แพทย์เตือนตำรวจ-ทหารแดนใต้"เครียดสะสม" แนะตรวจสุขภาพจิตด่วนหลัง"ยิงกันเอง"ถี่ยิบ
เหตุการณ์ช็อคความรู้สึกผู้คน เมื่อพลทหารที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เกิดอาการคลั่ง กราดเอ็ม 16 ประจำกายเข้าใส่ผู้บังคับบัญชาจนเสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บอีก 4 นายก่อนจะยิงตัวเองตายตามเมื่อวันพุธที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีคำถามเซ็งแซ่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกำลังพลที่ชายแดนใต้
เพราะถ้าย้อนดูในห้วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จะพบว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์ “เจ้าหน้าที่ยิงกันเอง” หรือใช้อาวุธปืนประจำกายไล่ยิงผู้อื่น
หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นความเครียดที่เกิดจากการปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงอันตรายอย่างสามจังหวัดชายแดนภาคใต้...
ไม่ถึง 2 เดือนยิงกันเอง 3 เหตุการณ์ตายเจ็บเพียบ
30 ก.ค.2554 พลทหารสุรศักดิ์ บุญชู อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์ซึ่งประจำการอยู่ที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 เกิดอาการควบคุมสติไม่อยู่ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงผู้บังคับบัญชายศร้อยโทเสียชีวิต หลังจากนั้นได้วิ่งไปจี้ชิงรถจักรยานยนต์ชาวบ้าน และยิงชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย เหตุเกิดบริเวณตลาดเขาน้อยริมถนนสายเอเชีย เส้นทางสายเทพา-จะนะ หมู่ 8 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา
ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า พลทหารสุรศักดิ์มีอาการเครียด เนื่องจากแม่ป่วยหนักอยู่ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อทราบว่านายทหารยศร้อยโทซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะเดินทางไปธุระที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พลทหารสุรศักดิ์จึงขอติดรถมาด้วย แต่ระหว่างทางคาดว่าอาจมีปากเสียงกัน ทำให้พลทหารสุรศักดิ์คว้าอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่วางอยู่เบาะหลังรถยิงใส่ผู้บังคับบัญชา และยิงชาวบ้านเพื่อชิงรถจักรยานยนต์หลบหนี
23 ส.ค.2554 มีพลทหารถูกยิงเสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บ 1 นายในป่ายางพาราด้านหลังโรงเรียนบ้านทุ่งยาว หมู่ 6 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงเรียน โดยทหารที่ประสบเหตุทั้ง 2 นายคือ พลทหารเกษมศักดิ์ แดงมณี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 1 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร เสียชีวิตคาที่ กับ พลทหารนิรันดร์ ผลทับ อายุ 22 ปี เป็นชาว จ.ชุมพร เช่นกัน และเป็นเพื่อนกับพลทหารเกษมศักดิ์ ทั้งคู่สังกัดหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 หลายนัด
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐานว่ามีบุคคลอื่นอยู่ในละแวกดังกล่าว และหมู่บ้านที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่พื้นที่เคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ จึงสันนิษฐานว่าทหารทั้งสองนายน่าจะยิงกันเอง
14 ก.ย.2554 พลทหารรุสลาม มอและ อายุ 22 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 เกิดอาการคลุ้มคลั่งขณะปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรยามอยู่ในฐานปฏิบัติการ ที่บ้านจำปากอ หมู่ 1 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ประจำกายบุกยิงผู้บังคับบัญชายศพันจ่าเอกและจ่าเอกถึงในห้องทำงาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บอีก 4 นาย ก่อนใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองตายตาม
เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกือบทุกเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่มักปิดข่าว ไม่รายงานข่าวสารทางวิทยุสื่อสาร และบางเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ยังพยายามกันผู้สื่อข่าวไม่ให้เข้าพื้นที่ไปทำข่าวอีกด้วย
