เหยื่อไฟใต้แห่ขอเยียวยา 2 วันกว่าครึ่งหมื่น บึ้มรามันช่วงรองนายกฯลงพื้นที่
ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนใต้แห่ขึ้นทะเบียนเยียวยากับหน่วยเคลื่อนที่ ศอ.บต.ทะลัก แค่ 2 วันยอดทะลุครึ่งหมื่น "ทวี สอดส่อง" คาด ต.ค.นี้กลุ่มแรกได้รับเงิน เปิดใจเน้นดูแลคุณภาพชีวิต 14 ประการ ส่วนการเยียวยาในรูปตัวเงินให้ตามความจำเป็นหลังส่งทีมงานลงพื้นที่สำรวจข้อมูลเรียบร้อย ด้านสถานการณ์ไฟใต้ระอุอีกระลอก คนร้ายลอบบึ้มทหารชุด รปภ.พื้นที่ช่วงรองนายกฯ-ผบ.ทบ.ล่องใต้
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ออกรับลงทะเบียนจากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องการความช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 24 เม.ย.2555 อนุมัติกรอบเยียวยาวงเงิน 2,080 ล้านบาท ตามการเสนอของคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน
ทั้งนี้ การจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกรับลงทะเบียนเยียวยา เป็นมาตรการเชิงรุกของ ศอ.บต.ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน และยังเป็นแนวทางป้องกันการถูกกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดี อ้างตัวดำเนินการแทนเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ หรือหักหัวคิวอีกด้วย
การจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกรับลงทะเบียนมีทั้งสิ้น 3 วัน กระจายไปใน 3 จังหวัด คือวันจันทร์ที่ 21 พ.ค.จัดที่ จ.ยะลา วันอังคารที่ 22 พ.ค.จัดที่ จ.ปัตตานี และวันพุธที่ 23 พ.ค.จัดที่ จ.นราธิวาส
ผลการเปิดรับลงทะเบียนวันแรก ที่อาคารศรีนิบง ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา มีประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟใต้เดินทางไปยื่นเอกสารลงทะเบียนจำนวน 1,512 ราย โดยบางรายไปรอที่จุดลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 07.00 น.ส่วนวันที่ 2 ที่ห้องพิมพ์มาดา โรงแรมปาร์ควิวรีสอร์ท ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี มีผู้ไปยื่นเอกสารลงทะเบียนอีกกว่า 5 พันราย รวม 2 วัน 6-7 พันราย
เลขาฯ ศอ.บต.คาด ต.ค.เริ่มจ่ายกลุ่มแรก
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ใครก็ตามที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ผู้ที่เป็นพ่อแม่ บุตร ภรรยา หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นผู้เสียหาย ต้องได้รับการเยียวยาด้านคุณภาพชีวิต เช่น เรื่องการรักษาพยาบาล อาชีพ การศึกษา ความเป็นอยู่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ศอ.บต.มีข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบอยู่แล้วบางส่วน การเปิดรับลงทะเบียนก็เพื่อสำรวจรายชื่อให้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น หลังจากเปิดรับลงทะเบียนครบ 3 วันก็จะรวบรวมข้อมูล แล้วจัดชุดเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ไปสำรวจว่าแต่ละคนแต่ละครอบครัวมีสภาพปัญหาอะไรอย่างไร เพื่อให้ได้รับการเยียวยาตามความต้องการ โดยผู้ที่อยู่ในข่ายได้รับเยียวยาจะย้อนไปตั้งแต่เริ่มเกิดสถานการณ์ความรุนแรงเมื่อต้นปี 2547 คาดว่าการสำรวจและข้อมูลข้อมูลทั้งหมดจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มแรกได้ประมาณเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้
เน้นดูแลคุณภาพชีวิต – เยียวยาด้วยตัวเงินตามจำเป็น
