"โกวิท"ลงพื้นที่ การันตีไม่ยุบ ศอ.บต. ชาวบ้านปะนาเระรวมพลังวอนอย่าถอนทหาร
“โกวิท”ล่องใต้ตรวจเยี่ยมหน่วยงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบ เผยพอใจงานด้านสร้างความเข้าใจ ส่งเสริมอาชีพ และสร้างรายได้ การันตีไม่มียุบ ศอ.บต.แต่จะปรับระบบการทำงานให้สอดคล้องกับหน่วยอื่นเป็น "โครงสร้างเฉพาะ" เพื่อให้ทำงานอย่างบูรณาการ ด้านไฟใต้ยังระอุ ประกบยิงตำรวจเจาะไอร้องสังเวยอีกศพ ส่วนชาวบ้านคอกกระบือ อ.ปะนาเระ รวมตัวร้องแม่ทัพอย่าถอนทหารพ้นพื้นที่
ความเคลื่อนไหวที่ชายแดนใต้ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นที่น่าจับตามากที่สุดคือการลงพื้นที่ครั้งแรกของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.อ.โกวิท เดินทางถึง จ.ยะลา เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ต.ค.และนอนค้างแรมในพื้นที่ก่อนจะเดินทางกลับ โดยที่ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถนนสุขยางค์ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.โกวิท พร้อมคณะ อาทิ พ.ต.อ.ปราณ์รนต์ สันติปราน์รนต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสมเกียรติ บุญชู รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้รับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของ ศอ.บต.จาก นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล เข้าร่วมรับฟังด้วย
วันเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท ยังเดินทางไปที่ห้องประชุมพิทักษ์สันติราษฎร์ ศชต. ในเขตเทศบาลนครยะลาเช่นกัน เพื่อติดตามสถานการณ์ความไม่สงบ การบังคับใช้กฎหมาย และความคืบหน้าคดีความมั่นคงว่ามีอุปสรรคหรือข้อขัดข้องในการปฏิบัติหรือไม่อย่างไร พร้อมทั้งมอบนโยบายแก่หัวหน้าหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า งานด้านการสร้างความเข้าใจ การส่งเสริมอาชีพ และการสร้างรายได้ ถือว่ามีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ และ พล.ท.อุดมชัย แม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้ดูแลพื้นที่เป็นอย่างดี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยมีข่าวจะยุบ ศอ.บต. สรุปว่ารัฐบาลมีนโยบายในเรื่องนี้อย่างไร พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า งานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แม่ทัพภาคที่ 4 จะเข้าไปดูแลทุกหน่วย ส่วน ศอ.บต.ก็ยังอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่จัดให้เข้าที่ให้มีความสอดคล้องกันเป็นโครงสร้างเฉพาะในการแก้ไขปัญหาต่อไป
ประกบยิงตำรวจดับที่เจาะไอร้อง
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ปรากฏว่ายังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อเวลา 06.20 น.วันเสาร์ที่ 8 ต.ค.2554 คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายดอเลาะ แวดือโอะ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/4 บ้านทุ่งคา (บ้านย่อยของบ้านน้ำเย็น) หมู่ 2 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนในท้องที่หมู่ 2 ต.ลำใหม่ ขณะที่นายดอเลาะกำลังขี่รถจักรยานยนต์เพียงลำพังออกจากบ้านเพื่อไปกรีดยางพารา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
เวลา 11.30 น.วันเดียกวัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนอาก้ายิง ส.ต.อ.จีระพันธ์ ลียารัตน์ อายุ 30 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม (ผบ.หมู่ ป.) สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ขณะแต่งกายนอกเครื่องแบบขี่รถจักรยานยนต์ของทางราชการออกสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ เหตุเกิดบนถนนสายป่าไผ่-เจาะไอร้อง บ้านลูโบ๊ะเย๊าะ หมู่ 7 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงรถจักรยานยนต์และอาวุธปืนประจำกายของ ส.ต.อ.จีระพันธ์ หลบหนีไปด้วย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ศชต.แจ้งตำหนิรูปพรรณมือบึ้มโก-ลก
ด้านความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิดทั้งคาร์บอมบ์และมอเตอร์ไซค์บอมบ์ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากนั้น
พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องได้บางส่วนแล้ว ได้แก่ นายสูไฮดี กูบารู ตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาสที่ จ 328/2554 ลง 21ก.ย.2554 พฤติการณ์คือขับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสีแดง ซึ่งติดตั้งระเบิดไว้ภายใน ไปจอดยังจุดที่เกิดระเบิดคาร์บอมบ์ ฃในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โดยนายสูไฮดีพร้อมพวกรวม 8 คนมีประวัติเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศมาเลเซียจับกุมในข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง เมื่อปี 2552
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังออกหมายเรียกตัวโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) อีก 1 ราย สำหรับผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ประกอบด้วยผู้ที่ทำหน้าที่วางระเบิด คนดูต้นทาง และคนรับ-ส่งมือระเบิดภายหลังปฏิบัติภารกิจเสร็จเรียบร้อยรวม 6 คน กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป
ส่วนรถยนต์ที่กลุ่มคนร้ายใช้ คือ รถกระบะมิตชูบิชิ รุ่นสตราด้า แอล 200 ดับเบิ้ลแคป (4 ประตู) สีเทา-ดำ เป็นรถที่คนร้ายขับมาจอดกันพื้นที่สำหรับให้รถระเบิดเข้ามาจอด นอกจากนั้นยังมีรถยนต์เก๋งสี่ประตูยี่ห้อนิสสัน สีแดง สภาพเก่า ทำหน้าที่ขับวนสังเกตการณ์ขณะวางระเบิด และยังมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีขาว-น้ำเงิน ตะกร้าหน้ารถติดสติกเกอร์ทะเบียนภาษาอังกฤษสำหรับเข้า-ออกประเทศเพื่อนบ้าน ใช้สำหรับขี่รับส่งมือระเบิดหลังก่อเหตุด้วย
สำหรับผู้ที่ทราบเบาะแสทั้งรถยนต์และยานพาหนะ สามารถโทรศัพท์หรือแฟกซ์แจ้งข้อมูลได้ที่หมายเลข 073 -220-264 หรือแจ้งโดยตรงที่ พ.ต.ท.สุรพงษ์ ชาติสุด รองผู้กำกับการ (รองผกก.) สภ.สุไหงโก-ลก หมายเลขโทรศัพท์ 08-4844-7555 08-7822-8555 หรือแจ้งผ่านอีเมล [email protected]
ชาวบ้านคอกกระบือรวมตัวร้องแม่ทัพอย่าถอนทหารพ้นพื้นที่
วันศุกร์ที่ 7 ต.ค. ที่บริเวณลานจอดรถหน้ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี มีชาวบ้านจากหมู่ที่ 1, 2, 3 ต.คอกกระบือ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี จำนวนกว่า 200 คน นำโดย นายศิลป์ ตัณทพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คอกกระบือ นายประเทือง วิเชียรประดิษฐ์ กำนันตำบลคอกกระบือ และ นางอำภา เวสสารศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดมหิงศาราม เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ท.อุดมชัย ธรรมาสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อเรียกร้องไม่ให้ทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ย้ายฐานออกจากหมู่บ้าน อย่างไรก็ดี พล.ท.อุดมชัย ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ พ.อ.อัตถเดช มาถนอม รองเสนาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ออกมารับหนังสือแทน
สำหรับสาเหตุที่ชาวบ้านต้องรวมตัวกันเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ก็เนื่องจากชาวบ้านได้ทราบข่าวว่าจะมีการย้ายฐานทหารที่ประจำการอยู่ในโรงเรียนวัดมหิงศารามออกจากพื้นที่โรงเรียน ทำให้ชาวบ้านเกรงว่าจะไม่ได้รับการดูแลความปลอดภัยอย่างทั่วถึงเหมือนที่ผ่านมา
นายศิลป์ ตัณทพงษ์ นายก อบต.คอกกระบือ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงชาวบ้านไทยพุทธเสียชีวิต 5 รายและได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางไปพบชาวบ้านและสั่งการให้กำลัง เจ้าหน้าที่ทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 g-hkไปตั้งฐานในหมู่บ้านเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ซึ่งชาวบ้านมีความมั่นใจและอุ่นใจมาตลอด แต่ระยะหลังทราบว่าจะมีการโยกย้ายกำลังพล จึงเกรงว่าจะไม่มีกำลังทหารมาดูแลอีกต่อไป
ทั้งนี้ พ.อ.อัตถเดช ได้หารือกับแกนนำชาวบ้านและรับปากว่าจะนำข้อร้องเรียนเสนอต่อแม่ทัพภาคที่ 4 โดยเร็วที่สุด
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พล.ต.อ.โกวิท ขณะลงพื้นที่ชายแดนใต้
2 ชาวบ้านคอกกระบือเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงแม่ทัพภาคที่ 4 (ภาพทั้งหมดโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)