6 ข้ออุดช่องโหว่ รปภ.-จัดระเบียบชุดทหาร หลังคณะครูรือเสาะถูกรัวเอ็ม 16 เจ็บ 5
โรงเรียนใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ไม่น้อยกว่า 8 แห่งปิดการเรียนการสอนทันทีเมื่อวันศุกร์ที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุคนร้าย 5-6 คน แต่งกายคล้ายทหาร ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และ 9 มม.ยิงถล่มขบวนรถครูโรงเรียนบ้านละหาร หมู่ 2 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ ขณะเดินทางกลับบ้านในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะหลังเลิกเรียน ทำให้ครูได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 3 ราย
ขณะเดียวกันก็มีวงประชุมระหว่างผู้แทนหน่วยงานด้านความมั่นคงกับตัวแทนคณะครูเพื่อหารือถึงการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัย (รปภ.) หลายวงด้วยกัน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นชัดเจนว่าคณะครูที่ถูกโจมตีอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ย.2554 เวลา 15.30 น. โดยศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ศจฉ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.) รายงานว่า มีคนร้ายจำนวน 6 คนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และปืนพกขนาด 9 มม.ยิงใส่รถยนต์ของคณะครูโรงเรียนบ้านละหาร ต.สามัคคี อ.รือเสาะ ทำให้ครูได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย
1.นายสิทธิชัย วรรณจิตจรูญ อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการโรงเรยีนบ้านละหาร อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ที่ 1 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ
2.น.ส.สหะวรรณ วรรณจิตจรูญ อายุ 34 ปี ครูโรงเรียนบ้านละหาร และเป็นลูกสาวของนายสิทธิชัย อยู่บ้านเดียวกันกับบิดา
3.นางมะยุรี กะสิวุฒิ อายุ 59 ปี ครูโรงเรียนบ้านละหาร มีบาดแผลบริเวณศีรษะ
4.นางวิมลรัตน์ พรหมทองรัตน์ ครูโรงเรียนบ้านละหาร มีบาดแผลบริเวณแขน และท้อง
5.นางปนัดดา ขวัญตาล อายุประมาณ 30 ปี ครูโรงเรียนบ้านละหาร มีบาดแผลบริเวณต้นแขนซ้าย
ข้อมูลจากการสอบสวนของตำรวจ ทราบว่า หลังเลิกเรียนคณะครูโรงเรียนบ้านละหารได้ขับรถตามกันมาเพื่อมุ่งหน้ากลับที่พักในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะ เมื่อถึงบริเวณสามแยกบ้านเปาะลามะ หมู่ 2 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ มีคนร้ายจำนวน 5-6 คนยืนอยู่ข้างทาง แต่งกายครึ่งท่อนคล้ายทหาร ใส่เสื้อเกราะป้องกันกระสุน ถืออาวุธปืน เอ็ม 16 และปืนพกขนาด 9 มม.ลักษณะกำลังตั้งจุดตรวจลอย เมื่อขบวนรถของคณะครูแล่นผ่าน คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่จำนวนหลายนัด ทำให้ครูที่อยู่ในรถได้รับดังกล่าว หลังก่อเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ 3 คันหลบหนีไป
6 ข้อเสนออุดช่องโหว่ รปภ.-จี้จัดระเบียบชุดทหาร
วันรุ่งขึ้น มีวงประชุมระหว่างตัวแทนครูกับผู้แทนฝ่ายความมั่นคง 2 วง คือที่ อ.รือเสาะ มี พ.อ.สมพล ปานกุล รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกองพลทหารราบที่ 15 (รอง ผบ.ฉก.พล.ร.15) จ.ปัตตานี เป็นประธาน กับที่ห้องประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี มี พล.ต.สุภัช วิชิตการ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธาน
ผลการประชุมสรุปข้อสังเกตและข้อเสนอดังนี้
1.เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายความมั่นคงยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นช่องโหว่ของการ รปภ.และเกิดขึ้นภายใต้มาตรการ รปภ.ของเจ้าหน้าที่
2.ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงและแกนนำครูตรงกันว่า พื้นที่ อ.รือเสาะ ยังไม่ได้ใช้แผน รปภ.เต็ม 100% โดยข้อมูลจากแกนนำครูระบุว่า ช่วงปิดภาคเรียนมีการถอนกำลังหน่วยพัฒนาสันติออกจากพื้นที่ อ.รือเสาะ ถึง 19 หน่วย ทำให้กำลังทหารไม่พอสำหรับแผน รปภ.ครู
3.ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนร้ายก่อเหตุได้ทั้งๆ ที่มีมาตรการ รปภ.ก็คือ คนร้ายแต่งกายคล้ายทหาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และยังก่อเหตุอย่างรวดเร็วจนเจ้าหน้าที่ตัวจริงตั้งตัวไม่ทัน
4.แกนนำครูเรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคงจัดระเบียบเครื่องแบบและสัญลักษณ์ของเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนและการสวมรอยจากคนร้าย
5.การ รปภ.คณะครูในพื้นที่เสี่ยงยังบกพร่อง โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อระหว่างตำบล อำเภอ บางพื้นที่มีพฤติการณ์เกี่ยงกัน และการปฏิบัติระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองยังไม่เชื่อมต่อกัน 100% ต้องประสานงานกันให้มากกว่านี้
6.แกนนำครูเสนอว่าควรมีการเปิดสัมมนาใหญ่เพื่อกำหนดแนวทาง รปภ.ครู โดยเชิญทุกฝ่ายเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมทั้งกองกำลังภาคประชาชน
สำหรับความคืบหน้าทางคดี พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่และสามารถควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำและตรวจเทียบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ประเด็นคนร้ายแต่งกายคล้ายทหารมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเมื่อวันพุธที่ 28 ก.ย.2554 ก็เพิ่งเกิดเหตุคนร้ายประมาณ 15 คน แต่งกายเลียนแบบทหารพราน ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มทหารชุด รปภ.ครู โรงเรียนบ้านลาเมาะนอก หมู่ 3 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ขณะกำลังผูกเปลนอนพักผ่อนรอเวลาปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเย็น โดยคนร้ายสามารถเดินเข้าไปได้ถึงตัว เพราะกลุ่มทหารเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ด้วยกัน ทำให้ถูกจ่อยิงเสียชีวิตถึง 4 นาย บาดเจ็บสาหัส 2 นาย กระสุนลูกหลงถูกนักเรียนบาดเจ็บอีก 1 คน
บึ้มชุด รปภ.ครู เจ็บ 2 – กู้ระเบิดป่วนเมืองอีก 3 จุด
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 18 พ.ย.เมื่อเวลา 11.30 น. ขณะที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 จำนวน 6 นาย ใช้รถจักรยานยนต์ 3 คันเป็นพาหนะ กำลังเดินทางกลับฐานหลังปฏิบัติหน้าที่ รปภ.คณะครูที่ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านบินยา อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นั้น ปรากฏว่าระหว่างทางในท้องที่หมู่ 4 บ้านสูงาบารู ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง ได้ถูกคนร้ายลอบจุดชนวนระเบิดที่วางดักไว้ริมถนน แรงระเบิดทำให้ ส.อ.กองสินธ์ จำนำกำภา อายุ 49 ปี เสียชีวิต และ พลทหารสงกรานต์ พรหมไตร อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ย.เวลา 09.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งแหตุพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลยะรัง จึงจัดกำลังเข้าปิดกั้นพื้นที่ และประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) เข้าตรวจสอบ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในกระป๋องน้ำอัดลม จุดชนวนด้วยระบบการตั้งเวลาจากนาฬิกาแบบดิจิตอล ภายในบรรจุดินอิมัลชั่นผสมด้วยแอมโมเนียมไนเตรทเป็นดินระเบิด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บกู้ด้วยการยิงทำลาย
วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดบริเวณตู้บริการเงินสด (เอทีเอ็ม) ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอมายอ บ้านมายอ หมู่ 1 ต.มายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี ทำให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง รูปแบบระเบิดคล้ายกับที่คนร้ายใช้ก่อกวนในหลายอำเภอของ จ.ปัตตานี เมื่อวันพุธที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านั้น เมื่อกลางดึกวันพุธที่ 16 พ.ย.ตำรวจ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยบนเกาะกลางถนนหน้าร้านดวงอมร เลขที่ 220/4 - 220/6 ถนนพิพิธภักดี ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบวัตถุต้องสงสัยเป็นกระป๋องสเปรย์น้ำยาดับกลิ่นวางอยู่บนพื้นหญ้า ตรวจสอบอย่างละเอียดพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยระบบตั้งเวลา โดยตั้งเวลาระเบิดไว้ที่ 19.04 น.วันที่ 25 ต.ค.2554 ซึ่งเป็นวันที่เกิดระเบิดกว่า 30 จุดในเขต อ.เมืองยะลา เจ้าหน้าที่จึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าทำการเก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย คาดว่าเป็นระเบิดชุดเดียวกับที่คนร้ายวางป่วนเมืองเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ซึ่งเป็นวันครบรอบ 7 ปีเหตุการณ์ตากใบ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : บรรยากาศการประชุมระหว่างผู้แทนหน่วยงานความมั่นคงกับแกนนำคณะครูเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เมื่อวันศุกร์ที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)