- Home
- Isranews
- ตะกร้าข่าว
- หน.คสช.ใช้ ม.44 แก้ปัญหา โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
หน.คสช.ใช้ ม.44 แก้ปัญหา โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
ราชกิจจานุเบกษา 21 ก.ค.59 เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 42/2559 เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) ช่วงหัวลำโพง - บางซื่อ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง - บางแคและช่วงบางซื่อ - ท่าพระ ในปัจจุบันยังมีปัญหาในการเชื่อมต่อและร่วมใช้ระบบรถไฟฟ้า การพิจารณา คัดเลือกเอกชน และการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน เพื่อให้มีการเดินรถแบบต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน (Through Operation) โดยให้ดำเนินการเจรจาและแก้ไขสัญญาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวัน ดังนี้
คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ 42/2559
เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
โดยที่การจัดระบบการขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน แต่เนื่องจากการจัดระบบการขนส่งสาธารณะโดยรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(สายเฉลิมรัชมงคล) ช่วงหัวลำโพง - บางซื่อ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง - บางแค
และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ ในปัจจุบันยังมีปัญหาในการเชื่อมต่อและร่วมใช้ระบบรถไฟฟ้า การพิจารณาคัดเลือกเอกชน และการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน เพื่อให้มีการเดินรถแบบต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน(Through Operation) และแม้คณะรัฐมนตรีจะได้มีมติเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เร่งรัดให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อและร่วมใช้ระบบรถไฟฟ้าเพื่อให้การเดินรถแล้วเสร็จโดยเร็วแต่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่สามารถดำเนินการร่วมกันให้เป็นผลสำเร็จได้ ซึ่งจะทำให้การเริ่มเปิดให้บริการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ
มีความล่าช้าออกไปมาก ส่งผลให้ประชาชนผู้ใช้บริการไม่ได้รับความสะดวก รวมทั้งอาจมีผลกระทบไปถึงระบบความปลอดภัยในการใช้บริการ นอกเหนือไปจากนั้นรัฐยังต้องสูญเสียรายได้และมีภาระค่าใช้จ่ายตลอดจนมีความสูญเสียทางเศรษฐกิจอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิผลและรวดเร็ว อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้บริการและเป็นการรักษาผลประโยชน์ของรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการจัดระบบการขนส่งสาธารณะของประเทศ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช 2557หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในคำสั่งนี้“คณะกรรมการคัดเลือก” หมายความว่า คณะกรรมการคัดเลือกโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ ตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่ดำเนินการอยู่ในวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ
“คณะกรรมการกำกับดูแล” หมายความว่า คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(สายเฉลิมรัชมงคล) ช่วงหัวลำโพง - บางซื่อ ตามมาตรา ๔๓ แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ที่ดำเนินการอยู่ในวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ
“โครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล” หมายความว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(สายเฉลิมรัชมงคล) ช่วงหัวลำโพง - บางซื่อ
“โครงการส่วนต่อขยาย” หมายความว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ
ข้อ 2 ภายใต้บังคับข้อ 4 ให้คณะกรรมการคัดเลือกยุติการดำเนินการใด ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 และให้ดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตามที่กำหนดในคำสั่งนี้
ข้อ 3 ให้คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยกำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งปันผลประโยชน์จากค่าโดยสาร รวมถึงหลักเกณฑ์อื่นเพื่อประโยชน์ในการเชื่อมต่อหรือร่วมใช้กิจการรถไฟฟ้าตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2543 เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาของคณะกรรมการตามข้อ 4 และข้อ 7 สำหรับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลและโครงการส่วนต่อขยาย โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องคำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้บริการของประชาชน ทั้งนี้ ให้รับฟังความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริตตามข้อ 9ประกอบด้วย โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และให้เสนอหลักเกณฑ์พร้อมทั้งความเห็นของหน่วยงานดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหลักเกณฑ์ตามวรรคหนึ่ง
ข้อ 4 เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินให้สามารถเดินรถแบบต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน (Through Operation) และการกำหนดระยะเวลาการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินให้มีระยะเวลาการดำเนินการโครงการสิ้นสุดลงพร้อมกันหรือสอดคล้องกันให้คณะกรรมการคัดเลือกและคณะกรรมการกำกับดูแลประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ในส่วนของงานระบบรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลและโครงการส่วนต่อขยาย โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์ตามข้อ 3
เมื่อคณะกรรมการตามวรรคหนึ่งดำเนินการจนได้ข้อยุติแล้ว ให้เจรจาร่วมกันกับผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลให้ดำเนินการโครงการส่วนต่อขยาย และดำเนินการให้มีการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลกับผู้รับสัมปทานดังกล่าว เพื่อให้สามารถเดินรถแบบต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน (Through Operation) โดยให้ดำเนินการเจรจาและแก้ไขสัญญาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ครบกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง
ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้บริการ และการแบ่งปันผลประโยชน์ต่อภาครัฐอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม และรับฟังความเห็นของคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริตตามข้อ 9 ด้วย
ข้อ 5 ในกรณีที่ไม่อาจดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาตามข้อ 3 หรือข้อ 4ให้กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินการ รวมทั้งสาเหตุของการดำเนินการไม่แล้วเสร็จไปยังนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีอาจพิจารณาขยายระยะเวลาออกไปได้อีกตามที่เห็นสมควรก็ได้
ข้อ 6 ในกรณีที่คณะกรรมการคัดเลือกและคณะกรรมการกำกับดูแลไม่อาจดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาตามข้อ 4 และนายกรัฐมนตรีไม่อนุมัติให้มีการขยายระยะเวลาออกไปตามข้อ 5 หรือในกรณีที่คณะกรรมการคัดเลือกและคณะกรรมการกำกับดูแลไม่สามารถหาข้อยุติได้ตามข้อ 4 ให้ยุติการดำเนินการดังกล่าวและให้กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินการไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
ข้อ 7 ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีพิจารณารายงานตามข้อ 6 แล้วมีมติเห็นควรให้ดำเนินโครงการต่อไป ให้มีคณะกรรมการพิจารณาการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ขึ้นคณะหนึ่งประกอบด้วย ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อัยการสูงสุด และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เป็นกรรมการและผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่แทนคณะกรรมการตามข้อ 4 โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติและให้รับฟังความเห็นของคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริตตามข้อ 9 ประกอบการพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ หากยังดำเนินการไม่ได้ข้อยุติภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้เสนอแนวทางอื่นในการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
ข้อ 8 เมื่อมีการดำเนินการตามข้อ 4 หรือข้อ 7 แล้วแต่กรณี จนได้ผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนแล้ว ให้ถือว่าเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ในส่วนของการคัดเลือกเอกชนแล้ว และให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปตั้งแต่มาตรา 40 หรือมาตรา 47 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 แล้วแต่กรณี โดยให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการเจรจากับเอกชนหรือผู้รับสัมปทานให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับร่างสัญญาดังกล่าว
ข้อ 9 ให้นำหลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางในการใช้ระบบข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact)ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 มาใช้กับการดำเนินการตามข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 7 ตามคำสั่งนี้
ข้อ 10 ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งหรือมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนี้ ที่ได้กระทำการไปตามอำนาจหน้าที่โดยสุจริต และไม่เกินสมควรแก่เหตุ ย่อมได้รับความคุ้มครองและไม่ต้องรับผิดทางแพ่งทางอาญา หรือทางวินัย แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางราชการตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
ข้อ 11 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 17 กรกฎาคม พุทธศักราช 2559
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/160/83.PDF