ใต้ป่วน 7 จุด"ยะลา-ปัตตานี" แม่ทัพภาค 4 ชี้ "เรื่องของคนตัวเล็กต้องทำเสียงดัง"
ใต้ป่วนหนักช่วงใกล้ปีใหม่ คนร้ายกระจายกำลังยิงถล่มฐานทหาร-ตำรวจ-โรงพักใน 4 อำเภอของ จ.ยะลา และ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หนักสุดที่ สภ.ลำใหม่ เจอยิงถล่มด้วยเอ็ม 79 ถึง 5 ลูก แต่โชคดีไม่มีบาดเจ็บ ส่วนที่ อ.กะพ้อ ซุ่มยิง อส.สังเวย 2 นาย ขณะที่ อ.มายอ บุกยิงเจ้าของร้านชำ วางระเบิดดักชุดตรวจที่เกิดเหตุ ตูมสนั่นตำรวจ-ทหารเจ็บ-ชาวบ้านเจ็บกว่า 20 ราย ขณะที่แฟลตตำรวจศรีสาครโดนด้วย ด้านแม่ทัพภาค 4 ยันสถานการณ์ดีขึ้น เหตุร้ายน้อยลง แต่ที่เกิดรุนแรงขนาดใหญ่เพราะคนร้ายเหลือน้อยจึงต้องใช้เสียงดังข่มขู่
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงใกล้ปีใหม่เริ่มร้อนระอุ โดยเมื่อช่วงเย็นถึงค่ำของวันพุธที่ 21 ธ.ค.2554 เกิดเหตุรุนแรงในห้วงเวลาใกล้เคียงกันถึง 7 จุด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน โดยเหตุการณ์กระจายอยู่ใน 2 จังหวัดคือ จ.ยะลา กับปัตตานี ประกอบด้วย
1.เวลา 18.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงรบกวนฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 4413 หน่วยเฉพาะกิจ ตชด.441 ตั้งฐานอยู่ในสวนยางพารา บ้านจาเราะแป หมู่ 3 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา โดยยิง 2 ชุด 20 นัด หลังเกิดเหตุ ตชด.ในฐานได้ยิงตอบโต้จนทำให้คนร้ายล่าถอยไป โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
2.เวลา 18.30 น. คนร้ายอย่างน้อย 4 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงใส่อาคารของ สภ.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ถึง 5 นัด แต่กระสุนตกบริเวณด้านหลังโรงพัก ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้อย่างดุเดือดราว 5 นาที ก่อนที่คนร้ายจะล่าถอยไป พร้อมกับโปรยตะปูเรือใบบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 409 (ลำใหม่-เปาะเส้ง) ที่ใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ขณะที่ฝ่ายตำรวจและทหารจัดกำลังออกติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด
3.เวลา 18.30-18.45 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงรบกวนฐานปฏิบัติการในพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา 2 แห่ง ได้แก่
- ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4703 (ร้อย.ทพ.4703) ตั้งอยู่ที่บ้านแปแจง หมู่ 5 ต.สะเอะ อ.กรงปินัง เจ้าหน้าที่ทหารยิงตอบโต้จนคนร้ายหลบหนีไป ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
- ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารราบที่ 1411 (ร้อย ร.1411) ที่บ้านอุเป หมู่ 9 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง เจ้าหน้าที่ทหารยิงตอบโต้จนคนร้ายล่าถอยไป ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
4.เวลา 18.45 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 และอาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงใส่ฐานปฏิบัติการร้อย ร.7021 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 ตั้งฐานอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) ท้องที่บ้านปาลอบาตะ หมู่ 13 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา กระสุนปืนตกในฐาน 2 นัด ระเบิด 1 นัด แต่อีกนัดไม่ระเบิด ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 4 ราย คือ นายมูฮำหมัดนูร มะ อายุ 17 ปี อาการสาหัส รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา นายการิน มะ อายุ 54 ปี อาการสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาในเวลาต่อมา นางแมะซง มาติเมาะ บาดเจ็บเล็กน้อย และ นางแมะ ไม่ทราบนามสกุล ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบันนังสตา
5.เวลา 18.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ทำให้ อส.เสียชีวิต 2 นาย คือ อส.กูมักตา วาบา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 4 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ และ อส.ก่อเดช หมานเหาะ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/1 หมู่ 6 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ เหตุเกิดบนทางหลวงหมายเลข 4060 บ้านตะโละดือรามัน หมู่ 4 ต.ตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ ขณะเจ้าหน้าที่ อส.ทั้งสองนายพร้อมเพื่อนอีก 1 คน กำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปเข้าเวรที่ศูนย์บำบัดยาเสพติด บ้านโต๊ะแน หมู่ 9 ต.ตะโละดือรามัน โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงปืนเอ็ม 16 และอาก้าของ อส.ทั้งสองนายไปด้วย ส่วน อส.กูบีรอ มือฆะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 3 ต.ตะโละดือรามัน ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกัน ได้รับบาดเจ็บ
6.เวลา 18.40 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิงเจ้าของร้านขายของชำไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ที่บ้านมายอ หมู่ 1 ต.มายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี ทำให้ นางสุจินดา สืบเส้น อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคนร้ายทำทีเข้าไปซื้อน้ำอัดลม เมื่อเจ้าของร้านเผลอจึงใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดจ่อยิง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ แต่ได้ถูกคนร้ายจุดชนวนระเบิดที่วางดักไว้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 22 ราย โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในกล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ วางซุกไว้ในกระถางต้นไม้หน้าร้าน
สำหรับรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 22 ราย แบ่งเป็น
- ชุดปฏิบัติการรบพิเศษ 105 (ชป.รพศ.105) จำนวน 5 นาย ได้แก่ ร.ท.ประสิทธิ์ สันติวัฒน์, จ.ส.อ.มนูญ ชมชื่น, ส.อ.เอนก เนียมถนอม, ส.อ.คณาวุฒิ น้อยสะอาด และ ส.อ.จตุรงค์ ชัยศิรินทร์
- ตำรวจ สภ.มายอ จำนวน 10 นาย ได้แก่ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ทองแท้, พ.ต.ท.พิชิต คณะเมือง, พ.ต.ท.พนม วิไลสวัสดิ์, ร.ต.อ.จรูญ ชัยกิจการณ์, ร.ต.ท.ณชพล ชูเชิด, ด.ต.ดาฮารี กอและ, ส.ต.อ.ธนชิต ยีอันฉาย, ส.ต.อ.ธนวัฒน์ ชูมณี, ส.ต.อ.เอกพงศ์ กมลรัตน์ และ ส.ต.ท.เสน่ห์ จินหอม
- เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอมายอ 4 นาย ได้แก่ อส.อุทัย ยาปริก, อส.อับดุลเลาะห์ เทพชูจัณท์, อส.อิสมาแอ มูซอ และ อส.มะรอแม อาแด
- ประชาชน 3 ราย ได้แก่ นายอับดุลลเลาะ สามะ, น.ส.อาพา เทียมดี และ นางศศิธร ขันรัตนมโนกร
7.เวลา 19.45 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงใส่ฐานปฏิบัติการย่อยของหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 26 ตั้งอยู่ที่บ้านบูเกะ หมู่ 3 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี แต่กระสุน 3 นัดตกบริเวณนอกฐาน จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าทั้ง 7 เหตุการณ์เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ถล่มซ้ำแฟลตตำรวจศรีสาคร
ส่วนในช่วงกลางดึกคืนวันอังคารที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.30 น.เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงใส่แฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.ศรีสาคร ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 บ้านฆอรอกาเว ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เคราะห์ดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาในช่วงเช้าวันพุธที่ 21 ธ.ค. พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผู้กำกับการ สภ.ศรีสาคร ได้นำกำลังตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่ามีจุดที่ถูกคนร้ายโจมตี 2 จุดใหญ่ๆ กล่าวคือ
จุดที่ 1 เป็นห้องพักชั้น 4 และ 5 ของอาคารแฟลตตำรวจ เจ้าหน้าที่พบฝ้าเพดานมีร่องรอยถูกกระสุนเอ็ม 79 เป็นรูโหว่ มีเศษซากของกระสุนที่ระเบิดแล้วกระจายเกลื่อน โดยบริเวณด้านหลังอาคารพบปลอกกระสุนเอ็ม 79 ตกอยู่ 5 ปลอก และยังมีเศษชิ้นส่วนของระเบิดปลากระป๋องชนิดขว้างอีก 5 ชุด ขวดน้ำมันที่ดัดแปลงเป็นระเบิดเพลิง 15 ชุด และปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 อีกจำนวนหนึ่ง
จุดที่ 2 เป็นบ้านพักข้าราชการตำรวจ พบหลังคามีร่องรอยถูกกระสุนเอ็ม 79 เป็นรูโหว่ ใกล้กันพบรถกระบะและรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่หน้าบ้านพักถูกสะเก็ดระเบิดปลากระป๋องได้รับความเสียหายเล็กน้อย 4 คัน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่าละเมาะด้านหลังแฟลตตำรวจ เมื่อสบโอกาสได้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงถล่มใส่อาคารแฟลตและบ้านพักตำรวจ พร้อมขว้างระเบิดปลากระป๋อง 5 ลูก และระเบิดเพลิงอีก 15 ลูก รวมทั้งกราดยิงซ้ำด้วยปืนเอ็ม 16 จากนั้นคนร้ายได้แยกย้ายกันหลบหนีไป เบื้องต้นคาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน
อนึ่ง สำหรับแฟลตตำรวจ สภ.ศรีสาคร เคยถูกคนร้ายวางระเบิดแบบคาร์บอมบ์มาแล้วเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) ในขณะนั้น ถูกย้ายไปช่วยราชการ
แม่ทัพ 4 ย้ำกลุ่มป่วนใต้เหลือน้อย เปรียบคนตัวเล็กต้องทำเสียงดัง
ด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ให้สัมภาษณ์พิเศษ "ศูนย์ข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา" ที่กรุงเทพฯ โดยระบุตอนหนึ่งถึงแนวโน้มสถานการณ์ชายแดนใต้ในช่วงสิ้นปีนี้ว่า ได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวมาตลอดว่าจะมีเหตุร้ายช่วงใกล้ปีใหม่ จึงได้สั่งการให้เฝ้าระวังป้องกันอย่างเต็มที่ แต่การแจ้งเตือนก็ไม่ถือว่าผิดปกติมาก เพราะพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทยแม้แต่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็มีข่าววินาศกรรมเช่นกัน
ส่วนผลการปฏิบัติในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงที่ผ่านมานั้น พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า เหตุรุนแรงลดลง และจำนวนผู้ก่อเหตุรุนแรงก็ลดลง แต่กลับเกิดวาทกรรมใหม่ว่า "เหตุร้ายลด แต่ความรุนแรงเพิ่ม" ซึ่งหมายความว่าคนร้ายก่อเหตุได้น้อยลงในแง่จำนวน แต่เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งมีความรุนแรงและความเสียหายเพิ่มมากขึ้น
"ผมคิดว่าเป็นธรรมดา เมื่อเขามีจำนวนลดน้อยลง และก่อเหตุได้น้อยลง ก็ต้องทำให้ดูรุนแรงขึ้น เหมือนคนตัวเล็กก็ต้องทำเสียงดังให้คนกลัว เพราะยุทธศาสตร์ของกลุ่มผู้ก่อการยังมุ่งเน้นสร้างความหวาดกลัวเพื่อขู่บังคับมวลชน" พล.ท.อุดมชัย กล่าว
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ 20 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยในพื้นที่ และประชุมร่วมกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงทั้งของฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่ห้องประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดย ผบ.ทบ.ได้สั่งให้เพิ่มความเข้มของมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในเขตเมือง ย่านชุมชน และ บทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ พร้อมเน้นย้ำทุกหน่วยให้เพิ่มความระมัดระวัง อย่าประมาท โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่
ยิงรายวันเพียบ-ตำรวจดวลปืน 2 วัยรุ่นต้องสงสัยก่อความไม่สงบ
ส่วนเหตุการณ์ความไม่สงบตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ เริ่มจากเมื่อวันอังคารที่ 20 ธ.ค. เวลา 10.45 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ยิง นายมะรอกิ ดอเลาะ อายุ 30 ปี อาชีพช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ อยู่บ้านเลขที่ 89 บ้านโผงโผงใน หมู่ 8 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะนายมะรอกิยืนคุยกับเพื่อนอยู่หลังบ้านเลขที่ 12 บ้านโผงเผงใน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นเหตุขัดแย้งส่วนตัว
เวลา 16.15 น. ขณะที่ตำรวจ สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ กำลังปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางและรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) เมื่อถึงบ้านศาลาลาก หมู่ 7 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ พบชายวัยรุ่น 2 คนลักษณะมีพิรุธ กำลังขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีแดง หมายเลขทะเบียน กฮย 83 ปัตตานี จึงสั่งให้หยุดรถเพื่อขอตรวจค้น แต่วัยรุ่น 2 คนดังกล่าวได้เร่งเครื่องรถหลบหนี กระทั่งถึงบ้านควนลาแม หมู่ 3 ต.นาเกตุ รถของผู้ต้องสงสัยกับรถของเจ้าหน้าที่เกิดเฉี่ยวชนกัน ทำให้รถของผู้ต้องสงสัยล้มคว่ำ ส่วนรถของเจ้าหน้าที่เสียหลักตกลงไปข้างทาง ฝ่ายผู้ต้องสงสัยจึงชักอาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้ทั้งสองฝ่ายยิงตอบโต้กัน สุดท้ายฝ่ายผู้ต้องสงสัยได้ทิ้งรถจักรยานยนต์วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ายางพาราข้างทาง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์จุดเกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 2 ปลอก ขนาด 5.56 มม.อีก 10 ปลอก กระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล 1 ใบ ข้างในพบบัตรประชาชนระบุชื่อ นายอาลียะ (สงวนนามสกุล) ภูมิลำเนาอยู่ใน อ.โคกโพธิ์ นอกจากน้ั้นยังพบซองกระสุนปืน 1 ซองพร้อมเครื่องกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 20 นัด ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ล้มคว่ำอยู่นั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าติดป้ายทะเบียนปลอม โดยรถคันดังกล่าวแจ้งหายไว้ที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ต้องสงสัยทั้งสองรายเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบ
วันจันทร์ที่ 19 ธ.ค.เวลา 20.55 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายมะรีกี อับดุลรี อายุ 24 ปี อาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า อยู่บ้านเลขที่ 17/9 บ้านดูซง หมู่ 2 ต.พร่อน อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะนายมะรีกียืนอยู่ในบ้านของตนเองซึ่งเปิดเป็นร้านตัดเย็บเสื้อผ้า โดยคนร้ายทำทีเป็นนำกางเกงยีนส์มาซ่อม เมื่อสบโอกาสได้ชักปืนจ่อยิงจนนายมะรีกีได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจให้น้ำหนักไปที่้ความขัดแย้งส่วนตัว
ปูพรมค้น"ลาโละ รือเสาะ" ยึดยุทโธปกรณ์-ปะทะเดือดผู้ต้องหาดับ 1
ด้านผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เมื่อเวลา 06.00 น.วันอังคารที่ 20 ธ.ค. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ได้ประสานหน่วยในพื้นที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณป่ายางพาราท้ายหมู่บ้าน บ้านกูยิ หมู่ 4 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พบอาวุธปืนเอ็ม 16 เอ 4 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 5 ซอง และปืนชนิดอื่นอีก 2 กระบอก จึงยึดไปตรวจสอบ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันยังขยายผลตรวจค้นป่ายางพาราห่างจากจุดเดิมประมาณ 50 เมตร ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกปรับพื้นที่เป็นลานสำหรับรวมพลและวางแผนของกลุ่มก่อความไม่สงบ พบของกลางอีก 34 รายการ ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและอุปกรณ์ดำรงชีพในป่า จึงนำส่งเจ้าหน้าที่เพื่อเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ธ.ค.เวลา 06.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 สนธิกำลังร่วมกับหน่วยต่างๆ เข้าปิดล้อมตรวจค้นพิสูจน์ทราบแหล่งซุกซ่อนอาวุธยุทโธปกรณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ บริเวณสวนยางพาราเขตรอยต่อระหว่างบ้านกูยิ หมู่ 4 กับบ้านลาโละ หมู่ 5 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พบยุทโธปกรณ์ประเภทหมวกกันกระสุน แผ่นเกราะกันกระสุน เสื้อเกราะ ประทัด และเครื่องกระสุนจำนวนมาก รวมทั้งตรวจพบชิ้นส่วนปืนเอ็ม 16 ซึ่งปล้นไปจากเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีเมื่อเดือน ก.ค.ปี 2553 ด้วย
วันเดียวกัน เวลา 01.30 น. หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ได้สนธิกำลังกับทหารพราน เข้าปิดล้อมตรวจค้นจับกุมบุคคลเป้าหมายที่บ้านไม่มีเลขที่ ในป่ายางพารา บ้านบูเก๊ะนากอ หมู่ 2 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ ขณะกำลังปิดล้อม ปรากฏว่าถูกผู้ต้องสงสัยซึ่งหลบอยู่ภายในบ้านใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่จนเกิดการยิงปะทะกันประมาณ 10 นาที ผลการปะทะทำให้ฝ่ายผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 1 ราย คือ นายรุสรัน มาเน็ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จากการตรวจสอบประวัติของฝ่ายความมั่นคง พบเป็นสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการ ทั้งยังถูกออกหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) 1 หมาย และหมาย ฉฉ. ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) อีก 3 หมาย
นอกจากนั้น ยังสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก 1 ราย คือ นายอับดุลรอแม ฮาเระ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ มีประวัติเป็นสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบ และถูกออกหมาย ฉฉ. 1 หมาย พร้อมยึดอาวุธปืนอาก้าได้อีก 1 กระบอก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่กำลังชี้ให้ดูจุดที่ได้รับความเสียหายบนโรงพัก สภ.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา หลังถูกคนร้ายยิงเอ็ม 79 ถล่มเข้าใส่หลายนัดเมื่อค่ำวันพุธที่ 21 ธ.ค.2554 (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)