เปิดเกณฑ์เยียวยาเหยื่อไฟใต้รับไม่เต็ม 7.5 ล้าน!
คณะกรรมการเยียวยาเหยื่อไฟใต้สรุปตัวเลขจ่ายชดเชยแล้วรายละ "ไม่เกิน 7.5 ล้าน" ครอบคลุมทั้งกรือเซะ ตากใบ ไอร์ปาแย คนหายกว่า 30 รายและกรณีอื่นๆ ทั่วไป พลิกเอกสารกรอบข้อเสนอชี้ชัดชาวบ้าน "รับไม่เต็ม" เหตุถ้าเคยได้เงินชดเชยเยียวยาบ้างแล้วต้องหักออกจากยอด 7.5 ล้าน
เมื่อเวลา 11.30 น.วันอาทิตย์ที่ 12 ก.พ.2555 ที่โรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมของคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากได้ประชุมสรุปหลักเกณฑ์การจ่ายเยียวยา
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้จ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบรายละไม่เกิน 7.5 ล้านบาท เท่ากับกรณีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุชุมนุมทางการเมือง โดยแยกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะและสะบ้าย้อย เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตากใบและไอร์ปาแย กลุ่มผู้ที่ถูกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐกรณีการหายสาบสูญโดยถูก บังคับหรือการทรมาน หรือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั่วไป
นายยงยุทธ กล่าวเสริมว่า จะเร่งนำเรื่องเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาให้ความเห็นชอบภายใน 1 สัปดาห์ และคาดว่าจะสามารถดำเนินการเยียวยาได้ภายใน 1-2 เดือนใกล้เคียงกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุชุมนุมทางการเมือง ฉะนั้นขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ละเลยหรือทอดทิ้ง แต่จะต้องพิจารณาหลักเกณฑ์อย่างละเอียดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ที่จะได้รับการเยียวยานั้น ได้มีการรวบรวมข้อมูลไว้บางส่วนแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยจำนวนที่แน่นอนได้ ส่วนวิธีการปฏิบัติได้มีโครงสร้างการให้ความช่วยเหลือที่ชัดเจน กำหนดหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือเยียวยาให้มีความเหมาะสมกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และสภาพที่เป็นจริง โดยประมวลข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในการดำเนินงานอย่างชัดเจน รวมทั้งจะดูแลเยียวยาเป็นรายกรณีด้วย
"เพื่อความยั่งยืนของการช่วยเหลือเยียวยา ที่ประชุมได้เสนอให้สร้างความเข้าใจในกระบวนการเยียวยาแก่ทุกภาคส่วน โดยจัดให้มีกองทุนเป็นกลไกในการให้ความช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการใช้หลักศาสนาในการเยียวยาด้านจิตใจ โดยส่งเสริมการไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดิอารเบีย (สำหรับกรณีผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม) หรือการไปปฏิบัติธรรม ณ ดินแดนพุทธภูมิ (สำหรับกรณีผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ)
ทั้งนี้ จากการประเมินผลในเบื้องต้นพบว่า ผู้ที่ได้รับการเยียวยาไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 มีความพึงพอใจ ความหวาดระแวงของประชาชนที่มีต่อรัฐลดลง"
ส่วนกรณีชาวบ้าน 4 รายจาก ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่เสียชีวิตจากปฏิบัติการของทหารพรานที่ออกไล่ล่าคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มฐาน จนมีการยิงรถต้องสงสัยทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็เข้าข่ายที่จะได้รับการเยียวยาตามหลัก เกณฑ์นี้เช่นเดียวกัน แต่ในเบื้องต้นได้เยียวยารายละ 5 แสนบาท สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่สงบ จะมีการตั้งคณะกรรมขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งภายใต้กรอบการช่วยเหลือเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน
เปิดเอกสาร "หลักเกณฑ์เยียวยา 4 กลุ่ม"
สำหรับรายละเอียดในเอกสารที่กำหนดกรอบการเยียวยาและแนวทางการช่วยเหลือที่คณะอนุกรรมการ 4 ชุดได้เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น สรุปได้ดังนี้
