จับผู้ต้องสงสัยโยงบึ้มหาดใหญ่-ยะลา-แม่ลาน สั่งทำพ็อคเก็ตบุ๊ค"รถหาย"สกัดคาร์บอมบ์
รวบ "ผู้ต้องหา-ผู้ต้องสงสัย" พัวพันระเบิดหาดใหญ่-ยะลา-แม่ลาน แต่ส่วนใหญ่ยังให้การปฏิเสธ ผบ.ตร.บอกมีกลุ่มคนเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 20 คน ด้านหอการค้าจังหวัดสงขลาระดมนักธุรกิจถกมาตรการรักษาความปลอดภัยร่วมกับ "บิ๊กสีกากี" สรุปตั้งด่านเข้ม 44 จุดรอบหาดใหญ่ 24 ชั่วโมง ตำรวจสั่งพิมพ์พ็อคเก็ตบุ๊ครวบรวม "รถหาย" พร้อมทำประวัติอู่ซ่อมรถทุกแห่งในพื้นที่ชายแดนใต้หวังสกัดคาร์บอมบ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิด 3 จุดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งคาร์บอมบ์ที่โรงแรมลีการ์เดนส์พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คาร์บอมบ์บริเวณถนนรวมมิตร อ.เมือง จ.ยะลา และมอเตอร์ไซค์บอมบ์ที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมาได้บางส่วนแล้ว
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวเมื่อวันพุธที่ 4 เม.ย.2555 ว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดที่โรงแรมลีการ์เดนส์พลาซ่า และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีกลุ่มบุคคลเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดอีก 20 คน
มีรายงานว่าการจับกุมดังกล่าวเป็นการอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึกเข้าตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ในหมู่บ้านปูโปะ หมู่ 2 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และสามารถควบคุมตัวคนในบ้านได้ 3 คนโดยละม่อม คือ
1.นายดุลละหะเล็ง ยามาสกา อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 4 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา มีหมายจับในคดีความมั่นคง 9 หมาย
2.นายอัดนัน ดือราแม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 7 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
3.นายอับดุลอาซิ ฮะตะมะ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา
ทั้งนี้ หลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุคาร์บอมบ์ที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.เมืองยะลา คือป้ายทะเบียนรถที่ถูกนำไปสวมรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค ซึ่งถูกทำเป็น "คาร์บอมบ์" ถล่มโรงแรมลีการ์เดนส์พลาซ่า เป็นป้ายทะเบียนของรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีบรอนซ์เงินของ นางเพ็ญศรี มานันตพงศ์ หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ที่ถูกคนร้ายปล้นไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2554 และภายหลังเจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่บ้านของนายอับดุลอาซิ ในท้องที่ ต.จะกว๊ะ
ส่วนความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ตาร์เบียตุลวาตันมูลนิธิ ตั้งอยู่หมู่ 1 บ้านพงยือไร ต.บันนังสาเร็ง อ.เมือง จ.ยะลา และสามารถตรวจยึดอุปกรณ์ที่คาดว่าเกี่ยวโยงกับเหตุระเบิดกลางเมืองยะลาได้หลายรายการนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยเข้าให้ปากคำ 1 ราย คือ นายอนุวัฒน์ โต๊ะเจ๊ะ อายุ 22 ปี ชาวบ้าน ต.ยุโป อ.เมืองยะลา ซึ่งมีภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดว่าเป็นผู้ขับรถติดตามรถกระบะที่บรรทุกระเบิด แต่นายอนุวัฒน์ยังให้การปฏิเสธ
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (บก.ภ.จว.ปัตตานี) พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี แถลงข่าวการจับกุม นายสัมลี ฮูลูดือเร๊ะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 4 ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ผู้ต้องสงสัยคดีลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.แม่ลาน พร้อมของกลางสายไฟฟ้ายาว 100 เมตร, คีมตัดเหล็ก, ตะปู, โทรศัพท์มือถือ กางเกง เสื้อยืด และหมวกแก๊ป โดยเป็นการจับตามหมายจับของศาลปัตตานีที่ 85/2555 ลงวันที่ 3 เม.ย.2555 แต่นายสัมลีให้การปฏิเสธ โดยบอกว่าวันเกิดเหตุพักอยู่ที่บ้านภรรยา มีพยานบุคคลพร้อม
สั่งพิมพ์พ็อคเก็ตบุ๊ครถหาย – ทำประวัติอู่ซ่อมรถสกัดคาร์บอมบ์
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมหอการค้าจังหวัดสงขลา นายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา และตัวแทนภาคธุรกิจทุกแขนงใน อ.หาดใหญ่-สงขลา ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.ฉัตรชัย โปตระนันท์ ที่ปรึกษา (สบ 10) งานป้องกันและปราบปราม 5 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา (สบ 10) งานก่อการร้าย และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อินธิกุล รอง ผบ.ตร. เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ โดยหวังฟื้นฟูบรรยากาศการท่องเที่ยวและเร่งสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้ได้โดยเร็ว
