พี่น้องมุสลิมร่วมละหมาดฮายัตขอคืนสันติสุข ภาคประชาสังคมรุกประณามแก๊งฆ่าครูคณิต
เอ็นจีโอ-ทหารร่วมประณามเหตุการณ์ฆ่า-เผา “ครูคณิต ลำนุ้ย” ส่วนพี่น้องมุสลิมในพื้นที่บ้านกือเม็ง อ.รามัน จ.ยะลา พร้อมใจละหมาดฮายัตขอคืนสันติสุข เผยงานศพครูคนดีสุดเศร้า พ่อวัย 70 บอกเคยซื้อปืนให้แต่ไม่ยอมใช้ ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาวอนครูเดินทางพร้อมฝ่ายความมั่นคงเท่านั้น แม้ รปภ.รายบุคคลก็ต้องทำ พร้อมไฟเขียว “กลุ่มเสี่ยงอันตราย” ย้ายเข้าเมือง ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังระอุ ซุ่มยิงรถทหารพราน “สิบโท” พลีชีพ
เหตุการณ์คนร้ายสังหาร ครูคณิต ลำนุ้ย อายุ 38 ปี ครูสอบภาษาอังกฤษ โรงเรียนบ้านกือเม็ง หมู่ 2 ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา ด้วยการฆ่าแล้วเผาเมื่อวันอังคารที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้เกิดกระแสสังคมต่อต้านการใช้ความรุนแรงลักษณะนี้อย่างกว้างขวางในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยเฉพาะครูคณิตซึ่งเป็นคนดี มีความตั้งใจ เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน นักเรียน และผู้ปกครอง โดยในวันเกิดเหตุเป็นวันหยุดของโรงเรียน แต่ก็ยังนัดสอนพิเศษให้กับเด็กๆ ที่จะไปร่วมกิจกรรมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในวันรุ่งขึ้น ทำให้เขาถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด
เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ก.ย.2554 ที่มัสยิดบ้านกือเม็ง นายมะยูนุ มะลี อิหม่ามประจำมัสยิด พร้อมด้วย คอเต็บ บิหลั่น และกรรมการมัสยิด ได้นำพี่น้องประชาชนในพื้นที่บ้านกือเม็งและหมู่บ้านใกล้เคียงของ ต.อาซ่อง จำนวนกว่า 200 คน ร่วมกันละหมาดฮายัตและสวดดุอาเพื่อขอพรให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ หยุดความวุ่นวายและเหตุร้ายต่างๆ
ขณะที่มูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้ออกแถลงการณ์ประณามการฆ่าสังหารครูไทยพุทธจำนวน 4 คนในเวลาเพียงสองเดือน โดยระบุว่าช่วงต้นเดือน ส.ค.มีเหตุการณ์ลอบสังหารครูในพื้นที่ถึง 3 ราย ในขณะที่ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนานส่งผลให้อาชญกรยังคงอาศัยช่องว่างทางกฎหมายก่อเหตุรุนแรง โหดร้าย และไม่ถูกลงโทษตามกระบวนการตามยุติธรรม ผู้กระทำผิดยังคงลอยนวล กลุ่มเป้าหมายของความรุนแรงมักเกิดต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งครู ชาวไทยพุทธและมุสลิม และผู้นำทางศาสนา
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ่งต่อการสูญเสียของครูและบุคลากรด้านการศึกษาทุกท่าน รวมทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์อื่นๆ และขอประณามการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และการเพิกเฉยต่อสิทธิในการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ด้วยกันเอง เพิกเฉยกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งวันที่ 7 ก.ย.2554 สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ออกแถลงการณ์ถึงเพื่อนครู เพื่อให้รัฐจัดมาตรการในการดูแล และเสนอให้เพื่อนครูมีวินัยในการรักษาความปลอดภัยของตนเองและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฯ มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม เห็นว่า การปกป้องคุ้มครองสิทธิในการมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยนั้นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน และขอเรียกร้องให้รัฐดำเนินมาตรการปกป้องความปลอดภัยของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ นำมาซึ่งการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของบุคคลทุกคนอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ
ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมาสาโรรัตช์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมกันประณามคนร้าย เพราะเป็นการกระทำที่ผิดทั้งกฎหมายและหลักศาสนา ทำให้บุตรหลานในพื้นที่ขาดโอกาสที่ดีในการศึกษาเล่าเรียน หากประชาชนอยู่นิ่งเฉย สิ่งเหล่านี้จะกัดกร่อนความสามารถของประชาชนและบุตรหลานไปเรื่อยๆ
สำหรับการดูแลความปลอดภัยให้กับครูนั้น เขามั่นใจในศักยภาพ แต่ต้องปฏิบัติตามแผนที่ได้ร่วมกันวางไว้ ส่วนครูที่มีความจำเป็นต้องเดินทางนอกเหนือจากเวลาที่กำหนด ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบด้วย ขณะเดียวกันพื้นที่ไหนที่เห็นว่าเป็นพื้นที่เสี่ยง ทางฝ่ายทหารคงต้องเพิ่มกำลังหรือปรับแผนให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่มากขึ้น
งานศพครูคณิตสุดเศร้า-พ่อเผยเคยซื้อปืนให้แต่ไม่ใช้
