ผอ.โรงงานยาสูบ ยอมรับผูกขาดซื้อก้นกรองบุหรี่จาก บ. ฟิลไทย นับทศวรรษ อ้างได้เปรียบผลิตเส้นใยเอง ต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่ง แถมขั้นตอนถูกล็อกเงื่อนไขซื้อสินค้าภายในประเทศ ลั่นเตรียมหาทางแก้ไข ย้ำเงินเดือน ตัวเอง 3 แสนบาทถูกมาก ชี้คนใหม่ต้องได้ 5 แสนบาทขึ้นไป
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2543 จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2554 โรงงานยาสูบ (รยส.)กระทรวงการคลัง ได้ทำสัญญาจัดซื้อก้นกรองบุหรี่ประเภท เมนทอลสำเร็จรูป และ ก้นกรอง Cellulose Acetate จาก บริษัท ฟิลไทย จำกัด รายเดียวถึง 46 ครั้ง เป็นเงิน 5,468,777,210 บาท รวมระยะเวลานานถึง 12 ปี
นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ (รยส.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยยอมรับว่า โรงงานยาสูบ ได้ทำสัญญาซื้อกรองก้นกรองบุหรี่ประเภท เมนทอลสำเร็จรูป และ ก้นกรอง Cellulose Acetate จากบริษัท ฟิลไทย จำกัด เพียงรายเดียว ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ตามข้อมูลที่ถูกตรวจพบจริง และในขั้นตอนการดำเนินงานไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนรายนี้อย่างแน่นอน
เพียงแต่ขั้นตอนการจัดซื้อสินค้าเหล่านี้ มีข้อจำกัดบางประการ ที่ส่งผลทำให้ บริษัท ฟิลไทย จำกัด ได้รับงานไปทั้งหมดเพียงรายเดียว จากขั้นตอนการเสนอราคาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า อีอีออคชั่น
“การจัดซื้อก้นกรองบุหรี่ ในโรงงานยาสูบ ในช่วงที่ผ่านมา เราประกาศซื้อจากเอกชนหลายราย เพียงแต่ในขั้นตอนการจัดซื้อบริษัท ฟิลไทย จำกัด เสนอราคามาต่ำสุดทุกที ทำให้ได้รับงานไป ซึ่งบริษัทแห่งนี้ เป็นบริษัทใหญ่มาก ส่วนยอดการสั่งซื้อสินค้าในแต่ละปี ไม่สูงมาก ประมาณปีละประมาณ 800 ล้านบาทเท่านั้น ”
เมื่อถามย้ำว่า ในการจัดซื้อสินค้าแต่ละครั้ง ใช้วิธีการประมูล มีบริษัทมาเข้าร่วมหลายราย แต่บริษัท ฟิลไทย จำกัด ชนะทุกครั้ง นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า “ใช่ครับ ๆๆ”
ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่บริษัท ฟิลไทย จำกัด แห่งนี้ เสนอราคาถูกกว่าบริษัทอื่นมาก เป็นเพราะสินค้าที่สั่งซื้อไปผูกอยู่กับเส้นใย ที่อยู่ในกรองบุหรี่
“บริษัท ฟิลไทย แห่งนี้ เป็นบริษัทของประเทศอังกฤษ ชื่อ บริษัทฟิลโทน่า ฟิลเตอร์ โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เข้ามาตั้งบริษัทในไทย ใช้ชื่อว่า บริษัทฟิลไทย เข้ามาเปิดโรงงานผลิตอยู่ในบ้านเรา เป็นโรงงานใหญ่ และได้รับการสนับสนุนด้วย ซึ่งเขาใหญ่มากพอที่จะล็อคเส้นใยได้ เขาก็ชนะทุกที”