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.ฉัตรชัย เปิดเผยว่า มาตรการที่จะเริ่มดำเนินการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งจุดตรวจบนเส้นทางสายหลักและสายรองทั้ง 4 มุมเมืองของ อ.หาดใหญ่ รวม 44 เส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง, กำหนดโซนนิ่งพื้นที่ย่านเศรษฐกิจการค้ากลางเมืองหาดใหญ่ให้เป็นสัดส่วน และห้ามรถยนต์ที่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงลงไปจอดบริเวณชั้นใต้ดินของโรงแรมหรือศูนย์การค้าอย่างเด็ดขาด
พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวเสริมว่า จากนี้ไปคดีรถหายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะต้องยกให้เป็นคดีสำคัญ เนื่องจากรถยนต์ที่นำมาใช้ก่อเหตุระเบิดเป็นรถที่ถูกขโมยมาทั้งสิ้น และรถที่ได้มีการแจ้งหายจะต้องรวบรวมทำเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คเพื่อแจกจ่ายให้กับตำรวจสายตรวจและฝ่ายปราบปราม รวมทั้งต้องทำเป็นป้ายไวนิลติดไว้ตามจุดตรวจต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น และจะต้องมีการทำประวัติอู่ซ่อมรถทุกแห่งในพื้นที่ เพราะรถยนต์ที่ขโมยไปบางส่วนจะถูกนำไปเปลี่ยนสี
รัฐปัด"ทักษิณ"เอี่ยวเจรจา – นายกฯกั๊กเปิดอภิปรายทั่วไป
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าไปเกี่ยวข้องเจรจากับกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนในประเทศมาเลเซียจนทำให้เกิดความไม่พอใจ และก่อเหตุระเบิดขึ้นนั้น พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่เชื่อข่าวนี้และไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปคุยจริง
ขณะที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เกี่ยวกับปัญหาชายแดนใต้ว่า ยินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกส่วนในการที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหา แต่เมื่อผู้สื่อข่าวซักว่าพร้อมเปิดอภิปรายทั่วไปหรือไม่ นายกฯพยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถาม โดยอ้างว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
สภาประชาสังคมชายแดนใต้แนะรัฐทบทวนปัญหา - หนุนเจรจา
ด้านสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ซึ่งเป็นองค์กรกลางขององค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมี นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ เป็นประธาน ได้ออกแถลงการณ์สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน จ.ยะลา สงขลา และปัตตานี เมื่อวันที่ 31 มี.ค. เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนการกำหนดปัญหาใจกลาง ยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ใหม่ทั้งระบบ เนื่องจากระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่ารัฐไทยล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาอย่างสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน สภาประชาสังคมชายแดนใต้ยังแสดงจุดยืนในการคัดค้านการใช้ความรุนแรงเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมืองของทุกกลุ่ม ทุกรูปแบบ พร้อมทั้งเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันเพื่อให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยไม่ปล่อยให้นักการเมือง รัฐบาล หรือหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงแก้ปัญหากันเพียงลำพัง
"เรายังคงยืนยันการขยายการเปิดพื้นที่กลางสำหรับให้ทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนและนำเสนอความคิดเห็นในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่อย่างเสมอภาคและเป็นธรรม พร้อมทั้งสนับสนุนการเจรจาระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างสันติสุขและสันติภาพอย่างยั่งยืนต่อไป" แถลงการณ์ ระบุ
จับน้ำมันเถื่อนคาด่าน – รวบผู้ต้องสงสัยพัวพันค้ายา
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ตลอดวันพุธที่ 4 เม.ย.นั้น เมื่อเวลา 05.00 น.ขณะที่ตำรวจและอาสารักษาดินแดน (อส.) กำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43 บริเวณบ้านเกาะหม้อแกง หมู่ 6 ต.ท่ากาชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี สามารถคุมตัว นายวิโรจน์ วรรณกลัด อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ถนนมะกรูด ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมของกลางน้ำมันดีเซลหนีภาษีจำนวน 1,500 ลิตร บรรทุกมาในรถกระบะที่นายวิโรจน์ขับมา เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ และส่งดำเนินคดีที่ สภ.หนองจิก
ส่วนที่จุดตรวจบ้านป่าไผ่ หมู่ 5 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายพาอีซัน หนิสาเร๊ะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 บ้านแบแร หมู่ 6 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและอาวุธสงคราม ขณะกำลังขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า ป้ายทะเบียนแดง ผ่านจุดตรวจดังกล่าว
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : สภาพรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุคาร์บอมบ์ในลานจอดรถชั้นใต้ดินของอาคารโรงแรมและห้างสรรพสินค้าลีการ์เดนส์พลาซ่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งบันทึกภาพได้หลังวันเกิดเหตุ (ภาพโดย สุเมธ ปานเพชร)