ยิง จนท.สาธารณสุขดับที่ปะนาเระ ระทึกกู้บึ้ม 2 จุดรอดหวุดหวิด "กล้องวงจรป่วน"ลามใต้
สามจังหวัดชายแดนยังมีเหตุรุนแรงรายวันต่อเนื่อง สลดคนร้ายควบกระบะควงเอ็ม 16 ยิงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดับที่ปะนาเระ พบศพหนุ่มใหญ่วัย 38 ปีถูกฆ่าเผาที่ศรีสาคร แฉมือมืดวางบึ้มหวังป่วนงานของดีประจำปีอำเภอกาบัง เจ้าหน้าที่กู้ทันหวุดหวิด ด้าน “กล้องวงจรป่วน” ลามถึงใต้ “ภาณุ” รับมีติดกล้องพรางหลอกโจร ขณะที่สภากาชาดแจกจักรยานเด็กนักเรียนบ้านไกลเอาไว้ปั่นไปโรงเรียน
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย.2554 เวลา 13.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง นายอารฟัต รักษ์ปราชญ์ อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตำแหน่งพยาบาลศาสตร์ชาย ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าทราย อ.ปะนาเระ อยู่บ้านเลขที่ 67/1 หมู่ 1 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลปะนาเระ แต่นายอารฟัตทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ นายอารฟัต เป็นพยาบาลในโครงการผลิตพยาบาล 3,000 อัตราที่ริเริ่มมาตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพิ่งจบการศึกษาและบรรจุเข้าทำงานในพื้นที่เมื่อไม่นานนี้เอง
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะนายอารฟัตขี่รถจักรยานยนต์กลับจากการร่วมกิจกรรม อสม.สัมพันธ์ ใน อ.เมืองปัตตานี มุ่งหน้ากลับโรงพยาบาลฯ เมื่อถึงถนนสายชนบทหมายเลข 4013 บ้านคลองต่ำ-บ้านท่าทราย (บ้านย่อยของบ้านคลองต่ำ) หมู่ที่ 4 ต.ปะนาเระ ได้ถูกคนร้ายยิงด้วยเอ็ม 16 จนเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
พบศพชายถูกฆ่าเผาที่ศรีสาคร
เวลา 08.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 37 รับแจ้งพบศพชายไม่ทราบชื่อถูกเผาพร้อมกับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน กบพ 388 ปัตตานี บริเวณริมถนนเขตรอยต่อระหว่าง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส กับ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ท้องที่บ้านต้นม่วง บ้านย่อยของบ้านกาหลง หมู่ 1 ต.กาหลง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ จากการชันสูตรพลิกศพและตรวจสอบประวัติเบื้องต้นทราบชื่อผู้ตายคือ นายอาลีย๊ะ เปาะจิ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 5 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา สภาพศพถูกตีด้วยของแข็งบริเวณศีรษะด้านขวา และลำตัวถูกไฟไหม้ ขณะที่รถจักรยานยนต์ก็ถูกไฟเผาวอดทั้งคัน บริเวณที่เกิดเหตุยังพบระเบิดขว้างชนิด เอ็มเค 2 จำนวน 1 ลูก และปลอกกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิต
ระทึกกู้ระเบิด “กาบัง-โคกโพธิ์” 2 จุดรอดหวุดหวิด
ช่วงเช้าวันเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 รับแจ้งจาก นายนิคม กสิพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ว่า เมื่อเวลา 01.45 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด .38 และอาก้า ยิงใส่บ้านเลขที่ 23/2 บ้านห้วยเงาะ หมู่ 4 ต.ทุ่งพลา ซึ่งเป็นบ้านของตนเอง ทำให้บ้านได้รับความเสียหายแต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ได้สนธิกำลังกับตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ เข้าไปตรวจสอบ พบวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็ก เป็นกับระเบิดแบบเหยียบ ซึ่งคนร้ายนำมาวางดักไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บกู้เอาไว้ได้สำเร็จ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการก่อเหตุลวงเพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและกดระเบิดซ้ำ
มีรายงานจากหน่วยเฉพาะกิจยะลา 14 ว่าเมื่อค่ำวันพุธที่ 21 ก.ย. ระหว่างที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองใน อ.กาบัง กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยพื้นที่จัดงานประจำปีของดี อ.กาบัง จ.ยะลา อยู่นั้น ปรากฏว่าได้มี ชรบ.(ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณรั้วสนามฟุตบอลหน้าที่ว่าการอำเภอกาบัง จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็กรูปทรงสี่เหลี่ยม มีสายไฟฟ้าโผล่ออกมาด้านนอก จึงได้ปิดกั้นพื้นที่ และใช้อาวุธปืนลูกซองยิงทำลายได้สำเร็จ
“กล้องวงจรป่วน”ลามถึงใต้
ด้านความคืบหน้าการตรวจสอบการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) หลังจากตรวจพบว่ากล้องหลายจุดที่ติดตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ นั้นเป็นกล้องเปล่า ไม่สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ชี้แจงว่าเป็นกล้อง “ดัมมี่” หรือ Dummy Camera ซึ่งเป็นกล้องหลอกใช้ติดตั้งเพื่อป้องปรามคนร้าย และประหยัดงบประมาณ ทว่าหลายฝ่ายยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะสงสัยว่าอาจมีการทุจริต จึงยื่นเรื่องไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การติดตั้ง “กล้องดัมมี่” หรือ “กล้องพราง” เป็นเรื่องที่ต่างประเทศก็ทำกัน และในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มีการติดกล้องพรางประมาณ 7,000 ตัวในภาคใต้นั้น
เรื่องนี้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีการใช้ “กล้องพราง” หรือ “กล้องดัมมี่” เพื่อป้องปรามคนร้ายจริง แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขว่ามีทั้งหมดกี่จุด
“มันไม่ใช่เรื่องการทุจริต เพราะตั้งใจซื้อกล้องหลอกอยู่แล้ว กล้องประเภทนี้ราคา 2 พันบาท มีคุณสมบัติเพื่อป้องปราม อาจติดตั้งในจุดที่ไม่สำคัญ จะได้ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ ไม่ใช่ไปเบิกเงิน 2 แสนในราคากล้องจริงไปซื้อกล้องหลอก เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นไม่ใช่การหลอกคนร้าย แต่เป็นการหลอกเจ้าหน้าที่”
นายภาณุ ยังยอมรับว่า พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังขาดแคลนกล้องวงจรปิดอีกจำนวนมาก และโครงการติดตั้งที่ผ่านมาก็มีปัญหา จึงไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะนี้จึงกำลังดำเนินโครงการ “ทอดผ้าป่ากล้องวงจรปิด” โดยร่วมกับหอการค้าจังหวัดต่างๆ หาทุนเพื่อจัดซื้อกล้องซีซีทีวีติดตั้งในพื้นที่ให้ครอบคลุมมากกว่าเดิม เพื่อช่วยในเรื่องความปลอดภัยของคนสามจังหวัด
สภากาชาดมอบจักรยานให้เด็กๆ ชายแดนใต้ปั่นไปโรงเรียน
ที่ห้องประชุมสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ท.นพ.อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้เป็นประธานในพิธีมอบจักรยานแก่เด็กนักเรียนด้อยโอกาส เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา โดยมี นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นางขนิษฐา บุญราช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ สมาชิกเหล่ากาชาด ผู้ปกครอง และนักเรียน ให้การต้อนรับ
สำหรับโครงการจัดซื้อจักรยานให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่ครั้งนี้ สืบเนื่องจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา และสภากาชาดไทยได้เล็งเห็นถึงปัญหาเด็กนักเรียนด้อยโอกาสในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.ยะลา ซึ่งจำนวนมากเป็นเด็กเรียนดี แต่มีชีวิตครอบครัวที่ลำบาก บ้านอยู่ไกลจากสถานศึกษา จึงทำโครงการช่วยเหลือ โดยขอความร่วมมือจาก 8 อำเภอพิจารณาคัดเลือกนักเรียนจำนวน 50 คนเพื่อรับมอบจักรยาน
สำหรับงบประมาณในการจัดซื้อจักรยานนั้น จัดซื้อทั้งสิ้นจำนวน 50 คัน ราคาคันละ 1,280 บาท เป็นเงิน 64,000 บาท
“ขอให้ทุกคนเป็นเด็กดีของครอบครัว เป็นคนดีของสังคม อย่าไปยุ่งกับยาเสพติด ตั้งใจเล่าเรียน ศึกษาหาความรู้ จะได้มีอาชีพที่ดี นำรายได้มาช่วยเหลือตนเอง และครอบครัว สามารถนำความรู้ความสามารถไปพัฒนาจังหวัดและประเทศชาติต่อไป” พล.ท.นพ.อำนาจ กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งกับเด็กนักเรียน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เด็กนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกจาก 8 อำเภอของ จ.ยะลา รับมอบจักรยานจากสภากาชาดไทย เพื่อใช้ปั่นไปโรงเรียน