ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะสภาความมั่นคง ก่อนที่ประชุมลงมติ ตัดไฟฟ้า-สัญญาณอินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดชายแดนไทย-เมียนมา 5 ก.พ. 9 โมงเช้าเป็นต้นไป ยกเหตุผล กระทบต่อความมั่นคงของไทย-นานาชาติ เปิดข้อมูลประชาชนได้รับความเสียหาย 5.557 แสนคดี มูลค่าความเสียหาย 8.6 หมื่นล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org.) รายงานว่า วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อหารือการระงับการจ่ายไฟฟ้าไปยังชายแดนไทยและเมียนมาในแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า ที่ประชุมสภาความมั่นคงฯ มีมติให้ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.68 เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป โดยภายในคืนวันนี้ (4 ก.พ.68) ตนจะเซ็นคำสั่ง และกระทรวงการการต่างประเทศจะแจ้งไปยังรัฐบาลเมียนมา รวมถึงสถานพยาบาลให้ได้รับทราบ
อ่านประกอบ :
- แพทองธาร ไม่ลังเล สั่งตัดไฟ-งดส่งน้ำมัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ วันนี้
- สมช.เตรียมส่งข้อมูลแหล่งขายไฟในเมียนมาที่มีอาชญากรรมให้ 'มหาดไทย' สัปดาห์หน้า
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ภายหลังสภาความมั่นคงฯ ได้รวบรวมข้อมูลจากทุกฝ่ายแล้ว เช่น หน่วยงานข่าว เห็นว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงภายในประเทศและประชาชนไทย และต่อโลก ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มีประชาชนจำนวน 557,500 กว่าคดี รวมมูลค่าความเสียหาย 86,000 ล้านบาท คิดเป็นวันละ 80 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า เชื่อว่าเมียนมาจะเข้าใจใช่หรือไม่ จะไม่มีการตอบโต้และบานปลายจนเมียนมาไม่ส่งแก๊สให้ไทย นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้เคยหารือกัน และเมียนมาเข้าใจในเรื่องที่ไทยต้องดำเนินการ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของไทยอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาของนานาชาติ
เมื่อถามว่า ประเมินว่า เมียนมาจะไม่ตัดแก๊สเราใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า “เขาต้องใช้ดุลพินิจ”
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทพลังงานของไทย เช่น บริษัท ปตท. รับซื้อแก๊สจากแหล่งยาดานา บริเวณอ่าวเมาะตะมะ ประเทศเมียนมา
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จำนวน 5 จุด ดังนี้
1.บ้านเจดีย์สามองค์ - เมืองพญาตองซู รัฐมอญ บริษัท Mya Pan Investment and Manufacturing Company Limited ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
2.บ้านเหมืองแดง - เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
3.สะพานมิตรภาพไทย – พม่า - เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
4.สะพานมิตรภาพไทย – พม่า แห่งที่ 2 อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง บริษัท Nyi Naung Oo Company Limited และ Enova Grid Enterprise (Myanmar) Company Limited ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
5.บ้านห้วยม่วง - อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง มีบริษัท Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited (SMTY) ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ยื่นดาบ กฟภ. ตัดไฟ สมช.- ก.มหาดไทย ลงมติ กระทบความมั่นคง-ภัยคุกคามของประเทศ
- ทักษิณ ชี้ ยกเลิกสัญญาบ.เมียนมาร์ รับซื้อไฟ กฟภ. เกี่ยวพันคอลเซ็นเตอร์ ทำได้
- กฟภ.แจงขายไฟฟ้าให้เมียนมาตามมติ ครม. ยันพร้อมระงับหากกระทบความมั่นคง
- เปิดมติครม.ยุคเศรษฐา สั่งตัดน้ำ-ไฟ แก้ปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ ไม่คืบหน้า
- บอร์ด กฟภ. นัด 29 มกราคม ชง ครม. ยกเลิกมติ ขายไฟให้ประเทศเมียนมาร์
- การขายไฟฟ้าให้อาชญากรข้ามชาติเป็นเรื่องน่าละอาย
- เปิดหนังสือ กฟภ. 30 ฉบับ แจ้ง ‘หน่วยงานความมั่นคง’ ขอมติตัดไฟ สแกมเมอร์เมียนมา