ศอ.บต.ล้อมคอก"หัวคิวเยียวยา" ญาติเหยื่อแฉซ้ำเจอไถ ใต้วุ่นบึ้มทหารรับตรุษจีน
"หัวคิวเยียวยา" ระบาดหนัก ศอ.บต.ล้อมคอกออกประกาศเตือนอย่าหลงเชื่อพวกนายหน้า แนะติดต่อตรงที่สำนักงานอิสลามจังหวัด ทนายความ หรือผู้นำท้องถิ่น ด้านญาติผู้สูญเสียแฉซ้ำตั้งวงไถเงินกันแล้ว ขอกันดื้อๆ "ล้านละ 2 บาท" ยังไม่ชัด 2% หรือ 20% "อังคณา" ชี้ผู้นำในพื้นที่บางรายทำตัวเป็น "โบรกเกอร์" เสียเอง ด้านไฟใต้ยังร้อนระอุ โจมตีจุดตรวจก่อนกดบึ้มทหารเจ็บ 6 รับตรุษจีน
ความคืบหน้ากรณี "ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา" นำเสนอข่าวมีนายหน้าติดต่อขอหักเปอร์เซ็นต์หรือ "ค่าหัวคิว" จากเงินเยียวยาก้อนใหม่ที่รัฐบาลเตรียมจ่ายให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในมาตรฐานเดียวกับผู้ชุมนุมทางการเมือง คือผู้เสียชีวิตจะได้รับเงิน 7.75 ล้านบาทนั้น ล่าสุดหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ได้ออกมาเตือนประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มนายหน้าดังกล่าว ขณะเดียวกันผู้ที่ทำงานเพื่อสังคมในพื้นที่ได้ออกมาแฉข้อมูลหัวคิวเพิ่มเติม
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในฐานะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงหลังจากรัฐบาลเตรียมจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบก็คือ อาจมีคนไปแอบอ้างว่าการรับเงินเยียวยาต้องผ่านบุคคลบางคนจึงจะได้รับ ซึ่งไม่เป็นความจริง จึงอยากฝากไปถึงครอบครัวและญาติของผู้ได้รับผลกระทบขออย่าได้หลงเชื่อ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า การพิจาณาหลักเกณฑ์และแนวทางการจ่ายเงินเยียวยาจะมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา ร่วมอยู่ด้วย สามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดเบื้องต้นและยื่นเรื่องการขอรับการช่วยเหลือ เยียวยาได้ที่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด, ทนายความเจ้าของคดี, กำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือติดต่อโดยตรงที่ ศอ.บต. อำเภอเมืองยะลา
สำหรับความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประชุมนัดแรกไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้คณะกรรมการฯได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 8 คณะเพื่อพิจารณาในรายละเอียด คือ
1.คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและการประเมินผลและการเยียวยาในกรณีเฉพาะเหตุการณ์ ได้แก่
- เหตุการณ์กรือเซะและสะบ้าย้อย เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547
- เหตุการณ์ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547
- เหตุการณ์ไอร์ปาแย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2552
- กรณีถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
- กรณีโรงเรียนตาดีกาและโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามถูกปิด
2.คณะอนุกรรมการช่วยเหลือเยียวยาเจ้าหน้าที่รัฐในการปฏิบัติหน้าที่
3.คณะอนุกรรมการบูรณาการให้ความช่วยเหลือเด็กกำพร้า ผู้ที่สูญเสียคู่ครอง และผู้พิการ
4.คณะอนุกรรมการด้านการศาสนา การแพทย์ สาธารณสุข และการเยียวยาด้านจิตใจ
5.คณะอนุกรรมการเพื่อการเยียวยาด้านอาชีพ การศึกษา และการกีฬา
6.คณะอนุกรรมการการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน
7.คณะอนุกรรมการด้านการต่างประเทศและกิจการฮัจญ์
8.คณะอนุกรรมการปฏิรูประบบความเป็นธรรม การคุ้มครองสิทธิ และการป้องกันภัยพิบัติฝ่ายพลเรือน
สำหรับกรณีเยียวยาเฉพาะเหตุการณ์ และเยียวยาเจ้าหน้าที่รัฐในการปฏิบัติหน้าที่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า จะใช้มาตรฐานเดียวกับการชุมนุมทางการเมืองที่รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 ม.ค. (เสียชีวิตได้รับ 7.75 ล้านบาท)
ญาติเหยื่อแฉซ้ำเจอไถ-เตือนระวัง "โบรกเกอร์" ในพื้นที่
ในเวทีราชดำเนินเสวนา หัวข้อ "ราคาชีวิต...ผู้เสียหายจากความรุนแรงโดยรัฐ สองมาตรฐานจริงหรือ?" ซึ่งจัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ม.ค.2555 น.ส.คอลีเยาะ หะหลี ญาติผู้สูญเสียจากกรณีกรือเซะ กล่าวว่า ตอนนี้กระแสเรื่องเงินเยียวยาแรงมาก โดยเฉพาะตัวเลข 7.75 ล้านบาท สยบกระแสอื่นในพื้นที่จนหมด และมีผู้นำในท้องถิ่นบางคนนัดพูดคุยกันแล้ว และมีข่าวจะหักหัวคิว "ล้านละ 2 บาท" ซึ่งเข้าใจว่าหมายถึง 2% หรือ 20% คือล้านละ 2 หมื่นหรือ 2 แสนบาท จึงอยากให้ภาครัฐเข้าไปตรวจสอบโดยด่วน ส่วนเรื่องการเยียวยา บอกตรงๆ ว่าอยากได้การค้นหาความจริงและความเป็นธรรมทางคดีมากกว่าตัวเงิน
นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ และภรรยาของทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ถูกอุ้มหายไปเกือบ 8 ปี กล่าวในเวทีเดียวกันว่า ปัญหาเรื่องเงินเยียวยาเกิดขึ้นเพราะตัวเลขปรากฏเป็นข่าวก่อนหลักเกณฑ์ หากพิจารณาหลักเกณฑ์ให้เรียบร้อยโดยให้สาธารณะมีส่วนร่วมคิดร่วมกำหนดเสียก่อน ก็จะมีปัญหาน้อยกว่านี้
นอกจากนั้น การเสนอเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ถูกดำเนินคดีแล้วศาลยกฟ้อง อยากให้คิดถึงมุมของผู้เสียหายบ้าง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่ากระบวนการยุติธรรมไทยล้มเหลว คนที่ศาลพิพากษายกฟ้องอาจไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์จริงๆ ก็ได้ การจ่ายเงินเยียวยาให้กับคนกลุ่มนี้ต้องพิจารณาให้ดี เนื่องจากจะกระทบจิตใจของผู้เสียหายมาก เช่นเดียวกับการดึงคนผู้นำในพื้นที่บางรายมาเป็นกรรมการเยียวยาต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะบางคนทำตัวเป็น "โบรกเกอร์" เสียเองในหลายๆ กรณี ส่วนเรื่องค่าจัดการศพ 2.5 แสนบาทนั้น ต้องคิดต่อไปอีกว่า หากศพถูกทำลายหรือไม่เจอศพจะได้รับเงินเยียวยาด้วยหรือไม่ และเยียวยาเท่าไรจึงจะคุ้ม
ควบกระบะถล่มจุดตรวจ-บึ้มซ้ำกำลังเสริมเจ็บ 6 ที่สายบุรี
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ย้อนหลังกลับไปถึงกลางสัปดาห์ที่แล้ว ปรากฏว่ามีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ม.ค.2555 เวลา 18.00 น. คนร้ายประมาณ 8 คนมีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุตอนครึ่ง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มจุดตรวจหน้าฐานปฏิบัติการหมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยปืนเล็กที่ 3 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 26 ซึ่งตั้งฐานอยู่ที่สถานีอนามัยบ้านจลาโก หมู่ 6 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้ยิงตอบโต้จนคนร้ายล่าถอยไป
ต่อมาเวลาประมาณ 18.15 น. ทหารจากกองร้อยปืนเล็กที่ 3 ซึ่งตั้งฐานอยู่ไม่ห่างกัน ได้จัดำลังพลเข้าสนับสนุน โดยใช้รถกระบะหุ้มเกราะ 1 คัน และรถยนต์วีว่าอีก 1 คัน แต่ระหว่างทางก่อนถึงจุดเกิดเหตุ บนทางหลวงสาย 4060 บ้านป่าม่วง หมู่ 4 ต.มะนังดาลำ ได้ถูกคนร้ายดักระเบิดจนกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 6 นาย รักษาตัวที่โรงพยาบาลสายบุรี
