ระเบิด-ยิงซ้ำ ตชด.พลีชีพ 2 นาย - อ้างมุสลิมถูกฆ่าถี่ร้องมาเลย์ช่วย
ใต้ป่วนต่อเนื่อง ระเบิดวันเดียว 6 จุดกระจาย 3 จังหวัด ยะลาหนักสุดดักบึ้ม ตชด.ยิงถล่มซ้ำพลีชีพ 2 นาย ส่วนจุดอื่นๆ บาดเจ็บอีกนับสิบ ปัตตานีซุ่มยิงรถ ผบ.ร้อย ปล้นปิคอัพชาวบ้านกลางวันแสกๆ สงสัยเตรียมไปทำคาร์บอมบ์ ด้านนักศึกษาชายแดนใต้-เครือข่ายครูตาดีกา-อดีตผู้ต้องหาคดีความมั่นคง รวมตัวยื่นหนังสือผ่านกงสุลถึงนายกฯมาเลย์ให้ช่วยคุ้มครองคนมุสลิมในพื้นที่ อ้างถูกสังหารถี่ในช่วงพูดคุยสันติภาพ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนยังคงตึงเครียด และมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 16.05 น.วันพฤหัสบดีที่ 1 ส.ค.2556 เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดรถของตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) หมวดเฉพาะกิจที่ 4413 (มว.ฉก.ตชด.4413) บริเวณบ้านจาเราะแป หมู่ 3 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา จากนั้นได้ใช้อาวุธสงครามยิงซ้ำจนเกิดการยิงปะทะกันนานหลายนาทีก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป
หลังสิ้นเสียงปืนพบว่ามี ตชด.เสียชีวิต 2 นาย คือ ร.ต.ต.ประภาส สุทธิอักษร และ ด.ต.สัมพันธ์ มณีรัตน์
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า ขณะที่ ตชด.ชุดดังกล่าวกำลังออกลาดตระเวนดูแลเส้นทางเพื่อ รปภ.ครู โรงเรียนนิคมสร้างตนเองธารโต 5 โดยใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้ถูกคนร้ายกดจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่วางดักไว้ ทำให้รถกระบะของเจ้าหน้าที่พังยับเยิน จากนั้นได้ใช้อาวุธสงครามยิงซ้ำจนเกิดการปะทะกัน ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นายดังกล่าว
ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดทหารชุดลาดตระเวนเดินเท้า รปภ.ครู สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1732 (ร้อย ร.1730) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 บริเวณบ้านตะบิงติงงี หมู่ 2 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 5 นาย ทราบชื่อคือ พลทหารธวัชชัย วงศ์ใหญ่ จ.ส.อ.สมชาติ ขายเครื่องเทศ ส.อ.ภูมิภาค ไตรดวงรัตน์ พลทหารวสันต์ หมีคำ และ พลทหารไพฑูรย์ บุญชัยวงศ์
ซุ่มยิงรถ ผบ.ร้อย - ปล้นรถชาวบ้าน
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 12.30 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธสงครามซุ่มยิงรถกระบะของผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2204 (ผบ.ร้อย.ทพ.2204) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 ขณะออกลาดตระเวนดูแลเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัยครูและประชาชนในพื้นที่บ้านพงสะตา หมู่ 5 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทำให้ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อคือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ชยานนท์ อาสาสู้ อายุ 29 ปี และ อส.ทพ.ชาญชัย ไชยบุตร อายุ 29 ปี
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ขณะที่ นางสมร สรปะระ อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 2 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก.จ.ปัตตานี กำลังขับรถกระบะยี่ห้อมาสด้า สีดำ ป้ายทะเบียนปัตตานี ไปจอดที่หน้ามัสยิสบ่อทอง หมู่ 6 ต.บ่อทอง เพื่อทำธุระส่วนตัว ได้มีคนร้าย 3 คนสวมหมวกนิรภัยปิดบังใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันเข้าไปจอดเทียบ แล้วใช้อาวุธปืนสั้นปล้นชิงรถของนางสมรไปต่อหน้าต่อตา โดยขับหลบหนีไปทาง อ.หนองจิก คาดว่าคนร้ายอาจนำไปใช้ติดตั้งระเบิดเพื่อก่อเหตุรุนแรง
บึ้ม 2 จุดสายบุรีทหารพรานเจ็บ 3
ส่วนในช่วงเช้าตรู่ เกิดเหตุระเบิด 2 จุดในท้องที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยจุดแรกบริเวณริมถนนสายชนบทระหว่าง อ.สายบุรี กับ อ.กะพ้อ ท้องที่บ้านโตะบาลา หมู่ 5 ต.กะดุนง คนร้ายใช้แบตเตอรี่กดจุดชนวนระเบิดดักสังหารทหารพรานชุดลาดตระเวนเดินเท้า สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4201 (ร้อย ทพ.4201) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 ขณะออกดูแลเส้นทางเพื่อ รปภ.ครู แรงระเบิดทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) เริ่มพงศ์ ทวีรัตน์ อายุ 24 ปี ได้รับบาดเจ็บ
จุดที่ 2 ที่บ้านกะลูปี หมู่ 11 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี โดยคนร้ายซุกระเบิดไว้ข้างทาง ก่อนกดจุดชนวนระเบิดเพื่อดักสังหารทหารพรานสังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4205 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 แรงระเบิดทำให้ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ อส.ทพ.สรพงศ์ ดีหนู อายุ 33 ปี กับ อส.ทพ.เฉลิมพล โพธิ์เกลี้ยง อายุ 25 ปี เหตุเกิดขณะเดินเท้าลาดตระเวนดูแลเส้นทางเพื่อ รปภ.ครู เช่นกัน
มีรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิดหลายจุดในเขต จ.ปัตตานี พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) ได้สนธิกำลังตำรวจ ทหาร และอาสารักษาดินแดน (อส.) จำนวน 70 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุดในเขต อ.เมืองปัตตานี คือ ต.ปาเระ ต.กะมิยอ และ ต.คลองมานิง เพื่อติดตามกดดันกลุ่มผู้ต้องสงสัย
ตูมหน้า รพ.ที่ระแงะทหารพรานสาหัส
ที่ จ.นราธิวาส เวลาประมาณ 08.20 น. คนร้ายลอบวางระเบิดดักสังหารทหารพรานสังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4516 (ร้อย ทพ.4516) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทาง เหตุเกิดบนถนนหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาโงสะโต หมู่ 4 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.อ.สิทธิชัย ทองถึง อายุ 45 ปี เป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวณ ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณศีรษะ อาการสาหัส ต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส
ทั้งนี้ ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่กล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 7 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ
ช่วงเช้าวันเดียวกันได้เกิดระเบิดบนถนนสายพิธาน ท้องที่บ้านบลูกา หมู่ 1 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ใกล้กับท่อน้ำลอดใต้ถนน โดยเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ในถังแก๊สหุงต้ม น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า เป็นระเบิดที่คนร้ายเตรียมนำไปวางเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ชุด รปภ.หมู่บ้าน แต่เจ้าหน้าที่ทราบก่อน และกำลังเข้าไปพิสูจน์ทราบเพื่อเก็บกู้ คนร้ายจึงชิงจุดชนวนเพื่อทำลายทิ้ง เพราะไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่เก็บดีเอ็นเอกับลายนิ้วมือแฝงที่อุปกรณ์ประกอบระเบิด
ติดป้ายผ้าไล่ จนท.รายวัน - สะบ้าย้อยหวิดบอมบ์
ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยังมีกลุ่มบุคคลลึกลับตระเวนติดป้ายผ้าสีขาวที่เขียนข้อความขับไล่ทหารออกจากพื้นที่ จำนวน 15 จุดใน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ศรีสาคร 5 จุด อ.เจาะไอร้อง 1 จุด อ.ยี่งอ 2 จุด อ.ระแงะ 1 จุด อ.สุไหงปาดี 3 จุด และ อ.เมืองนราธิวาส 3 จุด โดยมีบางจุดวางวัตถุต้องสงสัยเอาไว้ด้วย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บกู้ก็พบเป็นระเบิดปลอม
ส่วนที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา คนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่องชนิดระเบิดเพลิงไว้ในร้านทวีภัณฑ์ ร้านขายของที่ตั้งอยู่ริมถนนพัทลุง ในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย ทั้งนี้ ระเบิดดังกล่าวบรรจุในกระป๋องขนมขบเคี้ยว จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล โชคดีที่มีผู้เห็นก่อนและแจ้งเจ้าหน้าที่เก็บกู้ไว้ได้อย่างปลอดภัย
อ้างมุสลิมถูกฆ่าถี่-ฮือร้องมาเลย์ช่วย
ที่หน้าสถานกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำภาคใต้ จ.สงขลา สมาชิกเครือข่ายภาคประชาสังคมชายแดนใต้ ประกอบด้วย เครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ (กลุ่มผู้ต้องหาและจำเลยคดีความมั่นคงที่ศาลยกฟ้อง) เครือข่ายครูตาดีกาและนักศึกษามุสลิม เครือข่ายโต๊ะอิหม่าม และเครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ จำนวนประมาณ 200 คน นำโดย นายธรรมรัตน์ อาลีลาเต๊ะ แกนนำเครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ นายตูแวดานียา ตูแวแมแง ผู้ประสานงานเครือข่าย และ นายอาเต็ฟ โซ๊ะโก ที่ปรึกษาสหพันธ์นักเรียน นิสิต นักศึกษา และเยาวชนปาตานี หรือเปอร์มาส ได้ไปยื่นหนังสือถึง นายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ผ่าน นายมูฮัมหมัด ไพซอล บิน ราซาลี กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำภาคใต้ จ.สงขลา เรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซียร่วมกำหนดมาตรการคุ้มครองชาวมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา
ทั้งนี้ มีการอ้างเหตุผลว่าในห้วงที่ผ่านมาซึ่งมีการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น โดยมีทางการมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกนั้น ได้มีการลอบสังหารพลเรือนและกลุ่มผู้นำศาสนาหลายคนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงเห็นว่าหากมีกลไกที่สามารถคลี่คลายความกังวลอันเป็นผลมาจากเหตุการณ์เหล่านี้ได้ จะช่วยสร้างบรรยากาศของสันติภาพให้ดียิ่งขึ้น
นายธรรมรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพลเรือนซึ่งเป็นเป้าหมายที่ง่ายต่อการโจมตี โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อสังคมในพื้นที่ เช่น ครูตาดีกา และผู้นำศาสนา รวมไปถึงสมาชิกของเครือข่ายหลายคนถูกลอบสังหารถี่ขึ้น หลังจากที่รัฐบาลไทยและแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติปาตานี หรือ บีอาร์เอ็น ได้เริ่มพูดคุยสันติภาพกันตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2556 ที่ผ่านมาแม้ว่าทางกลุ่มเครือข่ายฯได้ใช้ความพยายามหลายครั้งเพื่อเรียกร้องต่อทางการไทยให้ตรวจสอบกรณีเหล่านี้ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ ซ้ำยังหวาดระแวงและถูกจับตามองจากเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ทาง 4 องค์กรจึงรวมตัวกันและขอเรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติภาพ ได้จัดตั้งกลไกการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพลเรือนถูกลอบสังหารท่ามกลางการพูดคุยสันติภาพ เพื่อช่วยคลี่คลายความวิตกกังวลของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสาธารณชนทั่วไป พร้อมสร้างบรรยากาศของความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันให้มีมากขึ้น อันจะช่วยสร้างความรู้สึกว่ามีความปลอดภัยในพื้นที่ ส่งผลดีต่อการพูดคุยสันติภาพด้วย
มีรายงานว่า ทางกลุ่มผู้เรียกร้องซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นนักศึกษาทั้งชายและหญิงมุสลิมได้ชูป้ายข้อความต่างๆ ส่วนใหญ่มีเนื้อหาโจมตีเจ้าหน้าที่ไทย พร้อมตะโกนและร่วมกันร้องเพลงเป็นภาษามลายูด้วย
กิจกรรมดังกล่าวนี้สืบเนื่องจากเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเสวนาในหัวข้อ "พลังเครือข่ายประชาชนป้องกันภัยคุกคามต่อชีวิตท่ามกลางการพูดคุยสันติภาพ" ที่ จ.ยะลา ซึ่ง นายอับดุลสุโก ดินอะ หรือ อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้ และผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา ได้เขียนบทความเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า เครือข่ายภาคประชาสังคมที่ไปร่วมงานเสวนาได้เห็นพ้องกันให้ทำหนังสือร้องเรียนต่อทางการมาเลเซียเพื่อขอให้เข้ามาช่วยคลี่คลายกรณีการลอบสังหารชาวมุสลิมในพื้นที่ชายแดนใต้ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางกระบวนการพูดคุยสันติภาพ โดยให้เหตุผลว่าทางการไทยไม่สามารถให้ความปลอดภัยได้ ทั้งๆ ที่มีทหารตำรวจเต็มพื้นที่
นอกจากนั้น บทความดังกล่าวยังอ้างคำกล่าวของนายธรรมรัตน์ที่ว่า สมาชิกเครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ศาลยกฟ้อง ถูกลอบยิงเสียชีวิตไปแล้ว 4 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายรอมลี เจ๊ะเลาะ เสียชีวิตเมื่อปี 2553 นายมาซาวี มะสาและ เสียชีวิตเมื่อปี 2554 นายอับดุลเลาะ เจ๊ะดีแม เสียชีวิตเมื่อปี 2555 นายมะรอเซะ กายียุ เสียชีวิตเมื่อปี 2556 และ นายตอเหล็บ สะแปอิง ถูกลอบยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2556 ช่วงเดือนรอมฎอนซึ่งรัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็นทำความตกลงร่วมกันลดเหตุรุนแรง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 สภาพรถของ ตชด.หลังถูกลอบวางระเบิดอย่างรุนแรงที่ อ.ธารโต จ.ยะลา
2 เครือข่ายนักศึกษาและประชาสังคมจากชายแดนใต้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีมาเลเซียผ่านกงสุลใหญ่ประจำภาคใต้ จ.สงขลา