- Home
- Community
- กระแสชุมชน
- การศึกษา-ระบบสุขภาพ
- สื่ออีสานล่างจับมือเสนอข่าวชุมชนแทนข่าวกระแส เชื่อชาวบ้านได้สาระมากกว่า
สื่ออีสานล่างจับมือเสนอข่าวชุมชนแทนข่าวกระแส เชื่อชาวบ้านได้สาระมากกว่า
กลุ่มสื่ออีสานตอนล่าง 4 จังหวัด ร่วมปฏิวัติการนำเสนอข่าว เปิดพื้นที่เสนอปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน-อาชีพ-การอนุรักษ์ และวิธีแก้ปัญหาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น แทนการเสนอข่าวตามกระแส หวังชาวบ้านได้ประโยชน์และสาระมากกว่า
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี โครงการพัฒนาสื่อสารสาธารณะอีสานล่างสร้างสุข โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสื่ออีสานใต้ 4 จังหวัดคือ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี ได้ร่วมหารือเพื่อวางแนวทางการนำเสนอข่าวของชุมชน โดย นายสุชัย เจริญมุขยนันท ผู้ประสานงานโครงการฯ กล่าวว่า การนำเสนอข่าวของชุมชนทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูประเพณีของชาติพันธุ์ท้องถิ่น การสนับสนุนการวิจัยภูมิปัญญาชาวบ้าน การให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการหรือร่วมแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น เพื่อเปิดพื้นที่สื่อสาธารณะให้ประชาชนเข้าถึงมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนส่วนใหญ่ เน้นเสนอข่าวตามกระแสมากเกินไป
โดยการหารือของกลุ่มสื่ออีสานใต้ ซึ่งประกอบด้วยสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี และอินเตอร์เน็ต ให้ความสนใจปัญหาที่กลุ่มนักวิจัยเอกชนลงพื้นที่ทำงาน ทั้งปัญหาน้ำเสียในลำห้วยเสนง ซึ่งเป็นลุ่มน้ำหล่อเลี้ยงคนจังหวัดสุรินทร์ แต่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำเสียจากอุตสาหกรรมในครัวเรือน ฟาร์มเลี้ยงปศุสัตว์ขนาดใหญ่ และการใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรรม ทำให้น้ำในลำห้วยเสนงไม่สามารถนำมาใช้อาบหรือดื่มกินได้
ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาราชการจะทำการขุดลอกห้วย แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง ตรงกันข้ามกลับส่งผลกระทบต่อพื้นป่าริมลำห้วยเสียหายมากขึ้น หากสื่อมวลชนตีแผ่ข้อเท็จจริง จะช่วยให้การแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในลำห้วยเสนงได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอปัญหาของชนชาติกวย หรือส่วย ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.โพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีภาษาพูดและเครื่องแต่งกายเป็นของตนเอง แต่ถูกกระแสเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้คนรุ่นใหม่เริ่มลืมเลือน รู้สึกอายเมื่อถูกมองไม่เหมือนกับคนทั่วไป จึงไม่ยอมใช้ภาษาพูดที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง การนำเสนอข่าวในทางบวก จะทำให้คนกวยมีความภูมิใจในวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนาน และกล้าแสดงออกในที่สาธารณะ ซึ่งจะช่วยอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของชนชาติกวยที่กำลังจะสูญหายไปให้กลับคืนสู่ถิ่นได้อีกครั้ง
ขณะเดียวกันยังมีการใช้พุทธศาสนาเป็นแกนกลางใช้ประกอบอาชีพ ลดภาระค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น ที่ จ.ยโสธร ชาวบ้านมีการรวมตัวทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกข้าวคุณธรรม ตามคำแนะนำของวัดป่าสวนธรรมร่วมใจ โดยชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการต้องทำการเกษตรแบบในอดีต ลดการใช้เครื่องจักรกล และใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี เพื่อลดรายจ่ายในการผลิต พร้อมหาแหล่งจำหน่ายสินค้าด้วยตนเอง เพื่อให้มีรายได้จากการขายมากขึ้น
การทำเกษตรอินทรีย์นอกจากชาวบ้านสามารถลดต้นทุน ยังส่งผลดีต่อระบบนิเวศของชุมชนและแหล่งเพาะปลูก เมื่อปราศจากสารพิษตกค้างตามพื้นที่ไร่นา จะมีสัตว์นานาชนิดเป็นแหล่งอาหาร ให้ชาวบ้าน ปัจจุบันกลุ่มปลูกข้าวคุณธรรม จึงมีการจัดตั้งสวัสดิการชุมชน และชาวบ้านส่วนใหญ่ ลด ละเลิกอบายมุกคือ ไม่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่แล้ว
ด้านจ.อุบลราชธานี มีการนำเสนอระบบผันน้ำ “แอร์แว” ซึ่งเป็นนวัตกรรมภูมิปัญญาชาวบ้านที่คิดกระบวนการแก้ปัญหาการส่งน้ำจากที่ต่ำ ไปที่สูงของชาวบ้านผาชัน อ.โพธิ์ไทร โดยหมู่บ้านดังกล่าวตั้งอยู่ติดแม่น้ำโขง แต่จากลักษณะภูมิประเทศที่สูงชัน ส่งผลกระทบในการลำเลียงน้ำขึ้นมาใช้ในหมู่บ้าน ซึ่งภาคราชการส่งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มูลค่าหลายล้านบาทมาให้ แต่ใช้ได้ไม่นานเครื่องสูบน้ำก็ไหม้เสียหายจากแรงดันน้ำที่ต่ำ
ชาวบ้านจึงเริ่มช่วยกันคิดหาวิธีแก้ปัญหา โดยทดลองนำท่อพีวีซียาว 1 เมตร ต่อแบบ 3 ทาง ทิ้งระยะห่างกันประมาณ 10 เซนติเมตร มาเชื่อมกับท่อส่งน้ำจำนวน 2 ท่อ เพื่อให้เกิดเป็นโพลงอากาศในท่อที่ต่อเพิ่มเติม เมื่อมีอากาศไหลเวียนผ่านไปไม่มาระหว่างใช้เครื่องสูบน้ำ ปรากฏว่าสามารถเพิ่มแรงดันน้ำในการส่งน้ำผ่านท่อขึ้นไปไว้ในถังเก็บน้ำของหมู่บ้านเป็นผลสำเร็จ โดยวัสดุที่นำมาใช้แก้ปัญหาครั้งนี้ มีมูลค่าเพียง 800 บาทเท่านั้น แนวคิดนี้จึงได้รับรางวัลชนะเลิศสิ่งประดิษฐ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นระดับประเทศเมื่อปี 2550 ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
ทั้งนี้ การนำเสนอปัญหาของชุมชนรวมทั้งนวัตกรรมที่คิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน กลุ่มสื่ออีสานล่างได้ตอบรับเปิดพื้นที่ในการนำเสนอข่าวให้มากขึ้น เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่เป็นผู้รับสารนำไปใช้แก้ปัญหาในจุดต่างๆเป็นอย่างดี.