รายชื่อกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย ร.อ.สุรชาติ รอดผล อายุ 29 ปี พ.จ.อ.วัฒนา จิรานุกรม อายุ 42 ปี จ.อ.เอกฉัตร สาริกพันธุ์ อายุ 24 ปี จ.อ.เทิดไท ทองหวาน อายุ 40 ปี จ.อ.สิทธิศักดิ์ สังคำ อายุ 37 ปี และพลทหารเอกพงษ์ จันจุฬา อายุ 23 ปี ทั้งนี้ ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ยังไม่ทราบภาชนะบรรจุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลาประมาณ 01.40 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายหะมะ โต๊ะอีตอ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 บ้านตันหยง หมู่ 5 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ขณะนายหะมะกรีดยางอยู่ในสวนยางพารา ท้องที่บ้านตันหยง หมู่ 5 ต.บาตง อ.รือเสาะ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ยิงสาวใหญ่ดับหน้ากุโบร์-ทหารค้นที่พักในปอเนาะปะนาเระ
เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ม.ค.เวลา 06.55 น. พ.ต.อ.อาซิส อุมายี ผู้กำกับการ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบชนิดและขนาดยิงชาวบ้านเสียชีวิตบริเวณกุโบร์ (สุสานของชาวมุสลิม) บ้านชะเมาสามต้น หมู่ 5 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพ นางเจ๊ะซง สาและ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ 5 บ้านชะเมาสามต้น ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางเจ๊ะซง ยืนอยู่หน้ากุโบร์เพื่อทำพิธีขอดุอาให้กับญาติที่เสียชีวิตและฝังในกุโบร์ดังกล่าว จากนั้นมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกยิงใส่ ทำให้นางเจ๊ะซงเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 นำโดย พ.อ.นิติ ติณสูลานนท์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 (ผบ.ฉก.ทพ.44) นำกำลังทหารพรานสนธิกับกำลังตำรวจ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เข้าปิดล้อมตรวจค้นจับกุมบุคคลเป้าหมายที่ห้องพักแห่งหนึ่งในบริเวณโรงเรียนปอเนาะอัลฮันสอรีอัลอิสลามียะห์ ตั้งอยู่หมู่ 5 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ สามารถตรวจยึดของกลางได้หลายรายการ อาทิ ถังแก๊สปิคนิคขนาด 5 กิโลกรัมจำนวน 1 ถัง ชิ้นส่วนแผงวงจรโทรศัพท์ จำนวน 6 ชิ้น ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือจำนวน 7 เครื่อง และชิ้นส่วนอะไหล่โทรศัพท์มือถืออีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย 1 รายไปสอบปากคำ ก่อนจะปล่อยตัวกลับ
วางบึ้มจะๆ รถอาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนพัฒนาอิสลาม
วันพฤหัสบดีที่ 19 ม.ค.เวลา 14.30 น.คนร้ายจำนวน 2 คนสวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบ มีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขี่ไปจอดบริเวณโรงจอดรถจักรยานยนต์ข้างอาคารเรียนห้อง 5/3 โรงเรียนพัฒนาอิสลาม บ้านแบรอ หมู่ 1 ต.บาราเฮาะ อ.เมือง จ.ปัตตานี จากนั้นคนที่นั่งซ้อนท้ายซึ่งสวมหมวกนิรภัยด้วยได้ลงจากรถ แล้วนำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องซึ่งประกอบใส่ท่อพลาสติกบรรจุในกระป๋องกาแฟยี่ห้อหนึ่ง จุดชนวนด้วยเชื้อเพลิงหน่วงเวลา ไปวางไว้เหนือบังโคลนด้านหน้าของรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ ป้ายทะเบียนป้ายแดง ก 5991 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถของ นายมุสตอปา มัดรูดิน อาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียน จากนั้นได้เกิดระเบิดขึ้นจนรถจักรยานยนต์ของนายมุสตอปาได้รับความเสียหาย แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า เมื่อวันพุธที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองของ จ.ปัตตานี ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมตรวจหาสารเสพติดของกลุ่มวัยรุ่นใน ต.บาราเฮาะ รวมทั้งบุคลากรในโรงเรียนพัฒนาอิสลาม โดยมี นายมุสตอปา มัดรูดิน ซึ่งเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียน เป็นผู้ประสานงานจัดกิจกรรมดังกล่าว จึงเชื่อว่าน่าจะทำให้มีเยาวชนบางกลุ่มไม่พอใจ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นได้ทั้งฝีมือของแนวร่วมก่อความไม่สงบหรือกลุ่มเยาวชนที่ไม่ได้เป็นแนวร่วม แต่มีความสามารถในการประกอบระเบิด อย่างไรก็ดี ยังไม่ตัดประเด็นขัดแย้งส่วนตัวทิ้ง
ยิงชาวบ้านดับ2 ที่ปัตตานี-รัว 5 นัดปลิดชีพ ส.อบจ.นราฯ
วันพฤหัสบดีที่ 19 ม.ค.เวลา 13.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดประกบยิง นายวรสิทธิ์ พื้นผา อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/2 บ้านเจาะกะพ้อ หมู่ 2 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี กระสุนปืนถูกที่ศีรษะ 3 นัด เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนทางหลวงสาย 3021 บ้านคอลอกาปะ หมู่ 6 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ ขณะนายวรสิทธิ์ กำลังขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านบือแนลาแล หมู่ 8 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ มุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพุธที่ 18 ม.ค.เวลา 08.40 น.คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดประกบยิง นายศิริพงษ์ ทองจีน อายุ 52 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นราธิวาส เขต 2 อยู่บ้านเลขที่ 98/114 บ้านซารายอ หมู่ 1 ถนนปาทานอุทิศ ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยรัวยิงถึง 5 นัดทำให้นายศิริพงษ์เสียชีวิตคารถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์-ทอง หมายเลขทะเบียน บง 9933 นราธิวาส เหตุเกิดบนถนนเลี่ยงเมืองตัดใหม่ หน้าบ้านเลขที่ 18/224 บ้านซารายอ หมู่ 1 ถนนปาทานอุทิศ ขณะนายศิริพงษ์ขับรถกลับบ้านหลังจากส่ง นางประทุม ทองจีน ภรรยา ไปทำงาน โดยจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านเพียง 200 เมตรเท่านั้น เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น
เวลา 20.30 น.วันเดียวกัน คนร้ายจำนวน 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายเปาซี สะแม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 336 บ้านคาโต หมู่ 5 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี กระสุนถูกบริเวณใบหน้าและหน้าท้อง เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณสี่แยกบ้านท่าด่าน หมู่ 3 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ขณะนายเปาซีกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากเยี่ยมบิดาที่บ้านท่าด่าน มุ่งหน้ากลับบ้านที่ ต.ปะนาเระ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : (ซ้าย) คอลีเยาะ หะหลี (ขวา) อังคณา นีละไพจิตร ขณะร่วมเวทีราชดำเนินเสวนาที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน กรุงเทพฯ (ภาพผ่านการตกแต่งโดยฝ่ายศิลป์ ทีมข่าวอิศรา)
อ่านประกอบ : เคราะห์ซ้ำที่ชายแดนใต้...เงินเยียวยายังไม่มา แต่มีนายหน้าขอหักหัวคิวแล้ว!