ส่งหลักฐาน‘อิศรา’ รร.จ.แพร่ หักหัวคิวอาหารกลางวันเด็ก นร.- ผอ.ยันมีฎีกาเบิกจ่าย

รอง ปธ.สภาฯเมืองแพร่ ส่งหลักฐาน ‘อิศรา’ รร.เทศบาล หักหัวคิวอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ทำสัญญา 6.2 แสน บ. แต่ผู้รับจ้างไม่ได้ถือเงิน แถมครู 18 คนกินด้วย วันหยุด แข่งกีฬา ก็โดน ลายมือระบุ ‘ครูไก่หัก 1,800’ ด้าน ผอ.โรงเรียนยันทำถูกระเบียบ มีฎีกาเบิกจ่าย พร้อมแจง ด้านเทศบาลรับกำลังสอบ

เมื่อเร็วๆ นี้ นายนพดล วังใน รองประธานสภาเทศบาลเมืองแพร่ และ นายสันติ กุณาใหม่ สมาชกสภาเทศบาล (ส.ท.) เมืองแพร่ ได้ร้องเรียนต่อสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขอให้ตรวจสอบกรณีโรงเรียนเทศบาลวัดหัวข่วง ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ได้ทำสัญญาว่าจ้างนางอัมพร บุญมา อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 1 ต.กาญจนา อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เป็นผู้รับจ้างจัดทำอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนของโรงเรียนเทศบาลวัดหัวข่วง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน นักเรียน 289 คน ในระดับชั้นอนุบาล-ประถมการศึกษา เป็นเวลา 90 วัน โดยมีรายการอาหารตามแนบท้ายสัญญา ในวงเงิน 624,180 บาท แบ่งจ่าย 6 งวด โดยเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.2559 -11 ต.ค.2559 แต่ในทางปฏิบัติมิได้เป็นไปตามข้อกำหนดสัญญา ดังนี้

1.ผู้รับจ้างถูกโรงเรียนหักเงินค่าอาหารกลางวันโดยไม่มีใบเสร็จรับเงิน

2.เด็กนักเรียนไม่มาก็หักเงิน ไปแข่งขันกีฬาก็หักเงิน วัดหยุดก็หักแล้วเงินทั้งหมดที่ถูกหัก ไม่ได้รับใบเสร็จรับเงินจากทางโรงเรียน

3.มีการให้ครูจำนวน 18 คนไปรับประทานอาหารกลางวันโดยคิดเงินรวมจากเงินรายหัวค่าอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน

4.มีการหักเงินไปให้ครูคนหนึ่งชื่อไก่

5.ผู้รับจ้างได้รับเงินสดแต่ไม่ได้รับเช็คเงินประจำงวดและแต่ละงวดมีรายการหักเงินไว้

พฤติการณ์ดังกล่าว กระทำโดยชอบหรือไม่ เข้าข่ายผิดระเบียบ หรือ ส่อทุจริตหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการร้องเรียนดังกล่าวนายนพดลและนายสันติ ได้นำเอกสารรายการเงินค่าอาหารกลางวัน ในแต่ละเดือน และ รายการที่อ้างว่าเป็น “ลายมือของครูที่หักเงินและนำเงินสดที่เหลือจากการหักมาให้ผู้รับจ้างโดยไม่ออกใบเสร็จรับเงิน”ประกอบการร้องเรียน อาทิ “8-11 ส.ค.59 รายการหักครูไก่ 1,800”

ล่าสุด 15 ก.ย.2559 นายนพดล เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมสภาเทศบาลเมืองแพร่ประจำเดือน โดยมีนางสุทธิณี เรียนใจดี ผู้อำนวยการ โรงเรียนฯเข้าร่วมด้วย นายนพดล บอกที่ประชุมว่าขอให้ทำอย่างถูกต้อง แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนชี้แจงว่าการว่าจ้างทำตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย และหลังจากนั้น 2 วัน ทางโรงเรียนกลับไปประทับอากรแสตมป์ย้อนหลังในสัญญา ซึ่งผิดปกติ

นายนพดลเปิดเผยอีกว่า กรณีนี้ได้รับการร้องเรียนจากผู้รับจ้างโดยตรงว่าเป็นอย่างนี้มานับสิบปี จนทนไม่ไหว ผู้ร้องยังได้ร้องเรียนต่อ ผู้ว่าฯ จ.แพร่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดแพร่ แต่ ยังไม่มีใครเข้ามาตรวจสอบ แม้กระทั่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดแพร่ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เทศบาลบางคนที่เคยตรวจสอบกรณีดังกล่าวได้ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานให้เข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง เพิ่งมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขต 5 ติดต่อมาให้ข้อมูล ที่จ.พะเยา ซึ่งต้องเดินทางไกลมาก จึงยังไม่ได้นัดหมายกัน

