- Home
- Community
- กระแสชุมชน
- ทรัพยากร-สิ่งแวดล้อม
- กลุ่มราษฎรรักป่า ค้านมติ ครม.สร้างเขื่อนแม่วงก์ “ใช้เงินมหาศาล-ไม่แก้น้ำท่วมแล้ง”
กลุ่มราษฎรรักป่า ค้านมติ ครม.สร้างเขื่อนแม่วงก์ “ใช้เงินมหาศาล-ไม่แก้น้ำท่วมแล้ง”
แถลงการณ์กลุ่มราษฎรรักษ์ป่า ต.สะเอียบ จ.แพร่ ค้านมติ ครม.สร้างเขื่องแม่วงก์ ระบุนักการเมืองอ้างสถานการณ์น้ำท่วมกู้เงินมหาศาลมาทำลายป่า กระทบชุมชน
วันที่ 12 เม.ย.55 ชาวบ้านกลุ่มราษฎรรักป่า ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ออกแถลงการณ์คัดค้านมติ ครม.สร้างเขื่อนแม่วงก์ ใจความว่า จากการที่รัฐบาลมีมติ ครม. 10 เม.ย. 55 อนุมัติให้ดำเนินโครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยใช้งบประมาณก่อสร้าง 13,280 ล้านบาทผูกพันถึงปี 2562 ระยะเวลาก่อสร้าง 8 ปี
กลุ่มราษฎรรักป่า มีความเห็นว่าเป็นการดำเนินการที่สะท้อนความไม่ชอบมาพากล เพราะใช้งบประมาณมหาศาลซึ่งเป็นเงินกู้จากต่างประเทศที่ผูกพันถึงคนรุ่นลูกหลาน และยังทำลายป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์กว่า 11,000 ไร่ กระทบต่อพืชพันธุ์และสัตว์ป่าอีกมากมาย อาทิ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 57 ชนิด 26 วงศ์ สัตว์จำพวกนก 305 ชนิด 53 วงศ์ สัตว์เลื้อยคลาน 22 ชนิด 11 วงศ์ สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 7 ชนิด 4 วงศ์ และปลาน้ำจืด 68 ชนิด 14 วงศ์
องค์กรชาวบ้านกลุ่มราษฎรรักษ์ป่า ทำหน้าที่พิทักษ์ป่าสักทองแก่งเสือเต้นมาอย่างยาวนาน เห็นว่ารัฐบาลไม่ควรกู้เงินมาทำลายป่า เพราะจะทำให้เกิดปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วมตามมาในอนาคต และขอให้รัฐบาลยกเลิกการสร้างเขื่อนแม่วงก์ รวมทั้งยุติการผลักดันสร้างเขื่อนขนาดใหญ่อย่างเขื่อนแก่งเสือเต้น เพื่อรักษาป่าไม้ซึ่งเปรียบเสมือนปอดของมวลมนุษยชาติ
ทั้งนี้เสนอให้รัฐดำเนินการพัฒนาแก้มลิง พัฒนาระบบเหมืองฝาย โดยใช้แนวทางการจัดการน้ำชุมชนเป็นหลักการสำคัญ พัฒนาอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กกระจายทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งสามารถทำได้เลยภายในหนึ่งปี ทั้งยังส่งกระทบน้อยต่อป่าไม้ สิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมทั้งใช้งบประมาณน้อยกว่าเขื่อนขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นการกระจายการจัดการน้ำให้ทุกพื้นที่ได้มีส่วนแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมอย่างแท้จริง ที่สำคัญที่สุดรัฐต้องทำหน้าที่ปกป้องรักษาป่าที่เหลืออยู่อย่าเข้มงวด และฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้กลับมาทำหน้าที่รักษาสมดุลธรรมชาติเพื่ออนาคตของลูกหลาน .