี่ยวข้องภายในวันที่ 29 เมษายน 2557
ล่าสุด นายไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงเอกสาร หลักฐานที่ยื่นเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ คณะรัฐมนตรี มีมติในการโยกย้ายนาย ถวิล เปลี่ยนศรี จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันและเป็นข้อเท็จจริงที่ทำให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 ที่บัญญัติไว้ว่า “คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน”
เปิดหลักฐานมัด-ยิ่งลักษณ์-ครม. กระทำผิดตามรัฐธรรมนูญ
นายไพบุลย์ กล่าวว่า ตอนนี้ สิ่งที่จะต้องทำคือยื่นหลักฐานรายงานการประชุม สรุปการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 6 กันยายน 2554 ที่แสดงให้เห็นว่า ครม. ในวันนั้นมีนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นประธานในที่ประชุม มีเรื่องการพิจารณาในเรื่องของการโอนข้าราชการ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการประจำ ข้าราชการระดับสูง และมีมติที่ประชุมวันนั้นระบุว่าอนุมัติตามที่สำนักนายกฯ เสนอ จากนั้นก็มีเอกสารในวันที่ 6 กันยายน ที่มีหนังสือแจ้งเรื่องการโอนข้าราชการ เหตุที่เพิ่มหลักฐานเหล่านี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นข้อเท็จจริง เป็นการกระทำผิดร่วมกันจริง"
ทั้งนี้ หลักฐานสำคัญที่นายไพบูลย์จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ มีดังต่อไปนี้
หลักฐานที่ 1. รายงานการประชุม ครม. กรณีโยกย้ายนายถวิล

เอกสารสรุปรายงานการประชุม มีใจความสำคัญ ระบุว่า
“วันที่ 6 กันยายน 2554 วันนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
จากนั้น นาง ฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นาย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี"
สำหรับการประชุมดังกล่าว มีทั้งสิ้น 22 หัวข้อ ได้แก่ การพิจารณาร่างกฎหมาย 8 หัวข้อ เศรษฐกิจ 7 หัวข้อ สังคม 3 หัวข้อ ต่างประเทศ 3 หัวข้อ และในประเด็นการแต่งตั้งข้าราชการ มีถึง 21 กรณี
โดยกรณีของนายถวิล อยู่ในลำดับที่ 21 ของประเด็นการประชุมในหัวข้อที่ 22. เรื่องการแต่งตั้ง ดังใจความ ระบุว่า
“22. เรื่องแต่งตั้ง
21. การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ( นักบริหารระดับสูง ) คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอรับโอน นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ้นจากตำแหน่ง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้กำหนดชื่อในสายงานตามตัวบุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้ง โดยยังคงตำแหน่งในสายงานเดิม และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์อื่นที่ได้รับอยู่เดิม ทั้งนี้ รัฐมนตรีเจ้าสังกัดของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนแล้ว”
หลักฐานที่ 2. มติคณะรัฐมนตรี
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 6 กันยายน มีมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบการโอนย้ายและแต่งตั้งนายถวิล มีใจความโดยละเอียด ดังนี้
สำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล กทม. 10300
เลขที่ นร 0508 / 18614
วันที่ 6 กันยายน 2554
เรื่อง การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ( นักบริหารระดับสูง )
เรียน เลขาธิการการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาหนังสือสำนักเลขาธินายกรัฐมนตรี ลับมาก ที่ นร 0401.2 / 8302 ลงวันที่ 5 กันยายน 2554
ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาอนุมัติรับโอนและแต่งตั้ง นายถวิล เปลี่ยนศรี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีข้าราชการประจำ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป รายละเอียดปรากฏตามสำเนาหนังสือที่ส่งมาด้วยนี้
คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 อนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ขอให้สำนักราชเลขาธิการนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งเดิมและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่ต่อไปแล้ว
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
ลงนามโดย นางสมศรี นาคจำรัสศรี ผู้อำนวยการสำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
หลักฐานที่ 3. นายกฯ ลงนาม
หลังครม.มีมติเห็นชอบ แต่งตั้ง โยกย้าย นายถวิล นางสาวยิ่งลักษณ์ ลงนามใน วันที่ 7 กันยายน ดังใจความโดยละเอียด ระบุว่า
คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ 152 / 2554
เรื่อง ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ ของทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 ( 4 ) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป้นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554
ลงนามโดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
หลักฐานที่ 4. ประกาศสำนักนายกฯ ปลดถวิลพ้นตำแหน่ง เลขา สมช.

จากนั้น สำนักนายกฯ ดำเนินการขอโปรดเกล้าฯ ให้นายถวิลพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช. นางสาวยิ่งลักษณ์ ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ใจความโดยละเอียด ดังนี้
ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี
เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี ข้าราชการพลเรือน สามัญ พ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ( นักบริหารระดับสูง ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2554
ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นายกรัฐมนตรี
นายไพบูลย์กล่าวทิ้งท้ายถึงหลักฐานสำคัญทั้ง 4 ฉบับนี้ว่าเป็นเอกสารที่เพิ่มเติมให้เห็นข้อเท็จจริงที่สมบูรณ์ขึ้นว่า
“เหล่านี้ แสดงข้อเท็จจริงว่าที่คุณยิ่งลักษณ์ได้กระทำไป เป็นการกระทำต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญหลักฐานเหล่านี้ชี้ให้เห็นการกระทำผิดตามหลักของ รัฐธรรมนูญมาตรา 171 ที่เขียนไว้ว่า “คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการ แผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน” ดังนั้น กรณีการแต่งตั้งและโยกย้ายคุณถวิลนี้คุณ ยิ่งลักษณ์และครม. กระทำการร่วมกัน และต้องรับผิดชอบร่วมกัน สอดคล้องกับคำร้องที่ให้คุณยิ่งลักษณ์ สิ้นสุด ความเป็นรัฐมนตรี และย่อมมีผล ทำให้ คณะรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ”
ทั้งหมดนี่คือหลักฐานสำคัญ ที่อยู่ในมือนายไพบูลย์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกระทำผิดร่วมกันของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรี ทั้งคณะ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการไต่สวนพยานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้