“ที่ผมต้องร้องเรียนเพราะอยากให้เด็กนักเรียนได้กินอาหารอย่างเต็มจำนวนเงินที่ได้รับจัดสรรจากเทศบาล และกรณีในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้น แค่โรงเรียนเดียว มีอีกหลายแห่ง ใน จ.แพร่ เกี่ยวพันกับผู้บริหารเทศบาลบางคน และผู้อำนวยการโรงเรียนบางคน ล่าสุด เมื่อคืนก่อนครูคนหนึ่งไปดักรอ ผู้รับจ้างที่บ้านขอให้ถอนเรื่องร้องเรียน”นายนพดลกล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อ 14.25 น.วันที่ 15 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นางสุทธิณี เรียนใจดี ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดหัวข่วงเพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริง นางสุทธิณีชี้แจงสรุปว่า

1.จ้างจัดซื้ออาหารกลางวันเด็กนักเรียนของโรงเรียนฯ เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ แบ่งจ่ายเป็น 6 งวดตามสัญญา ซึ่งจากเดิมเจ้าหน้าที่พิมพ์ผิดเป็น 5 งวดและได้แก้ไขให้ถูกต้องแล้ว

2.ในแต่ละงวดมีฏีกาการเบิกจ่ายให้แก่ผู้รับจ้างเป็นเช็ค อย่างถูกต้อง ไม่ได้ชำระเป็นเงินสด

3.ไม่หักเงินไว้ตามที่ร้องเรียน และครูไม่ได้กินอาหารกลางวัน

4.จำนวนนักเรียนคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ได้แก้ไขให้ถูกต้องแล้ว

5.ได้ชี้แจงไปยังผู้บังคับบัญชาหรือ กองการศึกษาเทศบาลเมืองแพร่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นี่มีครูชื่อไก่หรือไม่ เพราะถูกร้องเรียนว่ามีการหักเงินให้ครูชื่อไก่ นางสุทธิณี ยอมรับว่ามีครูชื่อไก่ แต่ยืนยันว่าไม่มีการหักเงินไว้ตามที่มีการร้องเรียน

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้จัก นางอัมพร ผู้รับจ้าง หรือไม่ นางสุทธิณี ตอบว่ารู้จักผู้รับจ้างเป็นคนมีจิตใจดี

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีปัญหาขัดแย้งกับผู้รับจ้างหรือไม่ ไม่มีปัญหาขัดแย้งกับผู้รับจ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าเหตุใดจึงถูกร้องเรียน นางสุทธิณี ไม่ทราบเหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ร้องเรียนได้ร้องเรียนว่าถูกโรงเรียนหักเงินเป็นเวลาหลายปี นางสุทธิณีตอบว่า เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึง 1 ปี ก่อนหน้านี้เกิดปัญหาหรือไม่นั้น ไม่ทราบ และยินดีให้ข้อมูลทุกอย่าง

เมื่อเวลา 15.20 น.ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นางสาวเรณู แก้วธิดา ผู้อำนวยการกองศึกษา สำนักงานเทศบาลเมืองแพร่ ชี้แจงว่ากำลังเรียยกให้นางสุทธิณี เรียนใจดี ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดหัวข่วง มาชี้แจงข้อเท็จจริงเนื่องมีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่และหลายแห่ง อย่างไรก็ตามการจัดซื้อจัดจ้างเป็นอำนาจของโรงเรียน ซึ่งต้องดำเนินการตามระเบียบพัสดุ ในการเบิกจ่ายผู้อำนวยการโรงเรียนจะต้องขออนุมัติฎีกาเบิกจ่ายมายังกองคลังเทศบาลฯ โดยต้องแนบรายชื่อนักเรียนตามความเป็นจริง กรณีนี้ไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องของโรงเรียน ต้องรอฟังคำชี้แจงจากผู้อำนวยการก่อน

“การจัดซื้อจัดจ้าง เป็นเรื่องของโรงเรียน ฯ เทศบาลไม่มีหน้าที่ว่าจ้าง เพียงแต่เทศบาลอนุมัติเงินตามที่โรงเรียนขอเบิกจ่ายมา ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น กำลังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ จะต้องเรียกผู้อำนวยการมาสอบถาม ตอนนี้อยูระหว่างดำเนินการ”นางสาวเรณู แก้วธิดากล่าว