ปลอมเป็นทหารพรานจ่อยิงชุด รปภ.ครูดับ 4 เผากล้องวงจรปิดเดือนเดียวกว่าร้อย
กลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุสุดอุกอาจ แต่งกายปลอมเป็นทหารพรานบุกยิงทหารชุด รปภ.ครูใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตถึง 4 นาย บาดเจ็บอีก 2 นาย นักเรียนวัย 6 ขวบโดนลูกหลงด้วย ป่วนหนักตระเวนเผากล้องวงจรปิดอีก 29 ตัวในเขตเมืองปัตตานี แฉเดือนเศษกล้องถูกทำลาย-หายไปแล้ว 106 ตัว
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 11.00 น.วันพุธที่ 28 ก.ย.2554 คนร้ายประมาณ 15 คน แต่งกายคล้ายทหารพราน มีอาวุธสงครามครบมือ เปิดฉากยิงใส่ทหารชุดรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) โรงเรียนบ้านลาเมาะนอก หมู่ 3 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 เป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 2 นาย และยังมีนักเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน
รายชื่อผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย
1) ส.อ.นิติ อารีย์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231/39 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เสียชีวิต
2) ส.อ.ศุภชัย แก้วหนูนวล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เสียชีวิต
3) พลทหารนภสินธุ์ ชูศรี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/1 ต.ท่าชี อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิต
4) พลทหารมุจลินทร์ ศุลการ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร เสียชีวิต
5) พลทหารวิทยา ณะรัตน์โช อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับบาดเจ็บ
6) พลทหารไกรวิทย์ สุขอ่อน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164/4 ต.คลองปราบ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บ
7) ด.ช.อันอามีน ปอกียา อายุ 6 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/2/ บ้านลาเมาะนอก หมู่ 3 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ อาการสาหัส
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังกันเข้าไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารกำลังผูกเปลนอนพักผ่อนอยู่ในป่ายางพาราตรงข้ามโรงเรียน เพื่อรอเวลาปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองครูกลับบ้านในช่วงเย็น ระหว่างนั้นมีคนร้ายประมาณ 15 คนแต่งกายคล้ายทหารพราน อาวุธสงครามครบมือ เดินเข้ามาทำทีเป็นสอบถาม เมื่อสบโอกาสคนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ทันที ทำให้ฝ่ายทหารเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โดยกระสุนยังพลาดไปถูกนักเรียนวัยเพียง 6 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย
มีรายงานว่า หลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงอาวุธปืนเอ็ม 16 ประจำกายของทหารที่เสียชีวิตหลบหนีไป และได้โปรยตะปูเรือใบตามเส้นทางเพื่อป้องกันการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ไม่สนข่าวกล้องดัมมี่-เผาวงจรปิดวอด 29 ตัวที่ปัตตานี
ขณะที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) กำลังมีปัญหาถูกตรวจสอบเรื่อง "กล้องดัมมี่" หรือกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) แบบกล้องพราง ไม่ใช่กล้องจริง แต่ติดตั้งเสมือนจริงเพื่อป้องปรามอาชญากรรมว่ามีการทุจริตการจัดซื้อหรือไม่นั้น ปรากฏว่าที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดเหตุการณ์คนร้ายตระเวนทุบ เผา ทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งครั้งล่าสุดนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วในรอบเดือนเศษ
เมื่อเวลา 04.20 น.วันพุธที่ 28 ก.ย.คนร้ายไม่ทราบจำนวนตระเวนลอบวางเพลิงกล้องโทรทัศน์วงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ท้องที่บ้านปูโป๊ะ หมู่ 9 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้กล้องวงจรปิดได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 29 ตัว โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี รวมทั้งทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 23 ได้เข้าตรวจสอบและสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุการณ์คนร้ายเผา ทุบทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เกิดขึ้นถึง 3 ครั้งแล้วในพื้นที่ จ.ปัตตานี ในรอบเดือนเศษที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 ก.ย.คนร้ายไม่ทราบจำนวนออกปฏิบัติการก่อกวนทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบริเวณริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ท้องที่บ้านต้นมะขาม หมู่ 4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทำให้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้รับความเสียหายและสูญหายทั้งสิ้น 48 ตัว ขณะที่เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กัน คือคนร้ายออกตระเวนทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้กล้องเสียหาย 29 ตัว รวม 3 เหตุการณ์ส่งผลให้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดเสียหายไปแล้ว 106 ตัว
ส่วนเหตุร้ายอื่นๆ เวลา 09.00 น. คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดประกบยิง นายคาพงศ์ งอกงาม อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 บ้านท่าด่าน หมู่ 2 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะ นายคาพงศ์ เดินซื้อของอยู่ในตลาดนัดบ้านปะกาจินอ หมู่ 6 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก โดยคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดบริเวณหน้าตลาด จากนั้นได้เดินเข้าไปและใช้อาวุธปืนพกยิงใส่ท่ามกลางสายตาผู้คนจำนวนมาก เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ตามยึดอาก้าฝังดิน-ตำรวจเหยื่อบึ้มยะรังดับ
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ 27 ก.ย.ที่ จ.ปัตตานี ร.ต.อ.พิสิษฐ์ บัวแก้ว ร้อยเวร สภ.โสร่ง อ.ยะรัง รับแจ้งพบอาวุธปืนสงครามและเครื่องกระสุนฝังอยู่ในป่าสวนยางพาราท้ายหมู่บ้าน หมู่ 3 บ้านสะตา ต.กอลำ อ.ยะรัง จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และกองพิสูจน์หลักฐาน พบท่อพีวีซีขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 1 เมรฝังอยู่ใต้ดิน มีฝาปิดหัวท้าย เมื่อนำขึ้นมาพบอาวุธปืนอาก้าซุกอยู่ 1 กระบอก และกระสุนปืนอาก้าอีก 210 นัด เจ้าหน้าที่จึดยึดไปตรวจพิสูจน์ว่าเคยใช้ยิงที่ไหนบ้าง
ด้านความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดใต้ม้าหินอ่อน หน้าบ้านของนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลยะรัง หมู่ 3 อ.ยะรัง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะรัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นายนั้น ล่าสุด ส.ต.อ วรพงศ์ ไชยศักดิ์ หนึ่งในผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ส่วน ส.ต.อ.บุญส่ง สงไข ผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
สำหรับเหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ก.ย.เวลา 15.50 น.บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 259 ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ปตท.ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 บ้านบินยะรัง หมู่ 3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง เหตุเกิดขณะกำลังออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเพื่อรักษาความปลอดภัยเส้นทางและชุมชน โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในกล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 3-5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร
เวลา 18.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามซุ่มยิง นายหร่อหมาด หลาส้า อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/2 บ้านเจาะไอร้อง หมู่ 1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านหลังไปทำไม้ในสวนยางพารา เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทาของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงถล่มฐานทหารที่สุคิริน-พลีชีพ 1 นาย
ส่วนที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เวลา 16.30 น.วันอังคารที่ 27 ก.ย.คนร้าย 5-6 คนมีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีเทา-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามทั้งเอ็ม 16 และอาก้ายิงถล่มฐานปฏิบัติการของทหาร กองร้อยทหารราบที่ 1231 (ร้อย ร.1231) หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 35 ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำใส หมู่ 3 ต.เกียร์ อ.สุคิริน ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และบังเกอร์ปากทางเข้าฐานได้รับความเสียหาย
สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บคือ พลทหารนที พลอยมาลี อายุ 21 ปี อาการสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล อีกรายคือ พลทหารวิทยา จันทราสิทธิ์ อายุ 22 ปี ถูกกระสุนปืนเฉี่ยวที่หัวไหล่ อย่างไรก็ดี หลังเกิดเหตุทหารในฐานได้ระดมยิงตอบโต้ คาดว่าคนร้ายได้รับบาดเจ็บด้วย เนื่องทำปืนเอ็ม 16 ตกในที่เกิดเหตุ 1 กระบอก
นอกจากนั้นยังมีคนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งตัดต้นไม้ขวางถนนและโปรยตะปูเรือใบ บนถนนสายแว้ง-สุคิริน ห่างจากฐานปฏิบัติการทหารที่ถูกโจมตีประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อสกัดไม่ให้เจ้าหน้าที่ส่งกำลังเข้าช่วยเหลือด้วย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : บรรยากาศวันทำบุญสารทเดือนสิบของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ จ.ยะลา ที่วัดคูหาภิมุข (วัดหน้าถ้ำ) หมู่ 1 ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา มีพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ไปร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)