แง้มนโยบายดับไฟใต้"รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ส่งสัญญาณดัน"นครปัตตานี"
เปิดนโยบายดับไฟใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่จะแถลง 23 ส.ค.นี้ เขียนชัดส่งเสริมการกระจายอำนาจ-ปกครองท้องถิ่นในรูปแบบที่สอดคล้องกับลักษณะพื้นที่ เผยบรรจุไว้ในหมวดนโยบายเร่งด่วน ต้องทำภายในปีแรก ด้านสถานการณ์ในสามจังหวัดยังรุนแรงต่อเนื่อง แค่สามวันลอบยิง 7 เหตุการณ์ สังเวย 6 ศพ บาดเจ็บ 2 ราย
ตามที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีกำหนดแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 23-24 ส.ค.นี้นั้น นโยบายแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นนโยบายหนึ่งที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่เคยพูดถึงนโยบายด้านนี้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ เมื่อตรวจดูในเอกสารคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา พบว่านโยบายดับไฟใต้อยู่ในหมดวที่ 1 ว่าด้วยนโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก ข้อ 1.5 เขียนเอาไว้ดังนี้
“เร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควบคู่ไปกับการขจัดความยากจน ยาเสพติด และอิทธิพลอำนาจมืด โดยน้อมนำกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ‘เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา’ เป็นหลักปฏิบัติในแนวทางสันติวิธี โดยเน้นการส่งเสริมความร่วมมือในทุกภาคส่วนกับประชาชนในพื้นที่ อำนวยความยุติธรรมอย่างทั่วถึง เพิ่มโอกาสทางการศึกษาและคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสและความเสมอภาค พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ เคารพอัตลักษณ์ ขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น ส่งเสริมการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบที่สอดคล้องกับลักษณะพื้นที่โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ จะมีการบูรณาการการบริหารจัดการทุกภาคส่วนให้มีเอกภาพทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ รวมทั้งปรับปรุง พัฒนากฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้อง ทันสมัยกับสภาพความเป็นไปของปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบอย่างเป็นธรรม”
เป็นที่น่าสังเกตว่าส่วนหนึ่งของนโยบายมีการพูดถึง “การปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบที่สอดคล้องกับลักษณะพื้นที่โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ” ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำในรัฐบาลชุดปัจจุบัน เสนอรูปแบบ “นครปัตตานี” โดยการรวมพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เข้าเป็น “นคร” และเลือกตั้งผู้ว่าราชการนครโดยตรงจากประชาชน โดยเมื่อมี “นครปัตตานี” แล้วก็ให้ยุบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ซึ่งรูปแบบดังกล่าวมีกระแสคัดค้านจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งชนะการเลือกตั้ง 9 เขตจาก 11 เขตในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ยิงทหารพรานดับที่ระแงะ-อดีตทหารเกณฑ์ในเมืองยะลา
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ตั้งแต่วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทั่งเปิดสัปดาห์ใหม่ ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 22 ส.ค.2554 เวลา 09.50 น.คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) นิรอสือรัน เจ๊ะนุ อายุ 31 ปี สังกัดหน่วยพัฒนาสันติที่ 30-5 กองร้อยทหารพรานที่ 4604 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ซึ่งอยู่ระหว่างลาพัก เหตุเกิดขณะ อส.ทพ.นิรอสือรัน ยืนอยู่หน้าบ้านของตนเอง เลขที่ 82 บ้านสาเมาะ หมู่ 1 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดย อส.ทพ.นิรอสือรัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลระแงะ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ส.ค.เวลา 12.50 น.คนร้ายจำนวน 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายอิสมาแอ ยาลา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 5 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตขณะเดินอยู่ริมถนนในซอยก่อแก้ว ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา โดยอาวุธปืนที่คนร้ายใช้เป็นปืนเอ็ม 16 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่เรื่องส่วนตัว ทว่ามีข่าวอีกกระแสหนึ่งว่า นายอิสมาแอเป็นอดีตทหารเกณฑ์ และอาจเป็นสายข่าวของฝ่ายความมั่นคง จึงน่าจะถูกกลุ่มก่อความไม่สงบดักสังหาร
ยิงอีก 3 เหตุการณ์ดับ 2 เจ็บ 2
เวลา 19.50 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายเทียนชัย เวรุวาปี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 4 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เสียชีวิตคาที่ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในหมู่บ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังเสร็จจากการละหมาดที่บ้านศรีท่าน้ำ หมู่ 4 ต.ธารโต มุ่งหน้าไปซื้อของที่บ้านบือซู เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัวและเรื่องยาเสพติด
เวลา 21.20 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม.ยิง นายนะซารูดิง วาหะ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 บ้านน้ำเย็น หมู่ 2 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในหมู่บ้านเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านหลังจากละหมาดที่มัสยิด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง แต่ให้น้ำหนักไปที่การเมืองท้องถิ่น
ช่วงเย็นวันเดียวกันที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี คนร้ายอย่างน้อย 3 คนใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม.ซุ่มยิงราษฎร นายมาหะมะนารอกี เด็ง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 บ้านควนหยี หมู่ 3 ต.ปะโด อ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และ นายนิเฮง สาและ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 บ้านปะโด หมู่ 5 ต.ปะโด อ.มายอ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านต้นมะขาม หมู่ 4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง ขณะที่ทั้งคู่ขับรถกระบะมาด้วยกัน กำลังมุ่งหน้าไป อ.มายอ โดย ด.ช.นิอาซัน สาและ บุตรชายของนายนิเฮง นั่งอยู่ในแค็บ ไม่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิงดังกล่าว
เวลา 21.00 น. ทหารชุดลาดตระเวนของหน่วยเฉพาะกิจยะลา 13 พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณหลักริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ท้องทีบ้านลือมุ หมู่ 8 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา คาดว่าเป็นระเบิด จึงรีบประสานหน่วยเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หรืออีโอดี เข้าตรวจสอบ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ โดยลากสายไฟฟ้าเข้าไปในสวนยางพารา จึงเก็บกู้เอาไว้ได้สำเร็จ
สังเวยอีก 2 ศพที่ยะหริ่ง-รามัน
ส่วนวันเสาร์ที่ 20 ส.ค.เวลา 21.10 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดลอบยิง นายสุกี โซ๊ะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/4 บ้านท่ากุน หมู่ 5 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เสียชีวิต เหตุเกิดขณะยืนอยู่หน้าบ้านญาติ เลขที่ 11 บ้านท่ากุน หมู่ 5 ต.ตะโละกาโปร์
เวลา 22.15 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายสมัคร กาแมะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/4 หมู่ 3 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนถนนสายชนบท ท้องที่บ้านพะปูเงาะ หมู่ 4 ต.เกาะรอ อ.รามัน ขณะนายสมัครขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีเทา หมายเลขทะเบียน บข 3655 ปัตตานี มาพร้อมกับครอบครัว มุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุสังหาร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่กำลังชันสูตรพลิกศพ นายอิสมาแอ ยาลา อายุ 23 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตในเขต อ.เมืองยะลา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุรุนแรงลักษณะนี้เกิดขึ้นรายวันในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ และผ่านการตกแต่งโดยฝ่ายศิลป์ ทีมข่าวอิศรา)