แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงศาลยุติธรรมป่วนหนัก ผู้พิพากษาฎีกาแจ้งความดำเนินคดี “บิ๊ก “ กล่าวหาผิดมาตรา 157 จัดทำบัญชีโยกย้าย ไม่เป็นไปตามลำดับอาวุโส ทำให้หลุดโผ อีกรายถูกร้องโดนสอบสวนทางวินัยเมื่อกว่า 20 ปีก่อนกรณีประกันจำเลยคดียาเสพติด ชง ก.ต.ชี้ขาด 11 สิงหาคมนี้
.......................................................
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานจากสำนักงานศาลยุติธรรมว่า ในการจัดทำบัญชีโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตุลาการระดับสูง ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 (บัญชี 3) จำนวน 161 ราย และจะนำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) ในวันที่ 11 สิงหาคม 2563 กำลังเกิดปัญหาขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ทีผ่านมา มีผู้พิพากษาศาลฎีการายหนึ่งได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรมรายหนี่งต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม กล่าวหาว่า กระทำผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เนื่องจากส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายผู้พิพากษาที่แสดงความประสงค์ดำรงตำแหน่งผู้บริหารศาลจำนวน 75 คนซึ่งมีผู้แจ้งความรวมอยู่ด้วยเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(อนุ ก.ต) เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม โดยมีจุดประสงค์ให้ อนุ ก.ต พิจารณาว่า บุคคลใดเหมาะสมให้ตำรงตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลชั้นต้นหรือไม่ อันเป็นการกระทำโดยพลการโดยมีได้ผ่านความเห็นชอบของ ก.ต.เสียก่อน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดต่อกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลข้าราชการตุลาการ
ผลการพิจารณาของอนุ ก.ต.มีความเห็นว่า ผู้แจ้งไม่มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลชั้นต้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม มีการนำเสนอผลการพิจารณาดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ ก.ต แต่ถูกที่ประชุม ก.ต.ทักท้วงว่า การนำเสนอรายชื่อผู้พิพากษาเข้าสู่การพิจารณาของอนุ ก.ต เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563ไม่อาจทำได้เพราะเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายและให้นำรายชื่อผู้พิพากษาดังกล่าวทั้ง 75 คนกลับไปทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายให้ไปเป็นตามกฎหมาย
ต่อมาสำนักนศาลยุติธรรมได้จัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายผู้พิพากษาฉบับใหม่ แต่ก็ไม่เป็นไปตามลำดับอาวุโส การกระทำดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหรือละวนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ทำให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย
อนึ่ง การกระทำความผิดดังกล่าวข้างต้นอาจมีผู้ร่วมกระทำการหลายคนผู้แจ้งขอสงวนสิทธิ์ที่ดำเนินคดีเอาผิดกับบุคคลอื่นต่อไป
นอกจากกรณีดังกล่าวแล้ว ยังมีการร้องเรียนต่อ ก.ต.ว่า ผู้พิพากษาที่ปรากฏว่า ในบัญชีรายชื่อรายหนึ่งซึ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้บริหารศาลชั้นต้นไม่มีความเหมาะสม เนื่องจากเคยถูกสอบสวนทางวินัยเกี่ยวกับให้ประกันตัวจำเลยในคดียาเสพติดรายใหญ่ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน จนรองอธิบดีศาลอาญาในสมัยนั้นถูกไล่ออกจากราชการ
แต่คณะกรรมการสอบสวนซึ่งระบุว่า ผู้พิพากษารายนี้ซึ่งแนวโน้มในทางร่วมรู้เห็นในการประกันตัว มีความเห็นว่า ให้ลงโทษภาคทัณฑ์ ขณะที่อธิบดีศาลอุทธรณ์ภาค 1 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาเห็นว่า ผู้พิพากษารายนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้ประกันตัวเช่นเดียวกับปลัดกระทรวงยุติธรรมในสมัยนั้น เพียงแต่คบค้าสมาคมกับบุคคลบางคนที่มีพฤติกรรมการเล่นการพนันและเป็นผู้วิ่งเต้นให้มีการประกันตัว จงสมควรลงโทษภาคทัณฑ์ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเห็นพ้องด้วย
อย่างไรก็ตาม ก.ต.เห็นว่า ในทางสอบสวนไม่ปรากฏว่า ผู้พิพากษารายนี้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการประกันตัวจำเลยคนดังกล่าว จึงเห็นว่าไม่ได้กระทำผิดวินัย แต่ ก.ต.มีข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับการวางตน จึงให้พิจารณาวางตนให้เหมาะสมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงาน มีการนำข้อร้องเรียนดังกล่าวเข้าพิจารณาในอนุ ก.ต.ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นว่า การสอบสวนดังกล่าวยุติแล้ว และเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว จึงให้นำเสนอต่อ ก.ต.พิจารณาต่อไป
อ่านข่าวอื่นประกอบ
ก.ต.แพร่บัญชีโยกย้ายแต่งตั้ง 161 ขรก.ตุลาการ วาระ 1 ต.ค.63
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage