ฝนหนัก-ชายแดนใต้น้ำนอง แหลมโพธิ์ถนนขาด ชาวบ้านห่วงอาหารหมด
ใต้ระทมเจอน้ำท่วมหลายพื้นที่หลังฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ศูนย์เตือนภัยทุกศูนย์เตือนระวังน้ำหลาก ดินถล่ม ที่แหลมโพธิ์ ปัตตานี ซึ่งเคยเจอพายุถล่มเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดถนนขาด ต.ตะโละกาโปร์ น้ำสูง ชาวบ้านห่วงอาหารขาดแคลน วอนจัดระบบช่วยเหลืออย่าให้วุ่นเหมือนปีก่อน ส่วนที่นราธิวาส-ยะลา เริ่มเจิ่งนอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเตรียมถุงยังชีพหมื่นชุดช่วยประชาชน ด้านสถานการณ์ในพื้นที่รอบสัปดาห์ยังมีป่วนประปราย จ่อยิง อรบ.ดับคารถที่ยะลา ฆ่า 2 หนุ่มค้าเฟอร์นิเจอร์ ส่วนปฏิบัติการฝ่ายความมั่นคง บุกรวบผู้ต้องสงสัยยิงตำรวจปะนาเระ วิสามัญฯผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่รือเสาะ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบสัปดาห์นี้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งเป็นเพราะฝนตกหนัก และเริ่มมีน้ำท่วมฉับพลันกับน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งเคยเกิดพายุฝนถล่มสร้างความเสียหายอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดทางไป ต.แหลมโพธิ์ ก็ถูกคลื่นซัดถนนขาด
ทุกศูนย์เตือนใต้ระวังฝนหนัก-น้ำท่วม-ดินถล่ม
กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้" ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 23 พ.ย.2554 ความว่า ในช่วงวันที่ 23-24 พ.ย.มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีลงไป มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มริมน้ำ บริเวณ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ยังคงต้องระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง
ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ด้วย
ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกประกาศให้อาสาสมัครเครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก โดยเนื้อหาระบุว่า เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดินบนภูเขาชุ่มน้ำอาจถล่มลงมาได้ และขณะนี้มีน้ำหลากในบางพื้นที่แล้ว จึงขอให้อาสาสมัครเครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 25 พ.ย.นี้
ขณะที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ได้ออกประกาศเตือนในวันที่ 23-25 พ.ย.ว่า จะมีฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ โดยเฉพาะ อ.ไชยา อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี, อ.นาโยง อ.ย่านตาขาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง, อ.พรหมคีรี อ.พิปูน อ.นบพิตำ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช, อ.ปากพะยูน อ.ตะโหมด อ.ป่าบอน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง, อ.นาทวี จ.สงขลา, อ.ยะรัง จ.ปัตตานี, อ.เมือง จ.ยะลา, อ.สุไหงปาดี อ.เจาะไอร้อง อ.แว้ง และ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มได้
ปัตตานีอ่วมหลายอำเภอ-แหลมโพธิ์ถนนขาดแล้ว
ด้านสถานการณ์จริงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปรากฏว่ามีฝนตกหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำทะลักเข้าท่วมหลายอำเภอของทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ปัตตานี น้ำท่วมขังที่หมู่ 10 บ้านบาโงมูหลง ต.เตราะบอน เขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี, บ้านจางา ต.ปะกาฮารัง ต.บาราเฮาะ และ ต.ตะลุโบะ อ.เมือง นอกจากนั้นยังมีน้ำเจิ่งนองที่ อ.ยะรัง อ.แม่ลาน อ.หนองจิก อ.โคกโพธิ์ รวมถึงที่ ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง
นางแจะแย มูซอ ชาวบ้าน ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุฝนเมื่อปีที่แล้ว เล่าว่า ปีนี้แม้จะยังไม่มีพายุเข้า แต่น้ำก็เข้าบ้านแล้ว เมื่อก่อนบ้านเป็นบ้านไม้ ยกพื้น น้ำเข้ามาแค่ใต้ถุนบ้าน แต่หลังจากพายุเข้าเมื่อปีก่อน ทางหน่วยงานราชการมาสร้างบ้านหลังใหม่ให้ ไม่ได้สร้างแบบยกพื้น ทำให้น้ำท่วมบ้านหมด ตอนนี้กำลังขนของขึ้นที่สูง ส่วนด้านนอกน้ำท่วมถึงเอวแล้ว ถนนที่จะไป ต.แหลมโพธิ์ ตัดขาดแล้วเพราะถูกคลื่นซัด
สำหรับเรื่องการช่วยเหลือ นางแจะแย บอกว่า เป็นห่วงเรื่องอาหารการกิน เพราะขณะนี้ยังพอมีอาหารอยู่บ้าง แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ไปจะมีพอหรือไม่ เพราะเป็นคนหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้เตรียมกักตุนอาหารไว้ล่วงหน้า หากจะมีหน่วยงานไหนมาให้ความช่วยเหลือ ก็ขอให้มีระบบการแจกจ่ายอย่างทั่วถึง อย่าแจกเหมือนปีที่แล้ว เพราะจะทำให้เกิดปัญหาในชุมชนเพิ่มขึ้นอีก คนที่ได้ก็ได้ไป คนที่ไม่ได้ก็ไม่เคยได้ ผู้นำชุมชนก็ไม่ได้ทำอะไร พอมีคนเอาของมาแจกก็เอาไปให้แต่พรรคพวกตัวเอง ฉะนั้นทุกฝ่ายมีประสบการณ์มาแล้ว อย่าให้เกิดซ้ำอีกเลย
อนึ่ง เมื่อปลายปีที่แล้วเกิดพิบัติภัยจากพายุฝนถล่มและคลื่นซัดที่อำเภอริมทะเลของ จ.ปัตตานี โดยเฉพาะที่บ้านดาโต๊ะ บ้านแหลมโพธิ์ ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง หลายตำบลของ อ.สายบุรี รวมถึงแหลมนก อ.เมือง และบ้านตันหยงเปาว์ อ.หนองจิก ทำให้บ้านเรือนหลายสิบหลังถูกพายุพัดหายไปจนเหลือแต่ตอ ที่พังบางส่วนก็มีอีกหลายร้อยหลัง ขณะที่เรือยนต์และอวนสำหรับประกอบอาชีพประมงก็พินาศยับเยิน
นราฯ-ยะลาน้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่
ส่วนสถานการณ์น้ำใน จ.นราธิวาส ปรากฏว่ามีน้ำท่วมขังจากฝนตกหนักและน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำหลายสายในหลายพื้นที่ เช่น ต.สุวารี อ.รือเสาะ, หลายตำบลใน อ.ระแงะ, ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง
จ.ยะลา เกิดน้ำท่วมฉับพลันสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตรกรรม ได้แก่ หมู่ 1, 2, 3, 4, 5 ของ ต.ลำใหม่ หมู่ที่ 7 ต.ลำพะยา หมู่ 3, 4 ต.พร่อน หมู่ 2, 3, 4, 5, 6 ของ ต.บันนังสาเร็ง หมู่ 3, 4, 13 ของ ต.สะเตงนอก ทั้งหมดอยู่ใน อ.เมืองยะลา ทำให้ประชาชนเดือดร้อน 137 ครัวเรือน ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยจำนวน 63 คน 16 ครัวเรือน บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายบางส่วน 1 หลัง และโรงเรียนบ้านธารน้ำผึ้ง หมู่ 13 ต.สะเตงนอก เสียหายบางส่วน และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย คือ นายมะยีดิง สาและมิง อายุประมาณ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126/1 หมู่ 7 ต.ลำพะยา เพราะถูกกระแสน้ำพัดจมน้ำ
นอกจากนั้นยังมีน้ำท่วมในพื้นที่หมู่ 5 ต.อาซ่อง อ.รามัน น้ำได้ทะลักท่วมถนนทางเข้าบ้านกำปงบาโงย (บ้านย่อยของบ้านสะโต) ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยที่มีบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำสายบุรี คือ ต.บาลอ ต.กายูบอเกาะ ต.อาซ่อง ต.เกะรอ และ ต.ท่าธง อ.รามัน ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนในพื้นที่ อ.กรงปินัง อ.บันนังสตา อ.ธารโต อ.เบตง อ.ยะหา และ อ.กาบัง ให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม
ส่วนถนนสายหลักระหว่างจังหวัด คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 (ยะลา-ปัตตานีสายใหม่) ปรากฏว่าช่วงที่ฝนตกหนักนั้น ทำให้น้ำป่าไหลจากเทือกเขาในพื้นที่ ต.ยุโป อ.เมืองยะลา เข้าท่วมถนนสาย 418 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 34-35 ระยะทางยาวประมาณ 300 เมตร แต่ขณะนี้ได้แก้ไขจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย. น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมย่านตลาดเก่า อ.เมืองยะลา รวม 3 ชุมชน คือ ชุมชนโรงเรียนเทศบาล 5 ชุมชนวัดยะลาธรรมาราม และชุมชนจารูพัฒนา ขณะที่ชุมชนมัรกัสยะลา (ศูนย์ดะวะห์) หมู่ 3 ต.สะเตงนอก ก็ถูกน้ำจากบึงแบเมาะเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เช่นกัน ทำให้ทางเทศบาลต้องเร่งสูบน้ำ และมีรายงานเด็กนักเรียนชายอายุประมาณ 16 ปี ถูกกระแสน้ำพัดหายไป
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4 ) ได้ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยในหน่วยทหาร จำนวน 21 ศูนย์ ครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อเตรียมความพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จัดเตรียมถุงยังชีพจำนวน 10,000 ถุง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างทันท่วงทีด้วย
จ่อยิง อรบ.รามันดับคาพวงมาลัยรถ
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อเวลา 08.45 น.วันพุธที่ 23 พ.ย. พ.ต.ท.จิระศักดิ์ วิกรัยเจริญยิ่ง สารวัตรใหญ่ สภ.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งพบศพในรถกระบะซึ่งจอดทิ้งอยู่ข้างทางในท้องที่หมู่ 5 บ้านเกาะ ต.ท่าธง จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน บฉ 3665 ยะลา ภายในรถมีศพ นายสมเกียรติ จันทบุรี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/1 หมู่ 1 บ้านโต๊ะพราน ต.ท่าธง ฟุบคาพวงมาลัย สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่ศีรษะ 1 นัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง
สอบสวนทราบว่า นายสมเกียรติเป็นอาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถกระบะออกจากบ้านเมื่อตอนเย็นวันอังคารที่ 22 พ.ย.แล้วหายไป กระทั่งมีผู้พบเห็นรถกระบะจอดทิ้งอยู่ข้างทางในท้องที่ ต.ท่าธง ตั้งแต่คืนวันที่ 22 พ.ย. กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นก็ยังจอดอยู่ และเห็นมีศพอยู่ในรถ จึงแจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่รู้จักกับผู้ตาย โดยนั่งมาในรถด้วยกัน และใช้อาวุธปืนจ่อยิงจนเสียชีวิตเนื่องจากตกลงอะไรบางอย่างไม่ลงตัว
ถล่มฐานทหารพรานเจ็บ 1 - อุกอาจฆ่า 2 หนุ่มค้าเฟอร์นิเจอร์
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ 22 พ.ย. เวลา 18.50 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงถล่มจุดตรวจของอาสารักษาดินแดน (อส.) อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อย 4302 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เข้าปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราว บริเวณสามแยกทางเข้าฟาร์มตัวอย่าง หมู่ 3 ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ลูกระเบิดตกด้านหลังฐาน ทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) พิเชษฐ์ ทองใหญ่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทของกลุ่มก่อความไม่สงบ
วันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย.เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งพบศพชาย 2 ศพ บริเวณป่าริมถนนบ้านจุฬาภรณ์ 5 หมู่ 9 ต.บองอ อ.ระแงะ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. และมีลวดมัดมือ มีผ้าคลุมปิดยังใบหน้า คาดว่าถูกจี้บังคับมาจากพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส แล้วพามาก่อเหตุยิงทิ้งบริเวณดังกล่าว ตรวจสอบหลักฐานผู้ตายจนทราบว่าคือ นายสงวน เนื้องาม อายุ 45 ปี เช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กับ นายฉลอง ไม่ทราบนามสกุลและที่อยู่ อายุ 45 ปี
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสงวนกับนายฉลองได้ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บค 9179 ปัตตานี บรรทุกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหวายมาเต็มกระบะ เร่ขายและเก็บเงินจากลูกค้าตามหมู่บ้านในพื้นที่ ต.มะรือโบออก ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ระหว่างทางมีคนร้ายประมาณ 3-5 คน ใช้อาวุธปืนจี้บังคับทั้งคู่ให้ลงจากรถ ก่อนใช้ลวดมัดมือ ใช้ผ้าปิดหน้า แล้วนำขึ้นรถกระบะขับไปยังจุดเกิดเหตุ จากนั้นให้ทั้งคู่ลงจากรถ และใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะจนเสียชีวิต แล้วคนร้ายก็ขับรถกระบะบรรทุกเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดหลบหนีไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
รวบผู้ต้องสงสัยยิงรองนายก อบต.-ตำรวจ
ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย. หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ และสนธิกำลัง 3 ฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย โรงเรียนปอเนาะนะห์ฏอตุดดินนิลอิสลามีล์ (ปอเนาะบาบอลี) ที่บ้านบือราแง ต.น้าดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี และสามารถควบคุมตัว นายมาฮามะ วาจิ อยู่บ้านเลขที่ 30/2 บ้านปาเซปูเต๊ะ หมู่ 2 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยยิง นายฮามิ อุมา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2554 เอาไว้ได้ โดยนายมาฮามะยังเป็นผู้ต้องสงสัยยิงตำรวจ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตานี เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ด้วย เจ้าหน้าที่จึงใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกเชิญตัวนายมาฮามะไปซักถาม
วิสามัญฯผู้ต้องหาป่วนใต้ดับ 1 รวบอีก 5 ยึดอาวุธเพียบที่รือเสาะ
เวลา 03.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมายเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบที่บ้านไม่มีเลขที่ ในป่ายางพารา บ้านธนูศิลป์ บ้านย่อยของบ้านตะบิงรูโต๊ะ หมู่ 8 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส แต่ขณะเข้าตรวจค้น ปรากฏว่ามีผู้ต้องสงสัยใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการยิงปะทะกันประมาณ 10 นาที หลังเสียปืนสงบลง ฝ่ายเจ้าหน้าที่ปลอดภัย แต่ฝ่ายผู้ต้องสงสัยภายในบ้านเสียชีวิต 1 ราย และสามารถควบคุมตัวไว้ได้อีก 2 ราย ประกอบด้วย
1.นายไซมิง มะหลี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 บ้านตันหยง หมู่ 5 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงระบุว่า นายไซมิงเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ระดับผู้บังคับหน่วยทหาร มีหมายที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (หมาย พ.ร.ก.) จำนวน 2 หมาย และหมายจับที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) อีก 3 หมาย ทั้งหมดในท้องที่ จ.นราธิวาส
2.นายอาดูนัน ดิแรตานา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/1 หมู่ 6 ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา พบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน จึงควบคุมตัวไปซักถามที่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30
3.นายสัยรี อาบูวะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94/3 หมู่ 1 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา ซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเช่น จึงควบคุมตัวไปซักถามขั้นต้นที่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30
นอกจากนั้น ยังได้ขยายผลควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 3 ราย พร้อมยึดยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ อาทิ อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาว ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวอัดลม จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุน เครื่องกระสุน และประทัดยักษ์ 8 ลูก เป็นต้น จึงยึดเอาไว้เป็นหลักฐานและส่งตำรวจท้องที่ดำเนินการต่อไป
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1-3 สภาพน้ำเจิ่งนองในเขต อ.เมืองยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
4 น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตรกรรมใน จ.ปัตตานี (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังหนิ)
อ่านประกอบ:
ครบปีคลื่นถล่มบ้านดาโต๊ะ...บทเรียนความล่าช้าเยียวยา-ฟื้นฟู ระวังน้ำท่วมปี 54 ซ้ำรอย!