"รายอฮัจญ์"สุดคึกคักที่ชายแดนใต้ สถิติเหตุร้ายเบาบาง
ชายแดนใต้คึกคักรับ "รายอฮัจญ์" พี่น้องมุสลิมร่วมละหมาดแน่นทุกมัสยิด จับมือขออภัยซึ่งกันและกัน และเชือดวัวแจกจ่ายผู้ยากไร้ ก่อนออกเยี่ยมเยียนญาติมิตร ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังเกิดเหตุรุนแรงขึ้นบ้างประปราย
ตามที่คณะกรรมการติดตามผลการดูจันทร์เสี้ยวตามปฏิทินอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ คตจ.ประกาศผลการติดตามการผลการดูฮิลาล (จันทร์เสี้ยว) ของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียในการเข้าเดือนซุลฮิจญะฮ์ โดยระบุผ่านหน้าเว็บไซต์ www.islaminthailand.org ว่า ทางการซาอุดิอาระเบียประกาศว่ามีผู้เห็นจันทร์เสี้ยวหลายแห่ง ดังนั้นในวันศุกร์ที่ 28 ต.ค.2554 จึงเป็นวันที่ 1 ซุลฮิจญะฮ์ 1432 วันเสาร์ที่ 5 พ.ย. เป็นวันวุกูฟ (วันอะเราะฟะฮ์ - 9 ซุลฮิจญะฮ์) และวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ย.เป็นวันอีดิ้ลอัฎฮา (10 ซุลฮิจญะฮ์) นั้น
ปรากฏว่าในวันที่ 6-7 พ.ย.ที่ผ่านมา ประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่างร่วมงานเฉลิมฉลองวันอีด (อีดิ้ลอัฎฮา) หรือรายอฮัจญ์ กันอย่างคึกคักตามประเพณีอันดีงามที่สืบทอดมาแต่อดีตกาล
เช้าวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ย. มีการละหมาดเนื่องในวันวันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา รายอฮัจยี หรือ "วันรายอกุรบาน" (ฮ.ค.1432) โดยทุกมัสยิดในพื้นที่ชายแดนใต้มีพี่น้องมุสลิมทั้งชาย หญิง และเด็กๆ ไปร่วมละหมาดอย่างคึกคัก เมื่อเสร็จพิธีก็ออกมาจับมือสลามให้กันเพื่อขออภัยซึ่งกันและกันจากที่เคยกระทำละเมิดหรือกระทำผิดต่อกันทั้งที่เจตนาและไม่ได้เจตนาในรอบปีที่ผ่านมา
ที่สนามกีฬาศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา สมาพันธ์องค์กรมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับคณะกรรมการมัสยิดและชุมชนมุสลิมในพื้นที่ ได้จัดพิธีละหมาดและจัดกิจกรรมเนื่องในวันวันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคี และ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นอีกด้วย
ทั้งนี้ กิจกรรมต่างๆ ก็เช่น การอ่านคุตบะห์ (บรรยายธรรม) ในเรื่อง ยุทธศาสตร์ทั้ง 7 ประการของท่านนบีมูฮำหมัด (ซ.ล.) และการเตรียมพร้อมของชาวมุสลิมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งชาวไทยมุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถือว่ามีศักยภาพและความได้เปรียบเรื่องการใช้ภาษา นอกจากนั้นก็มีการแจกทาน เลี้ยงอาหารเด็กและผู้ยากไร้ เป็นต้น โดยมีพี่น้องมุสลิมร่วมงานกว่า 1,500 คน
โอกาสนี้ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายเสรี พานิชกุล นายอำเภอเมืองยะลา และ นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา ได้ร่วมอวยพรให้กับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่อีกด้วย
ต่อมาในวันจันทร์ที่ 7 พ.ย. ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของวันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา ตามหมู่บ้านต่างๆ ในสามจังหวัด ได้มีพี่น้องมุสลิมเชือดวัว หรือ กุรบาน (เชือดสัตว์พลี) เพื่อนำเนื้อวัวไปทำกับข้าวจัดเลี้ยงให้กับญาติพี่น้องที่เดินทางไปเยี่ยมเยียนกัน และนำไปแจกจ่ายญาติมิตรรวมทั้งผู้ยากไร้
สำหรับการเชือดวัวเพื่อนำเนื้อวัวมาทำกับข้าวเลี้ยงในวันรายอ ถือเป็นประเพณีที่ทุกคนปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน ทำให้ทุกบ้านมีแกงเนื้อวัว และทำกับข้าวเลี้ยงผู้มาเยือน
ทั้งนี้ การทำกุรบาน หรือเชือดสัตว์พลีนั้น สัตว์ที่ใช้เป็นสัตว์พลีได้แก่ อูฐ แพะ แกะ และวัว แต่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะนิยมการเชือดวัว เพราะอูฐไม่มีเลี้ยงในพื้นที่ โดยวัวที่จะมาทำกุรบานต้องมีอายุ 2 ปีบริบูรณ์ ใช้ทำกุรบานได้ 7 ส่วน ดังนั้นจึงรวมกันทำ 7 คนต่อวัว 1 ตัวก็ได้ ส่วนแพะต้องมีอายุ 2 ปีบริบูรณ์ ทำกุรบานได้ 1 ส่วน แกะต้องมีอายุ 1 ปีบริบูรณ์ ทำกุรบานได้ 1 ส่วน สัตว์ที่จะทำกุรบานต้องอ้วนสมบูรณ์ ปราศจากสิ่งตำหนิหรือโรค ควรมีลักษณะสวย สง่า เนื้อสัตว์ที่ได้จากการเชือดจะแจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือเพื่อนบ้าน
ยิงเจ้าของปั๊มน้ำมันปัตตานีดับ
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พ.ย.เวลา 06.10 น.คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายวิชิต รตะไพบูลย์ อายุ 47 ปี เจ้าของสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 135 ถนนมะกรูด ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้นายวิชิตเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดในท้องที่บ้านรูสะมิแล หมู่ 1 ถนนเจริญประดิษฐ์ ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี ขณะนายวิชิตกำลังวิ่งออกกำลังกาย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
เวลา 21.30 น.วันเดียวกัน คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายมาหะมะ เจะแว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/1 บ้านตาแบ๊ะ หมู่ 3 ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี ทำให้นายมาหะมะได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะกำลังจอดรถจักรยานยนต์หน้าบ้านเลขที่ 63 บ้านตาแบ๊ะ หมู่ 3 ต.ลางา ซึ่งเป็นบ้านญาติของนายมาหะมะ
รัวกระสุนถล่มโรงพักใหม่ สภ.ปาลุกาสาเมาะ
ส่วนที่ จ.นราธิวาส เวลา 20.15 น.คนร้ายจำนวน 4-5 คนใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่กองบังคับการรักษาความปลอดภัย (บก.รปภ.) สภ.ปะลุกาสาเมาะแห่งใหม่ อ.บาเจาะ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง กระสุนถูกบริเวณอาคารบ้านพัก ทำให้กระจกชั้นบนได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ขณะเกิดเหตุมีกำลังพล ชุด รปภ.ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 1 ชุดปฏิบัติการ สอบสวนทราบว่าคนร้ายยิงมาจากบริเวณเทศบาลตำบลต้นไทร ต.ปะลุกาสาเมาะ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ยิงตอบโต้ ทำให้คนร้ายหลบหนีไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ที่ จ.สงขลา เวลา 16.00 น. คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดประกบยิง นายหามิต เจะสือมัน อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/19 หมู่ 2 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนสายเปียน-ควนหรัน หมู่ 1 ต.เปียน ขณะนายหามิตกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่เรื่องส่วนตัว
เพลิงไหม้รถกระบะคาปั๊มน้ำมันที่กาบัง
ส่วนที่ จ.ยะลา เวลา 04.30 น.ร.ต.ต.ธนาพิสิทธิ์ ศศิมณฑลกุล ร้อยเวร สภ.กาบัง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถกระบะที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านคชศิลา หมู่ 4 ต.บาละ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบซากรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ หมายเลขทะเบียน ผค 6584 สงขลา ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งคัน และไม่พบผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของรถ
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 03.00 น.มีชายฉกรรจ์ขับรถคันดังกล่าวมาจอด แล้วลงจากรถเดินไปเข้าห้องน้ำหลังปั๊ม และหายตัวไป ตอนแรกไม่มีใครสนใจ แต่หลังจากนั้นไม่นานได้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ตรวจสอบทราบว่าเจ้าของรถคันที่ถูกเพลิงไหม้ชื่อ นายสุไลมาน คามิ ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สงขลา จึงเชิญตัวมาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้นต่อไป
ค้นสะบ้าย้อยรวบผู้ต้องสงสัยพร้อมยาบ้า
ด้านผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ได้จัดกำลังร่วมกับตำรวจ สภ.สะบ้าย้อย และฝ่ายปกครอง เข้าพิสูจน์ทราบแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดในพื้นที่ ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 2 หลัง ได้แก่
1) บ้านเลขที่ 20/1 บ้านนาจะแหน หมู่ 5 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จับกุม นายมะนาวี ขะเร็มปุ อายุ 43 ปี เป็นเจ้าของบ้าน พร้อมยึดของกลางเป็นอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน
2) บ้านเลขที่ 1 บ้านมุนี หมู่ 4 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จับกุมผู้ต้องสงสสัยได้ 5 คน ประกอบด้วย นายซาการียา เลาะดีสม อายุ 30 ปี เจ้าของบ้าน นายอาหะมะซูไฮมี ดือราโอะ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 5 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา นายอับดุลมุตี หะยีบาราเฮง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150/2 หมู่ 6 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา นายอัมดี เจะกาเซ็ง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา และ นายซุลกีฟลี กายียุ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 บ้านมุนี หมู่ 4 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย พร้อมยึดของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 400 เม็ด (แบ่งเป็นถุง ถุงละ 200 เม็ด) อาวุธปืนพกขนาด .32 มีทะเบียน 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .38 มีทะเบียน 1 กระบอก ซองกระสุน และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1-3 บรรยากาศพิธีละหมาดและกิจกรรมเนื่องในวันวันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา ที่สนามกีฬาศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา
4 พี่น้องมุสลิมรับประทานอาหารร่วมกันในหมู่ญาติมิตร หลังพิธีเชือดวัวกุรบาน (ภาพทั้งหมดโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)