เปิดกรุพระ“เจ้าพ่อคิง เพาเวอร์” ตามรอย“สมเด็จวัดระฆัง” มิ้ง จักรวรรดิ !

"..ในช่วงปี 2552 ในกรุพระเครื่องของนายวิชัย ไม่ได้ระบุว่า ครอบครองพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ซึ่งเช่าต่อจาก “มิ้ง จักรวรรดิ” แต่อย่างใด คำถามที่น่าสนใจ คือ  "สมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่"  ของ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สามีนางปารีณา มูลค่าองค์ละ 24 ล้านบาท ที่ปล่อยต่อให้กับ “มิ้ง จักรวรรดิ” ไปอยู่ที่ไหน?.." 

เป็นเรื่องที่ชวนสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ?

ต่อกรณี นายอุปกิต ปาจรียางกูร นักธุรกิจเจ้าของรีสอร์ทที่ ต.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า สามีนางปารีณา ปาจรียางกูร อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชาชน และพรรคชาติไทยพัฒนา (ลูกสาวนายทวี ไกรคุปต์) ยอมปล่อยพระเครื่อง “สมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่” มูลค่าองค์ละ 24 ล้านบาท ต่อให้กับ “มิ้ง จักรวรรดิ” เซียนพระมีชื่อคนหนึ่งเป็นผู้รับทอดบูชาต่อ ด้วยสนนราคาราว 30 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่า ปล่อยให้เช่าเป็นเวลานานหลายปีแล้ว

และพระองค์ดังกล่าวมีเพียงองค์เดียวเท่านั้น !

“เมื่อ “มิ้ง” เช่าพระองค์ดังกล่าวต่อจากสามีฉัน โดยเช่าไปหลายปีแล้ว ต่อมาได้นำไปปล่อยให้ “วิชัย ศรีวัฒนประภา (รักศรีอักษร)” ผู้บริหารกิจการเครือคิง เพาเวอร์ เช่าต่อในราคาราว 15 – 20 ล้านบาท เนื่องจากคุณวิชัย เขาให้เซียนพระมาตรวจสอบแล้วคิดว่าไม่สวย จึงขอเช่าในราคานี้ ซึ่ง “มิ้ง” ก็ยอมปล่อยไปในราคาดังกล่าว”

นางปารีณา ยังระบุด้วยว่า  “มิ้ง จักรวรรดิ” ไม่ได้ปล่อยสมเด็จวัดระฆังให้นายวิชัยเพียงแค่องค์เดียว แต่ยังรวมไปถึงพระเครื่องในกรุตัวเองอีกเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ให้นายวิชัยเช่าไปพร้อมกันด้วย

อันเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ นางปารีณา ไม่แจ้งพระเครื่ององค์ดังกล่าวในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา

(อ่านประกอบ : อดีต ส.ส.หญิง“ปารีณา”ยันปล่อย“สมเด็จวัดระฆัง”ให้“มิ้ง จักรวรรดิ”30 ล้าน)

คำถามที่น่าสนใจ คือ  ทำไม “มิ้ง จักรวรรดิ” จึงยอมปล่อยพระเครื่องจากราคากว่า 30 ล้านบาท เหลือแค่ 15 – 20 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับว่ายอมขาดทุนเป็นจำนวนเงินกว่า 10 – 15 ล้านบาทเลยทีเดียว? 

และในข้อเท็จจริง  “วิชัย ศรีวัฒนประภา (รักศรีอักษร)” เจ้าพ่อเครือคิง เพาเวอร์  มีพระเครื่ององค์ดังกล่าวอยู่ในครอบครองแล้วหรือยัง ?

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายวิชัย เป็นผู้นิยมสะสมพระเครื่องชื่อดัง มูลค่าสูงคนหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งสะสมมาจนกระทั่งสามารถเปิดเป็น “พิพิธภัณฑ์พระ วีอาร์ มิวเซียม (VR Museam)”

โดย “พระเครื่อง” ที่นายวิชัยเน้นสะสมเป็นพิเศษก็คือ “พระสมเด็จวัดระฆัง” ซึ่งเกือบทุกองค์ที่ชื่อดังในประเทศไทยต่างปรากฏชื่อนายวิชัยเป็นผู้เช่าแทบทั้งสิ้น

ส่งผลให้ในปี 2552 นายวิชัยได้รับตำแหน่งคอลเลคเตอร์แห่งอาณาจักรวงการพระเครื่องไทยไปครอบครอง !

ภายหลังรับรางวัลดังกล่าว นายวิชัย เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่อเหตุผลที่เข้าสู่วงการพระเครื่องว่า เริ่มเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เมื่อนายมนตรี พงษ์พานิช (อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.คมนาคม ที่อนุมัติโครงการ “โฮปเวลล์” ในสมัยรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ) ซึ่งรักใครนายวิชัยเหมือนน้อง ได้นำพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ขุนศรี และเกศบัวตูม มาให้นายวิชัยเลือก พร้อมพระเครื่ององค์อื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นนายวิชัยยังไม่มีความรู้พระเครื่อง ประกอบกับเกรงใจ จึงเลือกหยิบองค์ที่คาดว่าแพงน้อยที่สุด และต่อมานายมนตรี ก็ได้ให้พระเครื่องกับนายวิชัยไว้อีกหลายองค์อีกด้วย

โดยระหว่างนั้นนายวิชัย มีเซียนพระชั้นยอดคู่กาย อยู่ 2 คน คือนายพิศาล เตชะวิภาค หรือ “ต้อย เมืองนนท์” อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย (ตำแหน่งขณะนั้น) และนายมงคล เมฆมานะ หรือ “โกเนี้ยว สำโรง” คณะกรรมการตัดสินพระเครื่องชุดเบญจภาคี (ตำแหน่งขณะนั้น) เพื่อคอยตรวจสอบพระเครื่องที่หลั่งไหลเข้ามาในกรุอย่างระมัดระวังที่สุด

หลังจากนั้นนายวิชัย จึงเริ่มเข้าศึกษาวงการพระเครื่อง และกว้านเช่าพระชื่อดังต่าง ๆ มาเก็บไว้เป็นคอลเลคชั่นมากมาย แม้ว่าพระเครื่องบางองค์จะมูลค่าสูงเฉียด 100 ล้านบาทก็ตาม จนกระทั่งได้รับตำแหน่งคอลเลคเตอร์ในปี 2552 ในที่สุด

ขณะที่การประเมินมูลค่าพระเครื่องที่ “เจ้าพ่อคิง เพาเวอร์” ครอบครองอยู่นั้น มีมูลค่าสูงถึงกว่า 500 ล้านบาท !

ทั้งนี้ “พระสมเด็จวัดระฆัง” ที่นายวิชัย ครอบครองอยู่มีหลายพิมพ์ หลายแบบด้วยกัน เช่น พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ได้จากนายมนตรี พงษ์พานิช, พระสมเด็จวัดระฆัง ทรงเจดีย์ ที่เคยเป็นของตรียัมปวาย, พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ (เศียรสะบัด) องค์เกศสะบัด, พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ องค์แชมป์ ชื่อ องค์เสี่ยหน่ำ, พระสมเด็จวัดระฆัง องค์เปาบุ้นจิ้น เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2552 ในกรุพระเครื่องของนายวิชัย ไม่ได้ระบุว่า ครอบครองพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ซึ่งเช่าต่อจาก “มิ้ง จักรวรรดิ” แต่อย่างใด

จึงมีความเป็นไปได้ที่  "สมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่"  ของ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สามีนางปารีณา มูลค่าองค์ละ 24 ล้านบาท ที่ปล่อยต่อให้กับ “มิ้ง จักรวรรดิ” อาจจะไปอยู่ที่  นายวิชัย หลังจากช่วงปี 2552 แล้ว

แต่ทว่า สภาพของพระ "ไม่สวย"  ตามที่นางปรีณายืนยัน  

นายวิชัย จึงไม่ค่อยพูดถึง หรือนำมาโชว์ต่อสาธารณชน เหมือนพระองค์อื่นที่อยู่ในความครอบครอง? 

หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก dek-d