ใต้เดือดบึ้มรางรถไฟทำม้าเหล็กอัมพาต ระเบิดทหารชุด รปภ.ครู ยิงตำรวจดับอีก 2
ใต้ป่วนต่อเนื่อง กดบึ้มรางรถไฟในท้องที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำม้าเหล็ก 14 ขบวนต้องหยุดบริการชั่วคราว ลูกจ้างซ่อมรางเคราะห์ร้ายเหยียบระเบิดซ้ำข้อเท้าขาด ฝ่ายความมั่นคงยังไม่ฟันธงฝีมือกลุ่มป่วนใต้หรือแก๊งค้ายาเสพติดตอบโต้รัฐ ส่วนที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี คนร้ายกดบึ้มทหารชุด รปภ.ครูเจ็บ 2 อีกแห่งควงเอ็ม 16 กราดยิงตำรวจ สภ.หนองจิก พลีชีพ 2 นาย
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียด และเกิดเหตุรุนแรงขึ้นรายวัน โดยล่าสุดเมื่อเวลา 05.30 น.วันพุธที่ 27 ก.ค.2554 คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดรางรถไฟ 2 จุด เส้นทางระหว่างบ้านสะโลว์กาแด๊ะ หมู่ 6 ต.เฉลิม กับสถานีมะรือโบ หมู่ 2 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้รางรถไฟได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้การได้ จนส่งผลกระทบต่อการเดินรถไฟในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ชั่วคราว รถไฟสายท้องถิ่น 14 ขบวนไม่สามารถเดินรถได้ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อาสารักษาดินแดน (อส.) และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และพบระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบเป็นกับระเบิดแบบเหยียบฝังไว้ใกล้จุดที่วางระเบิด 1 ลูก คาดว่าเพื่อดักทำร้ายเจ้าหน้าที่ชุดตรวจจุดเกิดเหตุ จึงใช้ปืนยิงทำลาย ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ลูกจ้างซ่อมรางเคราะห์ร้ายเหยียบบึ้มข้อเท้าขาด
อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายสะมะแอ มาสาระกามา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 3 ต.เนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเป็นลูกจ้างแขวงบำรุงทางสถานีรถไฟตันหยงมัส ได้เหยียบกับระเบิดที่คนร้ายลอบวางเอาไว้อีกลูกหนึ่ง ขณะปฏิบัติหน้าที่ซ่อมรางรถไฟ แรงระเบิดทำให้ข้อเท้าของนายสะมะแอขาด เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือไม่ก็เป็นการตอบโต้ของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่ถูกทางการกดดันกวาดล้างอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา สำหรับรางรถไฟที่ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เร่งซ่อมแซม และคาดว่าจะเปิดบริการเดินรถทั้ง 14 ขบวนได้ตามปกติในวันพฤหัสบดีที่ 28 ก.ค. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ซึ่งนิยมใช้รถไฟเป็นพาหนะในการเดินทางและขนส่งสินค้า
ระเบิดชุด รปภ.ครูทหารเจ็บ-ยิงตำรวจดับอีก 2
เวลา 09.05 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเพื่อรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 21 กำลังพล 6 นาย ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ทำให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ จ.ส.อ.สุรพล ญาติยินดี อายุ 49 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขา และ พลทหารยุทธสิทธิ์ รัตนภักดี อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขาเช่นกัน เหตุเกิดบนถนนสายชนบท บ้านบาซาเวาะเซ็ง หมู่ 2 ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขณะที่กำลังพลกำลังเดินทางกลับฐานปฏิบัติการภายหลังเสร็จภารกิจ รปภ.ครู ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นการฝังระเบิดชนิดแสวงเครื่องไว้ใต้ผิวถนน สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 12.50 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียชีวิต 2 นาย ประกอบด้วย จ.ส.ต.นรินทร์ หัดเร๊ะ อายุ 39 ปี และ จ.ส.ต.นพดล หมานอะ อายุ 39 ปี เหตุเกิดขณะที่ทั้งคู่ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำพิธีละหมาดที่มัสยิดตุยง ต.ตุยง อ.หนองจิก โดยไม่ได้สวมเครื่องแบบตำรวจ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน
ยิงอดีตทหารพรานหวิดสิ้นชื่อคาร้านไอศครีม
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ 26 ก.ค.เวลา 13.40 น. พ.ต.ท.มงคล บัวจันทร์ สารวัตรใหญ่ สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงในร้านจำหน่ายไอศครีมและลูกชิ้นปิ้ง เลขที่ 2/9 หมู่ 6 ต.ปะลุกาสาเมาะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ แต่พบเพียงกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ทราบชื่อคือ นายมะซอรี กะนา อายุ 32 ปี เป็นเจ้าของร้านไอศครีม และเป็นอดีตอาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) กรมทหารพรานที่ 46 มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดที่บริเวณขาซ้ายและขาขวา อาการสาหัส
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้าย 3 คนขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันไปจอดบริเวณหน้าร้านขายไอศครีม จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้าไปในร้านเพื่อสั่งไอศครีมและลูกชิ้นปิ้งมารับประทาน ต่อมาคนร้าย 2 คนได้เดินไปสตาร์ทรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้าน ส่วนคนร้ายอีกคนหนึ่งที่อยู่ในร้านได้ทำทีเรียกนายมะซอรีไปเก็บสตางค์ เมื่อได้จังหวะจึงใช้อาวุธปืนพกสั้นจ่อยิงทันที ก่อนวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนสตาร์ทรอไว้หลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
รัว 3 นัดดับพ่อค้าไม้ยางต่อหน้าลูก-เมีย
ช่วงเช้าวันเดียวกัน คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ขับไปจอดขวางรถกระบะของ นายแวฮารง เจะมามะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 4 ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี และใช้ปืนพกขนาด .38 จ่อยิงนายแวฮารง 3 นัดซ้อนจนเสียชีวิตคารถ เหตุเกิดบนถนนเขตรอยต่อระหว่างหมู่ 4 บ้านเนาะบาตู ต.คลองมานิง กับหมู่ 1 บ้านแบรอสะนิง ต.บาราเฮาะ อ.เมืองปัตตานี ขณะที่นายแวฮารงซึ่งมีอาชีพรับซื้อไม้ยางพารา กำลังขับรถกระบะไปตัดไม้ยางพาราในท้องที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
มีรายงานด้วยว่า เหตุการณ์ร้ายดังกล่าวเป็นการยิงต่อหน้าภรรยาและบุตรวัยแค่ 6 ขวบของนายแวฮารง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือเป็นเหตุขัดแย้งส่วนตัว
ก่อนหน้านั้น เมื่อกลางดึกคืนวันจันทร์ที่ 25 ก.ค. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด .38 ลอบยิง นายอาแซ อาแด อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 บ้านป่าม่วง หมู่ 4 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะที่นายอาแซนั่งอยู่ในศาลาที่พักหน้าร้านขายของชำในหมู่บ้านบ้านป่าม่วง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ถล่มชุด ชรบ.คุ้มครองครูเจ็บ 2 ที่ยะลา
เวลา 16.15 น.วันจันทร์ที่ 25 ก.ค. พ.ต.ท.ภูไชยวัฒน์ นทีรัตน์ สารวัตรใหญ่ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยคณะครู (ชุด รปภ.ครู) มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณรอยต่อระหว่างบ้านตะโละหะลอ หมู่ 2 ต.ตะโละหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา กับ ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายโปรยตะปูเรือใบสกัด ทำให้ต้องเสียเวลาเก็บกวาดอยู่นาน ได้ตะปูกว่า 5 กิโลกรัม
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่บนทางหลวงหมายเลข 4060 รามัน-รือเสาะ ห่างจากเขต อ.รือเสาะ ราว 400 เมตร พบรถกระบะยี่ห้ออิซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กจ 6854 ยะลา จอดเสียหลักในสภาพกระจกหน้าและยางล้อหน้าแตก ตัวถังพรุน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายอัมรัน มามุ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 4 ต.สาวอ อ.รือเสาะ กับ นายสะการียา มะรือโซ๊ะ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่บ้านเดียวกัน มีพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลรามันแล้ว โดยนายอัมรันอาการสาหัส
ในที่เกิดเหตุยังพบวัตถุต้องสงสัยบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำและห่อด้วยผ้าขี้ริ้ว 2 กล่อง เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงทำลาย ปรากฏว่าเป็นถุงใส่ก้อนอิฐและทราย ไม่มีวัตถุระเบิดอยู่ภายใน