นายต่อศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้รับนโยบายว่า ต่อไปนี้จะต้องมีการแข่งขันมากกว่านี้ ตนจึงได้เชิญบริษัทผลิตเส้นใหญ่ เข้ามาพูดคุยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวน 2 ราย เพื่อจะให้บริษัทเหล่านี้ ผลิตเส้นใยเพื่อให้บริษัทที่ผลิตก้นกรองบริษัทมีมากขึ้น และสามารถเข้ามาแข่งขัน
“เรื่องนี้ผมจะเดินหน้าเต็มที่ เพราะเป็นนโยบายทั้งระดับกระทรวงและระดับกรรมการอำนวยการโรงงานยาสูบ สั่งการมา”
เมื่อถามว่า แสดงว่าทางโรงงานยาสูบ ก็ยอมรับว่า บริษัทฟิลไทย ผูกขาดการขายก้นกรองบุหรี่มาตลอด นายต่อศักดิ์ ตอบว่า “ใช่ครับ เพราะบังเอิญช่วงหลัง บริษัทแห่งนี้ เสนอราคาต่ำกว่าคนอื่นทุกทีเลย และบางครั้ง บริษัทรายอื่น ก็เข้าไม่ได้ เพราะจำนวนเส้นใยเข้ามีไม่พอที่จะเอามาทำก้นกรองขายให้เรา ก็เลยมีรายเดียวที่เข้ามาได้”
“แต่การซื้อสินค้าของเรา ไม่ได้หมายความว่า เขาเสนอมาเท่าไร เราก็ซื้อเท่านั้น เพราะเราต้องดูราคาต้นทุนในการผลิต ค่าใช้จ่ายของเขา เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับของเราด้วย เพราะโรงงานยาสูบ ก็ผลิตสินค้าเหล่านี้ได้จำนวนหนึ่ง เราสามารถเช็คกับราคาต้นทุนได้”
เมื่อถามว่า โรงงานยาสูบผลิตก้นกรองเองได้ นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า “เราสามารถผลิตเองได้แค่ 30% ส่วนที่เหลือต้องซื้อจากบริษัทเอกชน ซึ่งในขั้นตอนการซื้อเราก็จะนำราคาสินค้า ต้นทุนของเขา มาเปรียบเทียบกับของเรา ถือราคาที่เสนอมาสูงกว่าของเราเราก็ไม่เอา เพราะฉะนั้น ในขั้นตอนการซื้อขายของโรงงานยาสูบเราก็มีช่องทาง ที่ล็อคไว้สองถึงสามทางเหมือนกัน ”
เมื่อถามว่า การเสนอราคาขายก้นกรองของโรงงานยาสูบ ที่บริษัทฟิลไทย จำกัด ชนะไป มีบริษัทเอกชนกี่รายมาเข้าร่วม นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า จะมีประมาณ 6 ราย ที่จดชื่อเอาไว้ แต่ตอนนี้ผมเปิดเงื่อนไขให้กว้างขึ้น ใครจะได้สามารถมาเข้าร่วม บริษัทจากต่างประเทศ จะเข้ามาร่วมโดยตรงก็เอา ตอนนี้จะมีเยอะเลย
“ในช่วงปี 2540 เรามีการกำหนดให้ซื้อสินค้าในประเทศ เพราะฉะนั้นโรงงานที่ผลิตสินค้าพวกนี้ ก็เลยต้องเข้ามาตั้งในเมืองไทย เมื่อไปล็อคว่าจะต้องมีโรงงาน มันก็เลยเหลือแค่เจ้าสองเจ้า ในเมืองไทย แต่ในช่วงหลังกลายเป็นว่ามันเหลือเพียงเจ้าเดียวที่มี แต่ในช่วงที่ผมเข้ามารับตำแหน่ง ผมก็เลยสั่งให้เปิดกว้างเลย ให้เจ้าต่างประเทศ มาเข้าร่วมได้ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้ เริ่มจะมีบริษัทจาก ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เข้ามา ทำให้มั่นใจว่า การประมูลจากนี้ไป จะต้องมีบริษัทเอกชนเกินกว่า 2-3 รายมาเข้าร่วมแน่นอน ”
เมื่อถามว่า แต่บริษัทฟิลไทย มีทุนจดทะเบียนแค่ 2 ล้านบาท นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า “ผมไม่แน่ใจ แต่ตัวโรงงานเขาใหญ่มาก เขาเพิ่งเปิดโรงงานเมื่อปีที่แล้ว เป็นโรงงานขยายใหญ่ในเขาเปิดเป็นเรื่องเป็นราวเลย ใหญ่ในเอเชีย เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ด้านก้นกรอง จากสี่เจ้าใหญ่ คือ อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป”
เมื่อถามว่า ในขั้นตอนการประมูลราคา ยืนยันว่ามีความโปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า งานทุกอย่างมีความโปร่งใส ไม่มีการเอื้อประโยชน์ ใครอย่างแน่นอน เรื่องนี้ผมสู้เต็มที่ หลังจากประมูลเสร็จ ก็มีการเปรียบเทียบราคา ถ้าสูงกว่าของเรา ต่อรองราคาไม่ได้ก็ไม่เอา และในการประมูลที่ผ่านมา ก็มีบางรายการ ที่บริษัท ฟิลไทย ไม่ได้งานด้วย
นายต่อศักดิ์ ยังกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าโรงงานยาสูบแห่งใหม่ ที่กำลังอยู่ระหว่างการจ้างบริษัทเอกชน มาศึกษา รายละเอียดอยู่ ต่อไป โรงงานยาสูบก็สามารถที่จะผลิตก้นกรองเองได้100% ไม่ต้องไปซื้อจากเอกชนเหมือนเดิมอีกแล้ว
“ทุกวันนี้ เรายังจำเป็นต้องซื้อสินค้าจากเอกชนอยู่ เพราะกำลังการผลิตไม่พอ แต่ถ้าโรงงานยาสูบแห่งใหม่ สร้างเสร็จแล้ว ต่อไปเราก็ไม่จำเป็นต้องไปจัดซื้อจากเอกชนอีกแล้ว ส่วนโรงงานยาสูบ แห่งใหม่ ที่จะลงทุน มองไว้หลายที่ อาทิ เชียงใหม่ ที่ใกล้แห่งวัตถุดิบ วัตถุประสงค์เพื่อบริหารความเสี่ยงจากโรงงานในโรจนะ หลังเกิดปัญหาน้ำท่วม คาดว่าจะใช้งบประมาณมากกว่าโรงงานเดิม อีก 4,000 ล้านบาท เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมครม. พิจารณาต่อไป ”
ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ ยังกล่าวชี้แจงถึงอัตราค่าตอบแทนในการทำงานของตน 4 ปี เดือนละ 310,000 บาท รวมค่าจ้าง 14,880,000 บาท ว่า ค่าตอบแทนที่ตนได้รับ ถูกมาก ตอนแรกคิดว่าจะไม่เอาด้วยซ้ำ
“ให้ผมมาบริหารงานหน่วยงานที่มีเงินประมาณ7 หมื่นล้าน แต่ให้เงินเดือนผม 3 แสนบาท มันถูกมาก ผมทำงานที่ทำงานเก่าได้เดือนละ 7 แสนบาท ผอ.คนเก่า ได้เงินเกือบ 5 แสนบาท ซึ่งหลังจากที่ผมครบวาระไปแล้ว ถ้ายังคงไว้แบบนี้ คงไม่มีใครมาแน่นอน ควรจะต้องปรับเพิ่ม ซึ่งคนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งต่อ คิดว่าควรจะได้เดือนละ 5 แสนบาทขึ้นไป ”
ส่วนเหตุผลที่เข้ามาทำงานนี้ นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า “ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน ผมสมัครเข้ามาเอง อยากทำให้ให้ภาครัฐ ลองดูว่าจะทำงานได้ไหม ไม่มีชักชักชวนมา ไม่มีเส้นสายการเมืองเลย ไม่รู้จักใคร ผมมาด้วยตัวของผมเอง ”