- Home
- Isranews
- ตะกร้าข่าว
- สมาคมครอบครัวรุกขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ครอบครัวอบอุ่น เข้มแข็ง”
สมาคมครอบครัวรุกขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ครอบครัวอบอุ่น เข้มแข็ง”
เมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมครอบครัวศึกษาแห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีแลกเปลี่ยนแนวทางการขับเคลื่อนงานครอบครัวในจังหวัดต้นแบบ ภายใต้โครงการพัฒนานวัตกรรมเพื่อพัฒนาระบบกลไกการขับเคลื่อนงานครอบครัว ซึ่งมี 5 จังหวัดต้นแบบ คือ พะเยา เชียงใหม่ สุรินทร์ อุบลราชธานี และเลย โดยใช้แผนยุทธศาสตร์งานครอบครัวของแต่ละพื้นที่ในการขับเคลื่อน และมีกลไกสร้างการเรียนรู้ครอบครัวศึกษา โดยมีนักพัฒนาครอบครัวระดับจังหวัดเป็นตัวช่วยหนุนเสริมให้งานครอบครัวเข้มแข็ง ไม่เป็นปัญหาสังคม ณ โรงแรมแจ๊สโซเทล กรุงเทพฯ
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร เลขาธิการสมาคมครอบครัวศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการทำงานเรื่องครอบครัวแม้ว่าจะผ่านไป 10-20 ปีก็ต้องขับเคลื่อนต่อไป วันนี้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของทั้ง 5 จังหวัด ซึ่งมีเส้นทางดำเนินการแผนครอบครัวระดับจังหวัด แต่ขอให้แผนยุทธศาสตร์กับการปฏิบัติจริงดำเนินควบคู่กันไปให้สมดุล โดยการทำงานต้องนำมาทบทวนปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน ดังนั้น ฐานข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นเครื่องมือช่วยสร้างองค์ความรู้ให้ครอบครัวอบอุ่น เข้มแข็ง อยู่ดีมีสุข มีสุขภาวะที่ดี
เลขาธิการสมาคมครอบครัวฯ ยกตัวอย่างพื้นที่ จ.สุรินทร์ ใช้ประโยคทองเป็นพลังขับเคลื่อน “พูดถึงคนสุรินทร์ต้องนึกถึงสุรา” ซึ่งทำให้คนทั่วไปมองว่าคนใน จ.สุรินทร์เป็นภาพลบชอบดื่มเหล้า ดังนั้น ทุกคนจึงให้ความร่วมมือลบภาพที่ไม่ดีออกไปจากจังหวัด ปัจจุบันก็ประสบความสำเร็จคนดื่มสุราน้อยลง ปัญหาครอบครัวก็ลดลงตามไปด้วย เพราะสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหามากมายในครอบครัว เช่น การทะเลาะ ตบตี เป็นหนี้ เล่นพนัน ตัวการก็คือผู้นำครอบครัวเป็นนักดื่ม ดังนั้น การมีข้อมูล เครื่องมือที่ดีมาเป็นตัวช่วยนำไปปฏิบัติและมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ก็จะเกิดตัวขับเคลื่อนงานครอบครัวที่หลากหลาย ทำงานสร้างครัวอบอุ่นประสบความสำเร็จได้ตามแผนยุทธศาสตร์
“ยุทธศาสตร์ที่เห็นตรงกันคือความเชื่อมั่นในศักยภาพของครอบครัว ซึ่งมั่นใจว่าพื้นที่ใดให้ความสำคัญกับครอบครัวจะสามารถผ่านปัญหาและจัดการได้ อย่างไรก็ตามการดำเนินงานขับเคลื่อนเรื่องครอบครัวหากไม่มีผู้ปฏิบัติก็ไม่สามารถขับเคลื่อนไปถึงเป้าหมายได้ ฉะนั้นเรื่องการพัฒนาคนเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งคณะทำงานขับเคลื่อนเรื่องครอบครัว และคนปฏิบัติการทั้งหมด จึงต้องการโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา สร้างพื้นที่การเรียนรู้ สร้างต้นแบบ ดังนั้น สิ่งที่พูดมาทั้งหมดนี้ จะต้องมีแกนร่วมในการทำแผนยุทธศาสตร์ครอบครัวเพื่อใช้เป็นแกนกลางในการทำงานร่วมกัน” พญ.พรรณพิมล กล่าว
ด้านนายสวัสดิ์ ชูสุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) พะเยา กล่าวว่า สังคมจะอ่อนแอหรือเข้มแข็งอยู่ที่สถาบันครอบครัว ฉะนั้น ปัญหาทั้งหมดของสังคมที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้สถาบันครอบครัว ถ้าในสถาบันครอบครัวยังมีปัญหาอยู่ ปัญหาสังคมที่หวังจะแก้ในบริบทองค์รวมก็เป็นไปได้ยาก ดังนั้น พมจ.มองปัญหาครอบครัวเรื่องคนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องได้รับการเสริมสร้าง ปรุงแต่ง ต่อเติม ด้วยการให้องค์ความรู้หรือจะทำอย่างไรให้คนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา เ
"คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นหน้าที่ของกระทรวง พม. ซึ่งในความเป็นจริงคนที่สำคัญที่สุดที่จะขับเคลื่อนให้สำเร็จคือคนที่เป็นองค์ประกอบของครอบครัว ที่ต้องร่วมมือในการพัฒนาสถาบันครอบครัวที่ถือว่าเล็กที่สุดให้อยู่ดีมีสุขปราศจากปัญหา อุปสรรค อยู่ด้วยความพร้อมในสังคม แม้ว่าปัญหาสังคมจะเปลี่ยนไปอย่างไรบริบทของสถาบันครอบครัวจะต้องได้รับภูมิคุ้มกัน ก้าวให้ทันภายใต้พื้นฐานการพัฒนาคนในครอบครัว มีความเข้าอกเข้าใจในการอยู่ร่วมกัน เพราะสังคมทุกวันนี้เป็นสังคมที่มีการแข่งขัน ทำให้คนในครอบครัวให้เวลากันน้อยลง"
นายสวัสดิ์ กล่าวด้วยว่า การให้ความสำคัญกับการทำงานเรื่องครอบครัว เพราะครอบครัวคือศูนย์รวม ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นปัจจุบันหากมองย้อนไปก็รู้ว่าเกิดจากครอบครัว ฉะนั้น ต้องมีการทำงานอย่างจริงจัง ทำเพียงแค่หน่วยเดียวจะไม่สำเร็จ ต้องมีการบูรณาการขับเคลื่อนร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กร มูลนิธิต่างๆ สร้างภาคีเครือข่ายโดยใช้ฐานตำบลเป็นตัวกำหนดใช้ท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง จะทำให้การทำงานครอบครัวในสังคมไทยขับเคลื่อนเป็นสังคมที่อยู่ดีมีสุขได้