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายอัมรันกับนายสะการียาเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่ รปภ.ครู ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถกระบะกลับจากการปฏิบัติภารกิจ รปภ.ครูและส่งครูกลับบ้าน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีคนร้ายซุ่มอยู่ข้างทางใช้อาวุธปืนสงครามทั้งอาก้า เอชเค และปืนพกสั้น ยิงถล่ม เป็นเหตุให้ ชรบ.ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ รถกระบะได้รับความเสียหาย แต่ยังแข็งใจใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้จนคนร้ายล่าถอยไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
บึ้ม อส.ชุด รปภ.ครูบ้านลิมุดเจ็บอีก 7 ราย
เวลา 08.15 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.กฤชพิชญ์ พิชญนิตินัย ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดบริเวณปากทางเข้าบ้านลิมุด หมู่ 3 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา มีอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.เมืองยะลา และคณะครูได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณโคนเสาป้ายชื่อถนนดารุสลาม ทางเข้าหมู่บ้านลิมุด มีหลุมระเบิดขนาดกว้าง 1 เมตร ลึก 70 เซ็นติเมตร และสะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดท่อน โซ่รถจักรยานยนต์ และวงจรอิเล็กทรอนิกส์วิทยุสื่อสารกระจายเกลื่อน ห่างออกไปพบรถจักรยานยนต์ของ อส.ล้ำคว่ำอยู่ 1 คัน
สำหรับผู้บาดเจ็บมีทั้งสิ้น 7 ราย ประกอบด้วย อส.อุสมาน มะเซ็งบางี อายุ 23 ปี อส.ปรีชา มะยุ อายุ 37 ปี โดยทั้งคู่เป็น อส.ประจำที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา นางจินตนา บุญสนอง อายุ 53 ปี นางศิริษา นวภัทรวงศ์ อายุ 36 ปี นางวัชรี ปูชพันธ์ อายุ 59 ปี นางกัลยา บุญยอด อายุ 53 ปี และ ว่าที ร.ต.หญิง สุวนันท์ สุวรรณรัตน์ อายุ 30 ปี ทั้งหมดเป็นครูโรงเรียนบ้านลิมุด มีอาการหูอื้อและบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทั้งหมดนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ อส.จำนวน 4 นาย ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน ทำหน้าที่ รปภ.คณะครูเดินทางไปโรงเรียน แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายลอบวางระเบิดจน อส.อุสมาน กับ อส.ปรีชา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคณะครูที่ขี่จักรยานยนต์ตามมาห่างๆ ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ส่วนใหญ่แค่หูอื้อ โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านลิมุดได้สั่งหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลา 2 วัน เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย
ควบกระบะโจมตีจุดตรวจร่วม อส.-ชรบ.-ทหาร
วันอาทิตย์ที่ 24 ก.ค.เวลา 18.25 น. คนร้ายจำนวนไม่น้อยกว่า 6 คน แต่งกายคล้ายผู้หญิง มีผ้าคลุมศีรษะ และมีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนอาก้าและเอ็ม 16 ยิงถล่มจุดตรวจร่วม อส.เจาะไอร้อง ชุด ชรบ.และทหาร ในท้องที่หมู่ 1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทำให้ อส.ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ชรบ. 2 ราย
รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย อส.อับดุลเลาะ เจ๊ะเต็ง อายุ 48 ปี เป็น อส.ประจำที่ว่าการอำเภอเจาะไอร้อง, นายปัญญา อุสมาน อายุ 36 ปี เป็น ชรบ., นายเกรียงไกร อรรถวิภัชน์ อายุ 20 ปี เป็น ชรบ.เช่นกัน ทั้งหมดรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ประชาชนพากันขนของลงจากรถไฟที่สถานีรถไฟยะลา ภายหลังขบวนรถสายท้องถิ่นและสายยาวทุกขบวนที่ผ่านพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องหยุดให้บริการเป็นเวลา 1 วันจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรางรถไฟช่วงเช้าตรู่ในท้องที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
2 เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด อส.ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยครูโรงเรียนบ้านลิมุด อ.เมืองยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย ครูได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 5 ราย (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)