แพทย์เตือน“เครียดสะสม” แนะตรวจสุขภาพจิตกำลังพล
แม้เหตุการณ์ที่กำลังพลของฝ่ายความมั่นคงใช้ความรุนแรงกระทำกับเพื่อนร่วมงานหรือประชาชน หลายครั้งจะมีการสรุปเบื้องต้นว่าเป็นเพราะความเครียดจากปัญหาส่วนตัว แต่ในทางการแพทย์แล้วเห็นว่าความเครียดดังกล่าวสะสมจากการทำงานในพื้นที่เสี่ยงอันตรายด้วย และควรอย่างยิ่งที่หน่วยเหนือต้องดำเนินการตรวจสุขภาพจิตของกำลังพลในพื้นที่โดยด่วน
แพทย์หญิงภัททิรา ทางรัตนสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ย่อมมีมากกว่าที่อื่น อาจเกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว มากบ้างน้อยบ้าง แต่ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ในฐานหรือในที่ทำงาน
ด้วยเหตุนี้จึงอยากเสนอหน่วยงานต้นสังกัดของทหาร ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ภาคส่วนอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ควรจัดกิจกรรมคลายเครียดให้กับกำลังพล และมีการประเมินสภาพสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่แต่ละคนเป็นประจำว่ามีภาวะเครียดสะสมหรือซึมเศร้ามากน้อยแค่ไหน เพราะการทำงานและใช้ชีวิตอยู่ในสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดเหตุร้ายรายวันบ่อยครั้งนานๆ ย่อมได้รับผลกระทบทางจิตใจกันทุกคน
“ปกติแต่ละอำเภอจะมีนักจิตวิทยาประจำอยู่ที่สถานพยาบาลเพื่อให้คำปรึกษา โรงพยาบาลทุกอำเภอก็จะมีการจัดกิจกรรมแตกต่างกันไปตามพื้นที่และความต้องการ ในแต่ละปีก็ไม่เหมือนกัน ในส่วนของตำรวจซึ่งเป็นข้าราชการประจำที่ทำหน้าที่ในพื้นที่และมีความสูญเสียเยอะ พบว่าเกิดภาวะจิตใจหดหู่ ต้องให้คำปรึกษาเป็นหมู่คณะ ส่วนทหารยังมีกิจกรรมร่วมไม่มาก เพราะทหารอยู่ในพื้นที่ไม่นานก็จะสับเปลี่ยนกำลัง”
แพทย์หญิงภัททิรา บอกด้วยว่า โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรีและโรงพยาบาลอื่นๆ ในพื้นที่ยินดีให้ความร่วมมือกับทุกหน่วย หากมีการร้องขอให้จัดกิจกรรมหรือให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตทั้งรายตัวและรายกลุ่ม ทางแพทย์และทีมนักจิตวิทยาก็ยินดี เพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน
ยิงตำรวจที่ปะนาเระ-บึ้มโรงพักหลังใหม่ที่บาเจาะ
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่เมื่อวันพุธที่ 14 ก.ย.2554 ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อเวลา 04.40 น.คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ประกบยิง นายมะเพาซี แมแลแมง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117/2 บ้านบาโง หมู่ 3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายตันหยงมัส-บาโงสะโต ท้องที่บ้านบาโงสะโต หมู่ 7 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
เวลา 18.10 น.คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิง จ.ส.ต.ซุลกีปลี ลาเต๊ะ อายุ 39 ปี ตำรวจ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 362 บ้านคาโต หมู่ 5 ต.ปะนาเระ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะ จ.ส.ต.ซุลกีปลีกำลังนั่งคุยกับบิดาที่หน้าบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิงดังกล่าวเช่นกัน
เวลา 20.30 น.วันเดียวกัน คนร้ายลอบวางระเบิดอาคารโรงพักหลังใหม่ซึ่งรอการส่งมอบของ สภ.ปะลุกาสาเมาะ ตั้งอยู่ที่บ้านบาตู หมู่ 6 ในเขตเทศบาลตำบลปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้อาคารโรงพักได้รับความเสียหายและเกิดเพลิงไหม้ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ข้อมูลข่าวเบื้องต้นเหตุการณ์ทหารยิงกันเองจากสำนักข่าวเนชั่น
บรรยายภาพ :
1 ทหารกำลังปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยสถานที่และประชาชนท่ามกลางแรงกดดันของสถานการณ์ความไม่สงบ (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ และผ่านการตกแต่งภาพโดยฝ่ายศิลป์ ทีมข่าวอิศรา)
2 หมอภัททิรา ทางรัตนสุวรรณ (ภาพโดย แวลีเมาะ ปูซู)