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย.ที่ศาลาสวดพระอภิธรรมศพ วัดสุนทรประชาราม ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา มีงานศพครูคณิต ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า โดย นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา (ฝ่ายความมั่นคง) พร้อมด้วย นายบุญไทย กาฬศิริ นายอำเภอรามัน ได้เดินทางไปร่วมงาน และมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับ ร.ต.ต.เผียน และ นางบุญภา ลำนุ้ย บิดาและมารดาของครูคณิต เป็นเงิน 500,000 บาท
ร.ต.ต.เผียน วัย 70 ปี เล่าถึงลูกชายที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับว่า เป็นคนเรียบร้อย และเป็นที่รักของเพื่อนบ้านทั้งไทยพุทธ มุสลิม รวมทั้งนักเรียน และเพื่อนครู
“ลูกชายชอบพาเด็กนักเรียนไปติววิชาภาษาอังกฤษที่บ้านเป็นประจำ เพื่อให้เด็กมีทักษะ ผมเคยซื้อปืนให้เขาใช้เพื่อเอาไว้ป้องกันตัว แต่เขาปฏิเสธ พร้อมกับส่งปืนคืน โดยบอกว่าไม่ชอบปืนผาหน้าไม้ เราทำดีจะต้องไปกลัวใคร ไม่ได้ไปมีเรื่องกับใคร เมื่อสูญเสียลูกชายไปแล้วผมรู้สึกสิ้นหวัง หมดแรง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือให้น้องชายของคณิตได้มีงานทำใกล้ๆบ้าน เพื่อที่จะสามารถดูแลตนเองและภรรยาได้ด้วย” ร.ต.ต.เผียน กล่าว
ไฟเขียว "ครูกลุ่มเสี่ยง" ย้ายเข้าเมือง
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมบุหงาตันหยง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลาประถมศึกษา เขต 1 ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายประสิทธิ์ หนูกุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ฯ ได้เรียกผู้บริหารโรงเรียนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงของ อ.รามัน จำนวน 14 โรง เข้าประชุมเพื่อเน้นซ้ำมาตรการรักษาความปลอดภัย
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ที่ผ่านมามีกำลังพลที่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะดูแลรักษาความปลอดภัยให้ครู ฉะนั้นจึงขอให้ครูที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและคิดว่าตนเองไม่มีความปลอดภัย ประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างใกล้ชิด แม้จะต้องดูแลเป็นรายบุคคลก็ต้องทำ
“ขณะเดียวกันผมได้ให้ผู้บริหารโรงเรียนแต่ละแห่งไปสำรวจรายชื่อครูที่เป็นกลุ่มเสี่ยงว่ามีใครบ้าง และให้ดูว่าการรักษาความปลอดภัยมีความยากลำบากมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากไม่มีความปลอดภัยจริงๆ เราก็พร้อมให้ครูเหล่านั้นมาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ แต่เบื้องต้นเท่าที่สอบถามยังไม่มีครูขอออกมาช่วยราชการ ส่วนใหญ่ครูที่สอนตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ก็เป็นคนพื้นที่ และมีบ้านอยู่ใกล้โรงเรียนหมดแล้ว" นายประสิทธิ์ ระบุ
ซุ่มโจมตีทหารพรานที่เจาะไอร้อง "สิบโท"พลีชีพ
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้หลังเกิดเหตุฆ่าเผาครูคณิต ยังคงมีความรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย.เวลา 13.50 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามซุ่มยิงชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เป็นเหตุให้ ส.ท.ยงยุทธ สุจริต อายุ 22 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4504 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ชาว จ.อำนาจเจริญ เสียชีวิตคาที่
นอกจากนั้นยังมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 ราย คือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ชนะภัย แก้วแก่นจันทร์ อายุ 22 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4507 และ อส.ทพ.ชินรัตน์ แก้วรัก อายุ 23 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4509
สอบสวนทราบว่า เหตุรุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ชุดปฏิบัติการเดินทางด้วยรถกระบะจากพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส มุ่งหน้ากลับฐานปฏิบัติการ แต่ระหว่างทางบริเวณบ้านปิเหล็งออก หมู่ 10 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ถูกคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ข้างทางใช้อาวุธสงครามยิงใส่ กระสุนถูก ส.ท.ยงยุทธ ซึ่งเป็นพลขับเสียชีวิต และรถได้เสียหลักตกลงข้างทาง ทำให้ทหารพรานอีก 2 นายที่นั่งอยู่ด้านหลังได้รับบาดเจ็บ โดยทหารพรานทั้งคู่ได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้และป้องกันคนร้ายไม่ให้บุกเข้ามายิงซ้ำ ทำให้รอดตายได้อย่างหวุดหวิด เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พี่น้องมุสลิมที่บ้านกือเม็งและหมู่บ้านใกล้เคียงร่วมละหมาดฮายัตขอให้เกิดสันติสุขในพื้นที่
2 งานศพครูคณิต ลำนุ้ย