logo isranews

logo small 2

“ป.ป.ช.”ยอม“ยิ่งลักษณ์”สอบพยานเพิ่ม 3 ปาก“นิวัฒน์ธำรง-ยรรยง-โต้ง”

“ป.ป.ช.” ไฟเขียว “ยิ่งลักษณ์” แจงข้อกล่าวหาเพิ่มได้อีก 30 วันตามระเบียบ ระบุเบิกพยานได้แค่ 3 จาก 11 ราย “นิวัฒน์ธำรง – ยรรยง” เรื่องจำนำ – ระบายข้าว “กิตติรัตน์” เรื่องเงิน – คลังของประเทศ รอวินิจฉัยคำสั่งให้ยุติไต่สวน พร้อมเอกสารชี้แจง 151 แผ่นในคราวเดียว

PIC-Yingluck-37

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายประสาท พงษ์ศิวาภัย รองโฆษก และกรรมการ ป.ป.ช. แถลงกรณีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เข้ามาชี้แจงข้อกล่าวหากรณีถูกร้องขอถอดถอนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว

นายประสาท กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 31 มีนาคม 2557 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เข้ามาชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยวาจา ประกอบกับการชี้แจงด้วยลายลักษณ์อักษรจำนวน 151 แผ่น หลังจากนั้นมีประเด็นสืบเนื่องที่ชี้แจงดังกล่าวอยู่ 3 ประเด็น คือ

1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอโอกาสทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 30 วัน ซึ่งตรงนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า ระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่าด้วยการไต่สวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2555 ระบุว่าให้ผู้ถูกกล่าวหาสามารถที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้จนกว่าจะได้มีการวินิจฉัยคดี เว้นแต่กรณีมีเหตุผลอันสมควร

“หมายความว่า ผู้ถูกกล่าวหาสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ จนกว่าจะมีการวินิจฉัยคดี” นายประสาท กล่าว

2.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขออ้างพยานบุคคลจำนวน 11 รายให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อที่จะไต่สวนเพิ่มเติม โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้สอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติมจำนวน 3 ราย เพราะถือว่าบุคคลทั้ง 3 รายนี้เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกกล่าวหา ได้แก่

1) นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาลย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ 2) นายยรรยง พวงราช รักษาการรมช.พาณิชย์ โดยจะสอบสวนในประเด็นการรับจำนำข้าว และการระบายข้าว และ 3) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะสอบสวนในประเด็นความเสียหาย การเงิน และการคลังของประเทศ

“ส่วนท่านอื่นที่เหลือไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำของผู้ถูกกล่าวหา ไม่ใช่ประเด็นที่เรากล่าวหาจึงตัดไป” นายประสาท กล่าว

3.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหนังสือขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยุติการไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่งประเด็นที่อ้างในหนังสือยุติการไต่สวนข้อเท็จจริงนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า จะนำไปพิจารณารวมกับหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งมีทั้งสิ้น 151 แผ่นดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้า กล่าวคือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะวินิจฉัยทั้ง 2 เรื่องในคราวเดียวกัน

นายประสาท กล่าวด้วยว่า สำหรับการติดต่อพยานบุคคลทั้ง 3 นั้นจะทำหนังสือแจ้งไปยังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ทราบ โดยขอให้นำบุคคลทั้ง 3 ท่านที่บอกไว้ เพื่อเข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป โดยเจ้าหน้าที่อาจจะประสานกับทนายอีกทางหนึ่งเพื่อจะได้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ดีคิดว่าคงรวดเร็ว เพราะบุคคลทั้ง 3 มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในด้านนี้ และเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ไต่สวนอยู่ รวมไปถึงยังรักษาการรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าการสอบพยานบุคคลทั้ง 3 ใช้เวลานานหรือไม่ นายประสาท กล่าวว่า คิดว่าอยู่ที่ความร่วมมือของน.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างไรก็ดีคิดว่าคงจะร่วมมือได้สะดวก เพื่อจะได้พิสูจน์ในตัวของท่าน ดังนั้นเชื่อว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะให้ความร่วมมือดี

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีหนังสือขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยุติการไต่สวนข้อเท็จจริงนั้นเป็นกรณีรับจำนำข้าว หรือระบายข้าว นายประสาท กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า สืบเนื่องจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการพิจารณาในการจำนำข้าว ทั้งที่เป็นคนหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมา แต่กลับมาไต่สวนเสียเอง ท่านจึงทำหนังสือมาว่าอย่างนี้มันขัดแย้งในตัวเองที่เราหยิบยกเรื่องดังกล่าว และนำมาไต่สวนเอง

“แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายเยอะ ดังนั้นจะนำมาพิจารณาวิเคราะห์กันอีก” นายประสาท กล่าว