ความจริงสวนทาง...รัฐอนุมัติต่ออายุ พ.ร.ก. – ศาลสั่งปล่อยผู้ต้องสงสัยตามกฎหมายฉุกเฉิน
ครม.อนุมัติขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสามจังหวัดใต้ออกไปอีก 3 เดือน เผยเป็นการต่ออายุรอบที่ 28 ฉุกเฉินมา 7 ปีเต็ม ขณะที่ศาลยะลาสั่งปล่อยผู้ต้องสงสัยที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมตาม พ.ร.ก.พร้อมนักศึกษาโดยไม่อนุญาตให้ขยายเวลาควบคุมตัวอีก ไฟใต้ยังระอุ คนร้ายจุดชนวนระเบิดถังแก๊สถล่มรถหุ้มเกราะพังยับที่ศรีสาคร ตชด.พลีชีพ ยิงพนักงาน อบต.บางปอ ดับ 2 คาถนนที่นราฯ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 19 มิ.ย.2555 ซึ่งเป็นการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.ชลบุรี ได้อนุมัติตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอขยายเวลาการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.นราธิวาส ยะลา และปัตตานี (ยกเว้น อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี) ออกไปเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.ถึง 19 ก.ย.2555 โดยเป็นการขยายเวลาครั้งที่ 28 ตั้งแต่ประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ค.2548 รวมระยะเวลาที่บังคับใช้อย่างต่อเนื่องนานถึง 7 ปี
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ดำเนินการตามที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) เสนอให้จัดทำรายละเอียดในพื้นที่เป็นรายอำเภอ โดยต้องเก็บสถิติที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อเหตุ การปะทะ และความสูญเสียตั้งแต่รอบเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา และการประเมินสถานการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า รวมถึงรายละเอียดความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชน เช่น การฝึกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ให้สามารถป้องกันและดูแลพื้นที่ของตัวเองได้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณายกเลิกการการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในบางพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการบังคับใช้ที่ชัดเจนมากกว่าการประกาศในภาพรวม
ขณะเดียวกัน ให้ปรับกระบวนการตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งประกาศใช้ในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา คือ อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี) ให้มีขั้นตอนการพิจารณาการทำความเห็นต่อศาลให้สั้นลง (กรณีผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยกลับใจเข้ามอบตัวกับทางราชการ จะเข้าสู่กระบวนการตามมาตรา 21 คือฝึกอบรมเป็นเวลา 6 เดือน แล้วจะไม่ถูกดำเนินคดีอาญา โดยทั้งหมดดำเนินการภายใต้คำสั่งศาล)
นายอนุสรณ์ แถลงอีกว่า เลขาธิการ สมช.ได้ฝากความเห็นในที่ประชุมว่า กรณีที่องค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) และนักสิทธิมนุษยชนมองว่าการขยายการประกาศวสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปอีก จะทำให้มีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนนั้น แต่ฝ่ายความมั่นคงยังยืนยันถึงความจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และสถานการณ์ในภาพรวมถือว่าดีขึ้นตามลำดับ
ศาลสั่งปล่อยผู้ต้องสงสัยที่ถูกรวบพร้อมนักศึกษา
อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนั้น ศาลจังหวัดยะลาได้ไต่สวนคำร้องของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ขอขยายระยะเวลาการควบคุมตัว นายนูรมาน ดอเลาะ อดีตนักศึกษาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 ควบคุมตัวเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา จากบ้านพัก (หอพัก) ของนักศึกษา พร้อมนักศึกษาอีก 2 คนซึ่งได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว โดยมีญาติของนายนูรมานยื่นคำร้องคัดค้าน
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ตามคำร้องขอขยายระยะเวลาควบคุมตัวและผลการดำเนินกรรมวิธีแนบท้ายคำร้องดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ยังไม่ปรากฏว่าผู้ถูกควบคุมตัวมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างไร อีกทั้งหลังจากศาลอนุญาตให้ขยายระยะเวลาควบคุมตัวครั้งแรกเป็นเวลา 7 วันไปแล้ว ปรากฏว่ามีการซักถามข้อมูลเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย
นอกจากนั้น พยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่อ้างว่านายนูรมานเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดก็เป็นความผิดที่เกิดขึ้นแล้ว หากมีหลักฐานว่านายนูรมานเป็นผู้กระทำความผิดก็ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) ได้ทันที ส่วนการควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันมิให้มีการก่อเหตุสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น ซึ่งยังไม่ปรากฏว่าผู้ถูกควบคุมตัวมีพฤติการณ์ใดที่ก่อให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเหตุความไม่สงบเกิดขึ้น ทั้งยังปรากฏว่าผู้ถูกควบคุมตัวมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และประกอบอาชีพสุจริตที่สามารถติดต่อให้มาพบได้เมื่อต้องการ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะควบคุมตัวอีกต่อไป เพราะจะกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้ถูกควบคุมตัวเกินสมควร จึงให้ยกคำร้อง โดยให้ปล่อยผู้ถูกควบคุมตัวให้ผู้คัดค้านที่เป็นญาติรับตัวไป
อนึ่ง ก่อนหน้านี้กลุ่มนักศึกษาจาก จ.ยะลา จำนวน 200 คนได้ออกมารวมตัวชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 จับกุมเพื่อนนักศึกษาและนายนูรมาน ดอเลาะ โดยไม่มีการตั้งข้อหาด้วย
บึ้มถังแก๊สโจมตีรถหุ้มเกราะ-ตชด.พลีชีพ
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 16.05 น.วันอังคารที่ 19 มิ.ย.คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) ในท้องที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 นาย ประกอบด้วย
1) ด.ต.ประสิทธิ์ พันธ์คำเกิด อายุ 44 ปี ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 (ผบ.หมู่ กก.ตชด.24) เสียชีวิต
2) ร.ต.ต.ศุภกร พลทศรี อายุ 57 ปี รองสารวัตร กก.ตชด.24 บาดเจ็บสาหัส
3) ด.ต.วินัย ราชสีเมือง อายุ 44 ปี ผบ.หมู่ กก.ตชด.24 บาดเจ็บสาหัส
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้เคลื่อนกำลังโดยใช้รถหุ้มเกราะ วี-150 หมายเลขทะเบียน 96126 เป็นพาหนะ ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางและ รปภ.ครู เพื่อส่งครูกลับบ้าน จากนั้นได้เดินทางกลับที่ตั้ง แต่ระหว่างทางบนถนนสาย 4060 ศรีสาคร-รือเสาะ ท้องที่บ้านดุซงมาแจ หมู่ 2 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดถังแก๊สน้ำหนักหลายสิบกิโลกรัมที่ฝังไว้ใต้ผิวถนน ทำให้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง รถหุ้มเกราะพังเสียหายทั้งคัน และกำลังพลที่อยู่ในรถมีทั้งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงพนักงานอบต.บางปอดับ 2 คนถนนที่นราฯ
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ที่ อ.เมือง จ.นราธิวาส คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ประกบยิงพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เสียชีวิต 2 ราย คือ นายเอกชัย จันทร์แก้ว อายุ 28 ปี เป็นพนักงานดับเพลิงของ อบต.และ นางนวลน้อย บกสวัสดิ์ อายุ 43 ปี เป็นพนักงานจัดเก็บรายได้ของ อบต. โดยทั้งคู่เป็นญาติกัน เหตุเกิดขณะที่นายเอกชัยขี่รถจักรยานยนต์ออกจาก อบต.มุ่งหน้ากลับบ้าน มีนางนวลน้อยนั่งซ้อนท้ายมาด้วย จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหลังสถานีอนามัยบางปอ บ้านโคกสุมุ ต.บางปอ โดยหลังก่อเหตุคนร้ายยังได้ชิงอาวุธปืนพกของนายเอกชัย ก่อนจะหลบหนีไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 21.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายสูดิง รอเก๊ะ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 บ้านกูแบกือโระ หมู่ 6 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บขณะนั่งอยู่ในร้านน้ำชาในหมู่บ้านกำปงบือแน หมู่ 2 ต.จะกว๊ะ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ส่วนวันพุธที่ 20 มิ.ย.เวลา 03.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งจากโรงพยาบาลปัตตานีว่ามีประชาชนถูกยิงได้รับบาดเจ็บถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบผู้ที่ถูกยิงคือ นายวิชิต สมาน อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าท้อง โดยนายวิชิตให้การว่ากำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนที่บ้านเพื่อน หลังโรงเรียนเทศบาล 4 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี จากนั้นก็ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่โดยไม่ทราบสาเหตุ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ที่ อ.เมือง จ.นราธิวาส เวลาประมาณ 03.16 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพชายไม่ทราบชื่อถูกทิ้งบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ท้องที่บ้านแคนา หมู่ 7 ต.บางปอ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพ นายภิญโญ สาและ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 บ้านยี่งอ หมู่ 7 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่บนถนน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ที่ศีรษะและลำตัว เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายน่าจะถูกยิงมาจากที่อื่นแล้วถูกนำศพมาทิ้งบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
เวลา 20.40 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายมะซัน กาเจร์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/1 หมู่ 1 บ้านมะนังกาหยี ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะที่ นายมะซัน กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายชนบท ท้องที่บ้านทำนบ หมู่ 5 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส เพื่อไปหาภรรยา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาจาก จ.ยะลา เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเพื่อนนักศึกษาและนายนูรมาน ดอเลาะ หลังถูกทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 จับกุม