กลุ่มที่ 1 เหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 กรือเซะและสะบ้าย้อย มีผู้เสียชีวิต106 คน บาดเจ็บ 6 คน และถูกจับกุม 6 คน ได้รับการเยียวยารายละไมเกิน 7.5 ล้านบาท กรณีที่พิการใช้เกณฑ์ 1 ล้านบาทและสนับสนุนการไปประกอบพิธีฮัจญ์
กลุ่มที่ 2 เหตุการณ์ตากใบและไอร์ปาแย มีผู้เสียชีวิต 85 คน บาดเจ็บ 51 ราย ผู้ต้องคดี 58 ราย ผู้ที่ถูกควบคุมตัว 1,300 ราย เยียวยารายละไม่เกิน 7.5 ล้านบาท ทุพพลภาพรายละ 350,000 บาท บาดเจ็บสาหัส 313,000 บาท บาดเจ็บ 65,000 บาท
กลุ่มผู้ต้องคดีได้รับค่าชดเชยเบื้องต้น 30,000 บาท ค่าชดเชยที่ถูกคุมขับตามจำนวนวัน วันละ 400 บาท ค่าชดเชยในการไปดำเนินคดีต่อศาล 10,000 บาท ส่วนผู้ที่ถูกควบคุมตัวได้รับค่าเยียวยาทางจิตใจรายละ 10,000 บาท
กลุ่มที่ 3 กรณีการสูญหายซึ่งมีจำนวน 36 ราย ค่าชดเชยรายละไม่เกิน 7.5 ล้านบาท ซึ่งจะมีคณะกรรมกรรมการตรวจสอบทั้ง 37 อำเภอ (สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา)
กลุ่มที่ 4 ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั่วไป ครอบคลุมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน จะพิจารณาช่วยเหลือภายใต้วงเงินไม่เกินรายละ 7.5 ล้านบาทเช่นเดียวกัน
ได้ไม่เต็ม 7.5 ล้าน-เหตุหักยอดเงินที่เคยได้รับไปแล้ว
ทั้งนี้ นอกเหนือจากตัวเงินที่กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบทั้ง 4 กลุ่มจะได้รับแล้ว ยังมีการช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ด้วย เช่นที่อยู่อาศัย อาชีพ การศึกษาของบุตรหลาน และการประกอบพิธีฮัจญ์หรือการไปปฏิบัติธรรม เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากที่ประชุม เผยว่า หลักเกณฑ์การชดเชยเยียวยาทั้งหมดนี้จะมีการพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง และอาจมีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในบางกรณีด้วย ฉะนั้นตัวเลขทั้งหมดจึงเป็น “กรอบการเยียวยา” คือรายละไม่เกิน 7.5 ล้านบาททุกกลุ่ม แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายๆ แล้วอาจได้ไม่ถึง 7.5 ล้านบาท เพราะต้องนำไปหักออกจากยอดเงินช่วยเหลือเยียวยาทุกรูปแบบที่เคยได้รับจากภาครัฐไปก่อนหน้านี้แล้วด้วย
ยิงรายวัน-ฆ่าตัดคอ ตาย 2 เจ็บ 1
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ตลอด 3 วันที่ผ่านมาหลังเกิดคาร์บอมบ์กลางเมืองปัตตานี ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 11 ก.พ.เวลา 22.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายฮาซัน ต่วนสุหลง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 2 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายชนบท ท้องที่บ้านบือเล็ง หมู่ 1 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ก.พ.เวลา 12.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุพบศพชายไม่ทราบชื่อ บริเวณหลังบ้านเลขที่ 19 บ้านบาโงมูลง หมู่ 6 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพถูกของมีคมฟันบริเวณลำคอจนขาด ทราบชื่อคือ นายฮารณย์ หะยีเจะแว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 บ้านบาโงมูลง หมู่ 6 ต.เตราะบอน สอบถามจากทางญาติทราบว่านายฮารณย์ออกจากบ้านเมื่อเวลา 03.00 น. กระทั่งถูกพบเป็นศพดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ค่ำวันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนอาก้า เอ็ม 16 และอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ซุ่มยิง นายอัสนี อูมา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ถนนสิโรรส ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะและลำตัวเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะจอดรถลงไปไขกุญแจบ้านของภรรยา เลขที่ 187 บ้านจาเราะบองอ หมู่ 5 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยภรรยาที่นั่งรถจักรยานยนต์มาด้วยไม่ได้รับอันตราย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหารเช่นกัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : บรรยากาศขณะแถลงข่าวตัวเลขเงินเยียวยาเหยื่อไฟใต้ (จากซ้ายไปขวา" นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง