"บิ๊กป้อม" นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินชายแดนใต้ เผยภาพรวมดีขึ้น แนวโน้มเหตุรุนแรงลดลง แต่การข่าวยังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จำเป็นต้องขยายเวลาบังใช้ "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" ต่ออีก 3 เดือน ในพื้นที่ 27 อำเภอ ยกเว้น 6 อำเภอ เผยเป็นการต่ออายุขยายเวลารอบที่ 63
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.64 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 1/2564 ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุมได้รับทราบผลการปฏิบัติงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ระหว่างวันที่ 20 ธ.ค.63 ถึง 20 ก.พ.64 ซึ่งในภาพรวมมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น เหตุการณ์การก่อเหตุรุนแรงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ประชาชนในพื้นที่ได้รับการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมทั้งมีความเข้าใจถึงความจำเป็นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยได้ให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตลอดช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ด้านการข่าว พบว่า ผู้ก่อเหตุความรุนแรงยังมีสิ่งบอกเหตุที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงรูปแบบอื่นๆ ในพื้นที่ จึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องคงการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบเรื่องที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ดำเนินการจัดทำแผนการปรับลดพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการส่งเสริมให้มีการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินฯ จึงได้พิจารณาเห็นชอบตามที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน.เสนอขอขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป ยกเว้น อ.แม่ลาน, อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี, อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก, อ.สุคิริน, อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ออกไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน (คงเหลือ 27 อำเภอจาก 33 อำเภอ) ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.64 ถึง 19 มิ.ย.64 ซึ่งเป็นการขยายเวลาครั้งที่ 63 เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นทีให้มีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพต่อไป โดยหลังจากนี้จะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ในการนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับฝ่ายความมั่นคงให้เข้มงวดงานด้านการข่าว และให้มีการประเมินพื้นที่อย่างละเอียดรอบคอบ ทั้งสถิติการก่อเหตุ การสูญเสีย และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ต้องดํารงการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง อย่างแน่นแฟ้น พร้อมกล่าวขอบคุณกำลังพลในพื้นที่ทุกนายที่ตั้งใจปฏิบัติภารกิจด้วยความทุ่มเท เสียสละเพื่อประเทศชาติ และกล่าวเป็นกำลังใจให้บรรลุภารกิจด้วยความปลอดภัยกันทุกคน