ส.ว.-เอ็นจีโอรุมร้องเลิกพ.ร.ก.ใต้ "โกวิท"รับปาก-เล็งอำเภอไร้ป่วน
"เอ็นจีโอ-องค์กรนักศึกษา" ออกแถลงการณ์อัดฝ่ายความมั่นคงใช้อำนาจมิชอบ คุมตัวปัญญาชนมุสลิมโดยไม่ตั้งข้อหา สอดรับ ส.ว.ใต้ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเมื่อไรจะเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เหตุจับมั่ว สร้างเงื่อนไข แนะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงแทน "โกวิท" รับปากนำไปพิจารณา เล็งเลิกบางอำเภอที่เหตุการณ์สงบ
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงรับปากจะพิจารณายกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ซึ่งอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) เพิ่มเติมบางอำเภอในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จากพื้นที่ชายแดนใต้เรียกร้องให้ยกเลิก ขณะเดียวกันก็มีกระแสจากกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) รวมทั้งนักศึกษาในพื้นที่ออกแถลงการณ์ให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยด่วน
ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันจันทร์ที่ 3 ต.ค.2554 ซึ่งมี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มี ส.ว.ตั้งกระทู้ถามเรื่องผลกระทบจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย นายสุริยา ปันจอร์ ส.ว.สตูล ถามว่า ความพยายามในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบของรัฐบาลขณะนี้เหมือนกับเป็นการใช้ยาหลายขนาน และยิ่งมีการใช้อาวุธเข้าไปในพื้นที่ เท่ากับเป็นการใช้ยาแรง ทำให้อาการของโรคพัฒนาไปอีกหลายรูปแบบ อาทิ มีปัญหายาเสพติด สินค้าเถื่อน ผลสุดท้ายทำให้เกิดอาการดื้อยาและไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
ทั้งนี้ การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯในพื้นที่นั้น ข้อมูลที่ทราบมาคือมีการใช้อำนาจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นเวลา 30 วัน ทำให้มีผู้ถูกจับกุมตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมีการดำเนินคดีในชั้นศาล ปรากฏว่าศาลกลับยกฟ้องเพราะมีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ นอกจากนั้นยังมีการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อซักถามประชาชนเพื่อให้กล่าวหาซัดทอดผู้อื่น
“มีคนจำนวนไม่น้อยที่เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ชอบหน้า ไม่ชอบลักษณะนิสัย ในที่สุดก็เชิญไปคุมขัง และปล่อยตัวเมื่อครบตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้คือ 30 วัน ทำให้กลายเป็นความรู้สึกที่มีอคติ เกลียดชังเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งประเด็นนี้รัฐบาลจะแก้ไขอย่างไร จะมีการทบทวนการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ เพื่อไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องถูกจับ” นายสุริยากล่าว พร้อมเสนอให้นำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาบังคับใช้แทน
จากนั้น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกฯให้ชี้แจงแทน กล่าวว่า จะรับเรื่องไปพิจารณาและทบทวน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลนี้เพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น แต่ก็จะรับไปดำเนินการ หากพื้นที่ใดที่มีความสงบก็จะทยอยพิจารณายกเลิกไปทีละอำเภอ โดยภายในสัปดาห์นี้จะลงพื้นที่เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับพลเรือนและทหารเพื่อรับฟังแนวทางต่างๆ ด้วย
เอ็นจีโอใต้แฉรัฐคุมตัวปัญญาชนไร้ข้อหา
วันเดียวกัน กลุ่มเอ็นจีโอและองค์กรนักศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 17 องค์กร ซึ่งรวมถึงสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) และองค์การบริหาร องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) ในนามเครือข่ายประชาสังคมคัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เรื่อง "ขอให้ยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา" โดยมีเนื้อหาอ้างถึงใบแจ้งข่าวของศูนย์ทนายความมุสลิมก่อนหน้านี้ ที่แจ้งว่าศาลจังหวัดปัตตานีเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าไต่สวนการควบคุมตัวโดยมิชอบในวันพุธที่ 5 ต.ค.2554 กรณีผู้เสียหายยื่นร้องคัดค้านการใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษจับกุมและควบคุมตัว นายนิเซ๊ะ นิฮะ ที่บ้านเลขที่ 32/5 หมู่ 3 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี
แถลงการณ์อ้างว่า การจับกุมมีขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ย.เวลาประมาณ 05.00 น. โดยไม่ได้แสดงหมายใดๆ และได้นำตัวไปควบคุมยังค่ายทหารแห่งหนึ่งบริเวณโรงไฟฟ้าปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี และศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตามลำดับ โดยระหว่างการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ไม่ได้ซักถามอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบ คงสอบถามเพียงชื่อและประวัติส่วนตัวเท่านั้น
ต่อมาวันที่ 22 ก.ย. เจ้าหน้าที่ศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ได้แจ้งกับนายนิเซ๊ะว่า ตำรวจ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ได้ยื่นคำร้องขอออกหมายควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยมิได้แจ้งว่าเหตุที่ขอออกหมายควบคุมตัวดังกล่าวมีความจำเป็นใด และในวันที่ 25 ก.ย.เจ้าหน้าที่ศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ได้นำผลการซักถามให้ผู้ถูกควบคุมตัวลงลายมือชื่อในเอกสารซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบใดๆ ทั้งสิ้น ต่อมาพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการควบคุมตัว และย้ายสถานที่ควบคุมตัวไปยังศูนย์พิทักษ์สันติ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) อ.เมือง จ.ยะลา
แถลงการณ์ระบุว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ซ้ำซ้อนและไม่ชอบด้วยกฎหมาย และได้มีการยื่นคำร้องคัดค้านการควบคุมตัวแล้ว ซึ่งศาลจังหวัดปัตตานีนัดไต่สวนในวันที่ 5 ต.ค.นี้
เรียกร้องปล่อยตัว-จี้เลิก พ.ร.ก.
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า สำหรับ นายนิเซ๊ะ นิฮะ จบการศึกษาคณะรัฐศาสตร์ สาขาการปกครอง เป็นปัญญาชนที่มีบทบาทในงานพัฒนาชุมชนตามวิถีชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น เคยเป็นนักกิจกรรมและเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงสมัยที่มีการชุมนุมขับไล่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
สำหรับข้อเรียกร้องในแถลงการณ์มี 3 ข้อ คือ
1.ให้ปล่อยตัวนายนิเซ๊ะทันที เพื่อเป็นบรรทัดฐาน และให้มีหนังสือยอมรับผิดต่อความผิดพลาดในการทำงานของเจ้าหน้าที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ
2.ให้รัฐชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้ถูกควบคุมตัวโดยมิชอบตามสมควรแก่กรณี
3.ขอเสนอต่อรัฐบาลให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯในพื้นที่
เปิดจดหมาย “นิเซ๊ะ” จากห้องควบคุมตัว
อีกด้านหนึ่ง น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ จากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม (หนึ่งในเครือข่ายประชาสังคมคัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ได้เขียนบทความส่งไปยังสื่อมวลชนและองค์กรเครือข่าย ระบุว่า ได้รับจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของนายนิเซ๊ะ ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้การใดๆ ทั้งสิ้น และขอยืนยันคำให้การเดิม
“ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นแก่ข้าฯ ไม่ว่าร่างกายหรือชีวิตหรือกรณีใดก็ตาม ข้าฯขอเขียนหนังสือนี้เป็นลายลักษณ์อักษรไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการต่อไป” เป็นข้อความตอนหนึ่งของจดหมายที่ น.ส.พรเพ็ญ อ้างถึง
บทความของ น.ส.พรเพ็ญ ระบุด้วยว่า ตลอดการควบคุมตัวและขยายเวลาการควบคุมตัวโดยใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นายนิเซ๊ะไม่มีโอกาสปรากฏตัวต่อหน้าศาลเพื่อขอคัดค้านการควบคุมตัว ญาติและตัวนายนิเซ๊ะเองจึงร้องเรียนต่อศูนย์ทนายความมุสลิมเพื่อยื่นคำร้องคัดค้านการควบคุมตัวต่อศาล และศาลจังหวัดปัตตานีได้นัดไต่สวนในวันที่ 5 ต.ค.นี้ อย่างไรก็ดี มีรายงานว่านายนิเซ๊ะได้รับการปฏิบัติอย่างดีระหว่างการควบคุมตัว และได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยความสมัครใจต่อข้อซักถามต่างๆ
ขณะที่ แหล่งข่าวจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องร้องเรียนของนายนิเซ๊ะ และได้รายงาน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 แล้ว จึงต้องรอฟังนโยบายของแม่ทัพว่าจะสั่งให้ดำเนินการอย่างไร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : จดหมายจากห้องควบคุมตัวที่อ้างว่าเป็นลายมือของนายนิเซ๊ะ นิฮะ โดยในตอนท้ายเขียนข้อความตัวโตว่า "ขอคัดค้าน พ.ร.ก." (ภาพจดหมายจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม)