'หมออำพล'ระบุต้องจำแนกให้ออก65โครงการมาบตาพุด-ทำ HIA
ชี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องไปจำแนกออกมาให้ได้โครงการใดอาจมีผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน เข้าเงื่อนไขตามม.67วรรค2 ของรธน. เลขาธิการ สช.เชื่อ HIA จะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการปฏิรูปประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญของการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กล่าวถึงการประเมินผลกระทบทางด้านสุขภาพ (Health Impact Assessment – HIA) ว่า เป็นเครื่องมือกำหนดหลักเกณฑ์แนวทางการทำ HIA ในประเทศไทย ซึ่งการมีเครื่องมือใหม่ในการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพจากนโยบายสาธารณะ จากกิจกรรมโครงการของรัฐ ดีกว่าให้ผลกระทบเกิดความเสียหายขึ้นแล้วจึงจะมาดำเนินการ
เลขาธิการ สช. กล่าวว่า การประเมินผลกระทบทางด้านสุขภาพไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะดำเนินโครงการ ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมภาคประชาชน ชุมชนในท้องถิ่นให้มีกิจกรรมร่วมกับโครงการใหม่ๆ ทดลองใช้ HIA เป็นเครื่องมือในการประเมินผลกระทบในพื้นที่ เพื่อจะให้ได้องค์ความรู้ มีประสบการณ์เรียนรู้ และทำงานร่วมกัน
กรณีคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่สั่งให้ 65 โครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยองหยุดการดำเนินการชั่วคราว นั้น นพ.อำพล กล่าวว่า 65 โครงการ ประเด็นตอนนี้อยู่ที่ว่า ต้องไปจำแนกให้ได้ โครงการใด อาจมีผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนแล้วเข้าเงื่อนไขตามมาตรา 67 วรรค 2 ในรัฐธรรมนูญ ถ้าโครงการใดไม่มีผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนไม่จำเป็นต้องทำ นี่คือเรื่องใหญ่ที่จะต้องมีการจำแนกออกมา
“ขณะนี้คณะกรรมการ 4 ฝ่ายของนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังคิดว่าจะมีวิธีการจำแนกอย่างไร พอจำแนกออกมาได้แล้วว่า โครงการใดมีผลกระทบรุนแรงก็จะต้องมีการประเมินผลกระทบทั้งการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment, EIA) และ HIA โดยมี 3 เงื่อนไข คือ 1.ต้องทำทั้ง EIA HIA ซึ่งคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศหลักเกณฑ์แล้วทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องนำไปดำเนินการ ควบคู่กับการทำ EIA ซึ่งโครงการที่มีผลกระทบรุนแรงต้องทำ HIA แน่นอน เนื่องจากยังไม่เคยมีการทำมาก่อน โครงการใดไม่กระทบก็ไม่ต้องทำ ต้องแยกทำเป็นกรณี” นพ.อำพล กล่าว และว่า 2.ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ให้สาธารณะร่วมทบทวน ไม่ใช่แอบทำหรืออนุญาตกันเอง และ 3. ต้องมีความเห็นขององค์กรอิสระเป็นการให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของหน่วย งานที่มีอำนาจอนุมัติและอำนาจอนุญาต ตรงนี้องค์กรอิสระยังไม่มี ดังนั้นกรรมการชุดนายอานันท์ ต้องไปออกแบบว่าองค์กรอิสระจะเป็นอย่างไร
นพ.อำพล กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อจะทำเรื่องนี้อยู่ เพราะฉะนั้นต้องทำ 3 เรื่องดังกล่าวถึงจะผ่านด่านรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 ซึ่งกรณี HIA จะเป็นเครื่องมือหนึ่ง ในการปฏิรูปประเทศไทยอย่างน้อย การให้ความสำคัญของการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ไม่ใช่ให้เรื่องการทำนโยบายให้รัฐหรือเอกชนเป็นผู้คิดโดยประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม เป็นการหาจุดสมดุลแก้ปัญหาร่วมกันอย่างยั่งยืน