"การให้ความช่วยเหลือจะเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกๆ ด้าน หากจำเป็นต้องให้ในรูปตัวเงินก็จะมีคณะกรรมการเข้าไปพิจารณาว่าจะต้องใช้งบประมาณเท่าใด โดยจะมีคณะอนุกรรมการ 8 เข้าไปดูแล ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลอนุมัติงบประมาณมาให้ 2,080 ล้านบาท จากการสอบถามผู้มายื่นเรื่องทราบว่าบางรายก็ได้รับเงินเยียวยาเบื้องต้นไปแล้ว แต่ยังมีความทุกข์เดือดร้อนอยู่ บางรายก็ไม่เคยได้รับการเยียวยาเลย ซึ่งคณะกรรมการระดับพื้นที่จะตั้งคณะทำงาน โดยมอบหมายให้นายอำเภอทุกอำเภอเป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีทีมงานที่เป็นผู้มีจิตอาสา ลงพื้นที่พบปะประชาชนโดยเร็วที่สุด"
"เราจะเยียวยาอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ที่สำคัญคืออยากให้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส โดยให้ผู้ได้รับผลกระทบทุกคนได้กลับเข้ามาอยู่ในสังคมอย่างมีพลัง" เลขาธิการ ศอ.บต.ระบุ
ประสานต่างประเทศสั่งซื้อสินค้าสร้างอาชีพให้ผู้สูญเสีย
ต่อข้อถามถึงการส่งเสริมอาชีพให้กับผู้ได้รับผลกระทบ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า มีทูตหลายประเทศถามมาว่าหากคนที่นี่ถนัดเรื่องการตัดเย็บเสื้อผ้า ก็จะมีออเดอร์มาให้ เป็นเสื้อผ้าประเภทต่าง ๆ รวมถึงชุดนักเรียน จึงอยากขอความกรุณาจากโรงเรียนต่างๆ เปิดโอกาสให้พี่น้องสามจังหวัดด้วยการสั่งซื้อชุดนักเรียนทำมือจากในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทางอ้อมด้วย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า การเปิดรับลงทะเบียนเป็นเพียงเรื่องทางธุรการ แต่สิ่งสำคัญคือการส่งคณะเข้าไปช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ซึ่งคณะดังกล่าวนี้ต้องเป็นมืออาชีพ โดยอาจว่าจ้างบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญให้เข้ามาดำเนินการ
เปิด 14 แนวทางช่วยเหลือเยียวยา-พัฒนาคุณภาพชีวิต
สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหายและได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้ดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาที่ ศอ.บต.จะดำเนินการ ประกอบด้วย
1.การรักษาพยาบาลด้านร่างกายและจิตใจ รวมทั้งการส่งต่อฟื้นฟูผู้พิการ โดยแพทย์หรือผู้ชำนาญเฉพาะทาง
2.สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์
3.เยียวยาทางด้านจิตวิญญาณ อาทิการส่งเสริมให้ไปประกอบพิธีทางศาสนา
4.การให้สิทธิเข้ารับการศึกษาของตนเองหรือทายาท
5.สนับสนุนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
6.ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านทรัพย์สิน
7.ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือที่ทำกิน หรือส่งเสริมการประกอบอาชีพ
8.การเยี่ยมเยียนอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มสหวิชาชีพ
9.ช่วยเหลือให้มีความปลอดภัย หรือมีส่วนร่วมในการจัดระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อไม่ให้มีเหตุซ้ำ
10.คุ้มครองป้องกันจากการถูกปองร้าย
11.จัดตั้งสถานพยาบาลเฉพาะทาง หรือสถาบันส่งเสริมการศึกษาเยียวยาฟื้นฟูผู้พิการในจังหวัดชายแดนใต้
12.ช่วยเหลือด้านกฎหมาย การฟ้องร้องดำเนินคดี การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
13.ค่าใช้จ่ายในการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน การเข้าถึงความเป็นธรรม
14.การช่วยเหลือเยียวยาด้านอื่นตามที่คณะกรรมการเยียวยาเห็นสมควร
ส่วนผู้ได้รับผลกระทบแต่ยังไม่ได้เดินทางไปลงทะเบียนหรือยื่นเอกสารกับหน่วยเคลื่อนที่ของ ศอ.บต. สามารถประสานงานผ่านบัณฑิตอาสาในตำบลของตนเอง หรือเจ้าหน้าที่เยียวยาอำเภอ และเยียวยาจังหวัด รวมทั้งสายด่วน ศอ.บต. 1800 เพื่อเข้าสู่กระบวนการเยียวยาต่อไป
บึ้มรามันถล่มทหารชุด รปภ.พื้นที่-โชคดีไร้เจ็บ
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ได้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นแล้วเมื่อวันอังคารที่ 22 พ.ค.2555 หลังจากเหตุการณ์สงบเงียบต่อเนื่องนาน 5 วัน โดยเมื่อเวลา 12.10 น. พ.ต.ท.ภูไชยวัฒน์ นทีรัตน์ สารวัตรใหญ่ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุลอบวางระเบิดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหาร บริเวณเชิงสะพานบ้านปูลามอง หมู่ 6 ต.เก๊ะรอ อ.รามัน เขตรอยต่อ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กค 7782 ปัตตานี จอดเสียหลักอยู่ในสภาพกระจกหน้าและกระจกข้างแตกร้าว ตัวถังด้านซ้ายได้รับความเสียหาย มีหลุมระเบิดขนาดใหญ่อยู่บริเวณคอสะพาน และมีเศษถีงแก๊ส สายไฟ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสะเก็ดระเบิดกระจายเกลื่อน ห่างจากหลุมระเบิด 30 เมตร เจ้าหน้าที่พบถังแก๊สอีก 1 ถัง ภายในอัดดินระเบิดไว้แน่น จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดเข้าเก็บกู้และทำลายทิ้งได้อย่างปลอดภัย
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เจ้าหน้าที่ทหารที่ถูกลอบวางระเบิดเป็นชุดปฏิบัติการสันติสุข (ชป.สันติสุข) หน่วยเฉพาะกิจกองพลทหารราบที่ 15 ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยเส้นทางในเขต อ.ทุ่งยางแดง อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี และ อ.รามัน จ.ยะลา ในช่วงที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กำลังเดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นที่
ก่อนเกิดเหตุ ชป.สันติสุข ซึ่งมีกำลังพล 6 นายกำลังเดินทางด้วยรถกระบะหุ้มเกราะเข้าไปยังจุดที่ได้รับมอบหมาย แต่เมื่อรถแล่นถึงจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ใถังแก๊สปิกนิก 2 ถัง วางไว้ริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว โชคดีที่ระเบิดทำงานเพียงลูกเดียว และรถที่ใช้เป็นรถหุ้มเกราะ ทำให้ไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อดิสเครดิตคณะของรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่กำลังลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 6 กิโลเมตร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ผู้ได้รับผลกระทบและญาติกำลังเข้าแถวลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือเยียวยา ในการออกหน่วยเคลื่อนที่วันแรกของ ศอ.บต.ที่อาคารศรีนิบง อ.เมืองยะลา
2-3 บรรยากาศเนืองแน่นในการรับลงทะเบียนวันที่ 2 ที่โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท อ.เมือง ปัตตานี
4 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ไปร่วมสังเกตการณ์และพูดคุยรับฟังปัญหากับผู้ได้รับผลกระทบด้วยตัวเอง
5 เจ้าหน้าที่กำลังเก็บกู้ระเบิดถังแก๊สอีก 1 ลูกที่ยังไม่ระเบิด ในเหตุลอบประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ทหารที่ อ.รามัน จ.ยะลา
หมายเหตุ :
1 ภาพบรรยากาศลงทะเบียนเยียวยาโดย อับดุลเลาะ หวังหนิ ทีมข่าวอิศรา และทีมประชาสัมพันธ์ ศอ.บต.
2 ภาพกู้ระเบิดโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์